กรุงเทพฯ--19 ต.ค.--ธนาคารกรุงเทพ
จุดเด่นในไตรมาส 3 ปี 2550 เทียบกับไตรมาส 3 ปี 2549
* กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 17.9
* รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.9
* รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.6
* ค่าใช้จ่ายที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลงร้อยละ 18.0
ธนาคารกรุงเทพรายงานผลประกอบการสำหรับไตรมาส 3 ของปี 2550 ซึ่งปรับตัวดีขึ้นหลายด้าน โดยมีกำไรสุทธิจำนวน 5,040 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 766 ล้านบาท หรือร้อยละ 17.9 จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ส่วนกำไรก่อนหักสำรองและภาษีมีจำนวน 8,667 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 43.7
ผลประกอบการในภาพรวมของธนาคารมีการขยายตัวทั้งด้านสินเชื่อและเงินฝาก โดยคุณภาพสินทรัพย์อยู่ในระดับใกล้เคียงสิ้นปี 2549 และเมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ของปีที่แล้ว ในไตรมาสนี้ธนาคารมีรายได้เพิ่มขึ้นเนื่องจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ รายได้ค่าธรรมเนียม และกำไรจากการปริวรรตเงินตรามีการขยายตัว ในขณะที่ค่าใช้จ่ายลดลงอย่างชัดเจน ส่งผลให้ธนาคารมีกำไรสูงขึ้น
ในไตรมาส 3 ธนาคารมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ 11,867 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2549 จำนวน 969 ล้านบาท หรือร้อยละ 8.9 โดยรายได้ดอกเบี้ยประเภทต่าง ๆ ลดลงตามทิศทางอัตราดอกเบี้ยในตลาดที่ปรับตัวลง แต่ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยลดลงในสัดส่วนที่มากกว่า ดังนั้น ในไตรมาสนี้ ธนาคารจึงมีส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 2.97 ในปีที่แล้ว เป็นร้อยละ 3.13
รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการในไตรมาสนี้ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.6 จากไตรมาสเดียวกันปีที่แล้วเป็น 4,090 ล้านบาท ส่วนใหญ่จากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียมของบริการเอทีเอ็มและอิเล็กทรอนิกส์ และบริการบัตรเครดิต นอกจากนี้ ธนาคารมีกำไรจากการปริวรรตจำนวน 1,077 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.3 อย่างไรก็ตาม ในไตรมาสนี้ ธนาคารมีรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลงร้อยละ 4.0 เป็น 5,421 ล้านบาท เนื่องจากความผันผวนของอัตราดอกเบี้ยในตลาดสหรัฐฯ จากวิกฤตการณ์ด้านสินเชื่อ Subprime ได้ส่งผลกระทบต่อมูลค่าเงินลงทุนในหลักทรัพย์ประเภท Collateralized Debt Obligations (CDOs) จากการปรับมูลค่าตามราคาตลาด (Mark-to-Market) ที่ธนาคารได้ลงทุนทั้งสิ้นจำนวน 50 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แม้ว่าเงินลงทุนของธนาคารไม่ได้เกี่ยวข้องกับสินเชื่อ Subprime แต่อย่าง
ใด ธนาคารจึงตั้งค่าเผื่อการด้อยค่าสำหรับเงินลงทุนดังกล่าว จำนวน 383 ล้านบาท
ค่าใช้จ่ายที่มิใช่ดอกเบี้ยในไตรมาส 3 มีจำนวน 8,621 ล้านบาท ลดลง 1,894 ล้านบาท หรือร้อยละ 18.0 จากไตรมาส 3 ปี 2549 เนื่องจากในไตรมาส 3 ของปีที่แล้ว ธนาคารมีรายจ่ายพิเศษจำนวน 2,761 ล้านบาท เกี่ยวกับสินทรัพย์ที่ธนาคารโอนให้แก่ บสท. ส่วนค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.0 ตามภาวะตลาด และค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอาคาร สถานที่และอุปกรณ์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.0 จากการขยายเครือข่ายสาขา
ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (บมจ.111)
333 ถนนสีลม กรุงเทพฯ 10500 โทรศัพท์ (662) 230-2710 โทรสาร (662) 231-4692
Bangkok Bank Public Company Limited (Bor. Mor. Jor.111)
333 Silom Road Bangkok 10500 Thailand Tel. (662) 230-2710 Fax. (662) 231-4692
ณ สิ้นเดือนกันยายน 2550 สินเชื่อรวมของธนาคารมียอดเพิ่มขึ้นเป็น 995,437 ล้านบาทหรือร้อยละ 3.9 จากสิ้นปี 2549 โดยเพิ่มขึ้นจากลูกค้าทุกกลุ่ม ทั้งลูกค้าบุคคลและลูกค้าธุรกิจ ซึ่งลูกค้าธุรกิจมีการใช้สินเชื่อประเภทเงินทุนหมุนเวียนมากขึ้น และลูกค้าบุคคลใช้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น ส่วนยอดเงินฝากของธนาคารยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยมียอดรวมเพิ่มขึ้นเป็น 1,273,010 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.2
สินเชื่อด้อยคุณภาพ ณ สิ้นเดือนกันยายน 2550 มีจำนวน 88,772 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 8.7 ของสินเชื่อรวม เทียบกับร้อยละ 9.1 ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2550 และในไตรมาส 3 นี้ ธนาคารตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มเติมอีก 1,210 ล้านบาท โดยสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญมียอดสะสม 70,688 ล้านบาท สูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำของธนาคารแห่งประเทศไทยซึ่งเท่ากับ 55,855 ล้านบาท ณ สิ้นไตรมาส
ส่วนของผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 30 กันยายน 2550 มีจำนวน 160,915 ล้านบาท และหากนับรวมกำไรสุทธิในไตรมาส 3 ของปี 2550 ด้วยแล้ว อัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้นและเงินกองทุนชั้นที่ 1 ยังคงแข็งแกร่งอยู่ที่ประมาณร้อยละ 15.6 และร้อยละ 12.9 ตามลำดับ
ธนาคารมีกำไรต่อหุ้นในไตรมาสนี้เท่ากับ 2.64 บาท