คณะกรรมการธนาคารไทยธนาคารยืนยันดูแลการลงทุนใน CDO อย่างใกล้ชิด

พฤหัส ๒๙ พฤศจิกายน ๒๐๐๗ ๐๙:๒๐
กรุงเทพฯ--29 พ.ย.--ธนาคารไทยธนาคาร
นายทวี บุตรสุนทร ประธานกรรมการ ธนาคาร ไทยธนาคาร จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากกรณีที่ธนาคารได้เข้าไปลงทุนในตราสาร Collateralized Debt Obligations (CDO) ส่งผลให้ธนาคารต้องมีการตั้งสำรองสำหรับ CDO ดังกล่าว อันเนื่องมาจากผลกระทบของภาวะเศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกา และมีบางกระแสข่าวระบุว่า มีผู้มองว่าอาจเกิดจากความไม่รอบคอบของผู้บริหารในการเข้าไปลงทุนนั้น ในเรื่องดังกล่าวทางคณะกรรมการธนาคารได้มีการตรวจสอบกันแล้วว่า การเข้าไปลงทุนใน CDO ของธนาคาร ไม่ได้เกิดจากการบริหารงานที่ผิดพลาดหรือปฏิบัติงานโดยทุจริตแต่อย่างใด แต่ถือว่ามีเหตุผลในการลงทุนอันสมควรในภาวะขณะนั้น เนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าว ธนาคารได้รับเงินชดเชยที่ค้างชำระจากกองทุนฟื้นฟูฯ เข้ามาประมาณ 59,000 ล้านบาทในปี 2548 ซึ่งเป็นการยากลำบากมากที่จะนำไปปล่อยสินเชื่อที่มีคุณภาพในตลาดในประเทศในระยะเวลาสั้นๆ ดังนั้น ธนาคารจึงมีนโยบายว่าน่าจะเป็นการดีที่มีการกระจายความเสี่ยงทั้งในตลาดในประเทศและต่างประเทศ ธนาคารจึงได้มีการพิจารณาการลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศเช่น CDO ซึ่งในการลงทุนก็ได้มีการพิจารณาเรื่องความเสี่ยงโดยดูการจัดอันดับความเสี่ยงของสถาบันจัดอันดับความเสี่ยงสากลเป็นหลัก และ CDO ทั้งหมดที่ธนาคารได้เข้าไปลงทุนอยู่ในระดับน่าลงทุน ( Investment Grade ) ทั้งสิ้น แต่ปัญหาในปัจจุบันในประเทศสหรัฐอเมริกาที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนในตราสารต่างๆ ทั่วโลก เกิดจากการขาดสภาพคล่องของระบบเป็นหลัก
นายทวี กล่าวเพิ่มเติมว่า คณะกรรมการธนาคารเองก็ได้มีการติดตามสถานการณ์และดูแลให้มีการแก้ไขปัญหาอย่างใกล้ชิด โดยในส่วนของซับไพรม์ CDO ที่มีปัญหานั้น ปัจจุบันธนาคารได้เข้าไปลงทุนเพียง 50 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งก็ได้ดำเนินการตั้งสำรองเผื่อการด้อยค่าไว้ทั้งหมดตามเกณฑ์อนุรักษ์นิยมเรียบร้อยแล้ว รวมถึง CDO ตัวอื่น ๆ ทางธนาคารก็จะได้มีการตั้งสำรองไว้เต็มที่ตามเกณฑ์อนุรักษ์นิยมเช่นเดียวกัน เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงไว้ก่อน ถึงแม้ว่า CDO ทุกตัวที่ถืออยู่ในปัจจุบันยังไม่มีการ Default และมีการชำระดอกเบี้ยอยู่ตามปกติทุกตัวก็ตาม ซึ่งรวมถึงซับไพรม์ CDO ด้วย
สำหรับการเพิ่มทุนของธนาคารไทยธนาคารนั้น นายทวีได้ให้ความเห็นว่า การเพิ่มทุนดังกล่าวไม่น่ามีปัญหาแต่อย่างใด เนื่องจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของธนาคารทั้ง 2 ราย คือ กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ และกลุ่ม TPG ต่างยืนยันว่า จะใช้สิทธิเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนเต็มจำนวนตามสัดส่วน และยังพร้อมที่จะเข้าซื้อหุ้นเพิ่มเติมในส่วนที่เหลือทั้งหมดอีกด้วย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
สำนักประชาสัมพันธ์:
กานต์พิชชา ธนจินดาเลิศ โทร. 0-2638-8259

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๔๗ เอ. เจ. พลาสท์ คว้า 2 รางวัลใหญ่ จาก SET Awards 2024 และได้รับการประเมิน CGR ดีเลิศ ระดับ 5 ดาว
๑๖:๑๓ เปิดมาตรการ พักหนี้ ลดดอกเบี้ย ช่วยเหลือ SMEs ถูกน้ำท่วมในงาน มันนี่ เอ็กซ์โป 2024 เชียงใหม่
๑๖:๓๙ หน้าหนาวมาเยือน! กรมอนามัยเตือนดูแลสุขภาพให้พร้อม เด็กเล็ก-ผู้สูงอายุเสี่ยงเจ็บป่วยง่าย
๑๖:๕๗ เปิดรันเวย์อวดผลงานไอเดียสร้างสรรค์ของ 5 ผู้ชนะรางวัลทุนการศึกษา จากโครงการ Jaspal Group Scholarship Program
๑๖:๐๘ กิฟฟารีน แนะนำไอเทมเด็ด กิฟฟารีน เอช เอ็ม บี พลัส วิตามินดี 3 สำหรับช่วยดูแลมวลกล้ามเนื้อให้แข็งแรง
๑๕:๐๑ ไขข้อสงสัย สินเชื่อรถแลกเงินคืออะไร
๑๕:๓๘ ซื้อมอเตอร์ไซค์ ออกรถใหม่ มีขั้นตอนอย่างไร ต้องเตรียมอะไรบ้าง
๑๕:๐๕ ยางขอบ 17 ยี่ห้อไหนดีที่ขับขี่สนุก และยังคงนุ่มสบาย
๑๔:๕๖ heygoody คว้าแชมป์จากเวที Thailand Influencer Awards 2024 ตอกย้ำความเข้าใจลูกค้า Introvert
๑๔:๐๓ เมืองไทยประกันชีวิต คว้า 4 รางวัลใหญ่ระดับสากล ด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล และเป็นองค์กรสถานประกอบการดีเด่นด้านแรงงานสัมพันธ์และสวัสดิการ