กรุงเทพฯ--11 ต.ค.--ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเม้นท์
ก.ล.ต.ไฟเขียว วอร์แรนต์ L&E จำนวน 15.27 ล้านหน่วย ตั้งแต่ 8 ต.ค.ที่ผ่านมา ผู้บริหารคาดเข้าซื้อขายในกระดานได้ปลายเดือนนี้ ระบุการแจกวอร์แรนต์ให้กับผู้ถือหุ้นเดิมครั้งนี้เพื่อตอบแทน ผู้ถือหุ้นเดิม พร้อมประกาศแผนงานจากนี้เดินหน้าขยายธุรกิจต่อเนื่องทั้งตลาดในและต่างประเทศ โดยเฉพาะปี 2551 โรงงานแห่งใหม่พร้อมเดินเครื่องดันกำลังการผลิตเพิ่มอีกเท่าตัว มั่นใจไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง จากการบุกตลาดส่งออก ค้าปลีกและค้าส่ง พร้อมๆกับขยายตลาดโครงการที่ครองตำแหน่งแชมป์ ในปัจจุบัน
นายปกรณ์ บริมาสพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ L&E เปิดเผยถึงความคืบหน้าของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท (วอร์แรนต์) จำนวนไม่เกิน 15,277,778 หน่วย ที่จะออกให้กับผู้ถือหุ้นเดิมโดยไม่คิดมูลค่าในอัตราส่วน 3 หุ้นสามัญเดิม ต่อ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิว่าสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้อนุมัติไฟลิ่งให้ใบสำคัญแสดงสิทธิเริ่มทำการซื้อขายได้แล้ว ตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม 2550 ซึ่งบริษัทได้ยื่นเรื่องต่อตลาดหลักทรัพย์ เพื่อขอให้รับใบสำคัญแสดงสิทธิฯ เข้าซื้อขายในตลาด mai แล้ว ในช่วงนี้จึงอยู่ระหว่างการรอประกาศจากตลาดหลักทรัพย์ให้ใบสำคัญแสดงสิทธิของบริษัทเข้าซื้อขาย อย่างเป็นทางการเท่านั้น
"การแจกใบสำคัญแสดงสิทธิให้กับผู้ถือหุ้นเดิมถือเป็นการคืนกำไรตอบแทนผู้ถือหุ้น คาดว่าถ้าไม่ติดขัดปัญหาใดๆ ใบสำคัญแสดงสิทธิของบริษัท ก็คงจะเข้าซื้อขายได้ประมาณปลายเดือนตุลาคมนี้ และเมื่อครบกำหนด 1 ปี ผู้ถือก็สามารถแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญได้ โดยมีอัตราค่าแปลงสภาพที่ หุ้นละ 10.61 บาท ซึ่งได้กำหนดวันใช้สิทธิแปลงสภาพใบสำคัญแสดงสิทธิเป็นหุ้นสามัญครั้งแรก ในวันที่ 30 ธันวาคม 2551"
นายปกรณ์ กล่าวต่อว่า หลังจากนี้ในฐานะผู้บริหารจะมุ่งมั่นผลักดันให้ธุรกิจเติบโต อย่างต่อเนื่องตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ โดยในปี 2551 มั่นใจว่าธุรกิจของบริษัทจะเติบโตได้อย่างโดดเด่น เนื่องจากโรงงานใหม่ที่ได้ติดตั้งเครื่องจักรเพิ่มกำลังการผลิตเครื่องใหม่ สามารถเดินสายการผลิตได้ใน ต้นปี 2551 ทำให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นจาก 1.5 ล้านชิ้น/ปี เป็น 3 ล้านชิ้น/ปี รองรับการขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศได้อย่างคล่องตัว โดยในปี 2551 บริษัทมีเป้าหมายจะหันมาขยายตลาดส่งออกอย่างจริงจัง โดยเฉพาะตลาดใหม่ที่บริษัทยังไม่เคยส่งออกมาก่อน อาทิ ตลาดในภูมิภาคแอฟริกาใต้ รวมทั้งตลาดเดิมที่เคยส่งออกมาก่อนแต่จะเพิ่มสัดส่วนการส่งออกให้มีสัดส่วนมากขึ้น เช่น ตลาดในกลุ่มยุโรปเนื่องจากบริษัทสามารถผลิตสินค้าที่มีคุณภาพและมีรูปแบบที่ได้รับการยอมรับทัดเทียมกับสินค้าที่ผลิตโดยผู้ประกอบการในภูมิภาคดังกล่าว แต่สามารถจัดจำหน่ายสินค้าในราคาที่ต่ำกว่า จึงมีความพร้อมในการแข่งขันเหนือกว่าประเทศอื่น ซึ่งขณะนี้ลูกค้าจากต่างประเทศเริ่มสั่งซื้อสินค้าของบริษัทแล้ว และคาดว่าจะเห็นคำสั่งซื้อชัดเจนขึ้นตั้งแต่ต้นปี 2551 เป็นต้นไป
ส่วนตลาดในประเทศ ปัจจุบัน L&E เป็นเจ้าตลาดในงานโครงการ ที่จัดจำหน่ายสินค้าผ่าน เจ้าของโครงการก่อสร้าง หรือผู้รับเหมาฯโดยตรง ส่วนการจัดจำหน่ายผ่านร้านค้าส่งและร้านค้าปลีกยังมีไม่มากนัก ซึ่งจะเห็นได้จาก 6 เดือนแรกของปีรายได้กว่า 64% มาจากตลาดโครงการ 34% มาจากตลาดค้าปลีกและค้าส่ง ส่วนที่เหลือเป็นตลาดส่งออก ดังนั้น เพื่อให้สินค้าของบริษัท สามารถครอบคลุมลูกค้าได้ทุกกลุ่มเป้าหมาย ในปี 2551 จึงจะมุ่งขยายตลาดในกลุ่มค้าส่งและค้าปลีก ให้กว้างขวางขึ้น ซึ่งเชื่อว่าการ มุ่งขยายตลาดทั้งการส่งออก ตลาดค้าส่งและปลีกอย่างจริงจังในปี 2551 จะทำให้ผลประกอบการมีอัตราการเติบโตที่โดดเด่น
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : จุฬารัตน์ เจริญภักดี เบอร์โทรศัพท์ : 02-554-9395
เบอร์มือถือ : 089-488-8337