กฟผ. ลงนามรับซื้อไฟฟ้าโครงการเทิน-หินบุนส่วนขยาย

พฤหัส ๒๕ ตุลาคม ๒๐๐๗ ๑๔:๓๐
กรุงเทพฯ--25 ต.ค.--กฟผ.
กฟผ. ลงนามร่วมกับบริษัท เทิน-หินบุน เพาเวอร์ รับซื้อไฟฟ้าโครงการเทิน-หินบุนส่วนขยาย นับเป็นโครงการที่ได้นำทรัพยากรมาใช้ให้เกิดประโยชน์มากขึ้นต่อประเทศไทยและลาว
วันนี้ (25 ต.ค.) เวลา 11.00 น. ณ ห้องประชุม 201 อาคารสำนักผู้ว่าการ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) มีพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจการรับซื้อไฟฟ้าโครงการเทิน-หินบุนส่วนขยาย ระหว่าง กฟผ. โดยนายไกรสีห์ กรรณสูต ผู้ว่าการ กฟผ. และ นายวีระพน วีระวง Director General, Department of Energy Promotion and Development สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ในฐานะผู้แทนบริษัท เทิน-หินบุน เพาเวอร์ จำกัด พร้อมด้วยสักขีพยานที่มาร่วมงาน
ผู้ว่าการ กฟผ. ให้สัมภาษณ์ภายหลังการลงนามว่า การลงนามบันทึกความเข้าใจการรับซื้อไฟฟ้าโครงการเทิน-หินบุนส่วนขยายครั้งนี้ เกิดจากที่ได้มีการเจรจาการรับซื้อไฟฟ้าระหว่าง กฟผ. กับบริษัทเทิน-หินบุน เพาเวอร์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ลงทุนจนได้อัตราค่าไฟฟ้าในราคาที่เหมาะสม คือประมาณ 1.82 บาทต่อหน่วย รวมถึงข้อตกลงในรายละเอียดของเงื่อนไขสำคัญด้านอัตราค่าไฟฟ้า ด้านเทคนิค และด้านกฎหมาย เพื่อนำไปจัดทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้า เพื่อรับซื้อไฟฟ้าได้ในเดือนมีนาคม 2555
“โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำเทิน-หินบุนส่วนขยาย เป็นหนึ่งในแผนการรับซื้อไฟฟ้าจากประเทศเพื่อนบ้าน ตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า หรือ แผนพีดีพี 2007 ทั้งนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาล สปป.ลาว ในการพัฒนาโรงไฟฟ้าจากพลังน้ำซึ่งมีต้นทุนต่ำ มาใช้ให้เกิดประโยชน์มากขึ้นต่อทั้งสองประเทศ” ผู้ว่าการ กฟผ. กล่าว
สำหรับโครงการเทิน-หินบุนส่วนขยายนี้ เป็นโครงการที่ต่อเนื่องจากโครงการเดิม ที่มีกำลังผลิต 210 เมกะวัตต์ โดยได้ลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า และสามารถผลิตไฟฟ้าขายให้กับ กฟผ. ตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2541 เป็นต้นมา ซึ่งต่อมา บริษัทฯได้เสนอขอขยายกำลังผลิตไฟฟ้าเพิ่มเติม โดยจะสร้างเขื่อนเก็บกักน้ำเหนือเขื่อนเดิมเพื่อให้สามารถควบคุมน้ำได้มากขึ้น ทำให้สามารถขยายการติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ณ เขื่อนเดิมเพิ่มขึ้นอีก 220 เมกะวัตต์ และขอปรับปรุงตัวเลขกำลังผลิตตามสัญญาฯ เดิม 210 เมกะวัตต์ เป็น 220 เมกะวัตต์ ตามสมรรถนะจริงของเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเครื่องปัจจุบัน ทั้งนี้ โครงการใหม่จะมีกำลังผลิตรวม 440 เมกะวัตต์และสามารถผลิตไฟฟ้าให้แก่ประเทศไทยรวมทั้งหมดประมาณ 2,572 ล้านหน่วยต่อปี โดยมีกำหนดจ่ายไฟฟ้าในเดือนมีนาคม 2555 ซึ่งโครงการนี้จะสามารถสนองความต้องการไฟฟ้าในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยได้เป็นอย่างดี

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๑ ก.พ. รฟท. จัดรถไฟส่งผู้ชุมนุมขบวนคนจนเมืองเพื่อสิทธิที่อยู่อาศัย เครือข่ายสลัม 4 ภาค กลับภูมิลำเนาโดยสวัสดิภาพ
๒๑ ก.พ. BCPG เผยผลการดำเนินงานปี 2567 กำไรสุทธิกว่า 1,800 ล้านบาท เติบโต 65% จากปีก่อน พร้อมประกาศจ่ายเงินปันผลครึ่งปีหลัง
๒๑ ก.พ. เกรท นำทีมศิษย์เก่า ฟอส-แบงค์ ฉลองครบรอบ 40 ปี ม.รังสิต เปิดตัว คริส หอวัง กับบทบาท ครูผู้ฮีลใจนักศึกษา แห่งสถาบัน
๒๑ ก.พ. ธนาคารกรุงเทพ ประกาศจ่ายเงินปันผล หุ้นละ 8.50 บาท สำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2567
๒๑ ก.พ. GULF เคาะแล้ว! อัตราดอกเบี้ยหุ้นกู้อายุ 4-10 ปี ที่ 3.00 - 3.55% ต่อปี พร้อมเสนอขายประชาชนทั่วไป 27-28 ก.พ. และ 3 มี.ค.68 ผ่านสถาบันการเงินชั้นนำ 10
๒๑ ก.พ. Selena Gomez, benny blanco, Gracie Abrams ส่งเพลงสนุกๆ โดนใจ Gen-Z Call Me When You Break Up การรวมตัวของอเวนเจอร์วงการเพลงป็อปที่ทุกคนรอคอย!
๒๑ ก.พ. MBK Care อาสาทำดี ปันน้ำใจสู่สังคม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ ปีที่ 7 ส่งมอบความสุขเพื่อผู้พิการทางสายตา พร้อมสิ่งของอุปโภคบริโภค
๒๑ ก.พ. บางจากฯ ปรับโครงสร้างธุรกิจ เพิ่มประสิทธิภาพและความคล่องตัวของกลุ่มบริษัทบางจาก
๒๑ ก.พ. สวยทุกลุค ชมพู่ - อารยา ถ่ายทอดไลฟ์สไตล์ของสาว GUESS ในแคมเปญคอลเลกชัน Spring Summer 2025 สีสันแห่งฤดูกาลใหม่
๒๑ ก.พ. วช. เปิดศูนย์การเรียนรู้โดรนเพื่อการเกษตร ต้นแบบการยกระดับประสิทธิภาพภาคการเกษตรของจังหวัดกาฬสินธุ์ ณ