กรุงเทพฯ--25 ต.ค.--มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์
บลจ.ไอเอ็นจี-บัวหลวง ปลื้มยอดจองหน่วยลงทุนเพิ่มทุนรอบ 2 ของ TFUND ล้นทะลัก จน TICON ต้องลดสัดส่วนการจองของตนเอง เพื่อให้นักลงทุนอื่นได้รับจัดสรรครบถ้วนก่อน เชื่อปัจจัยหลักมาจากผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ เผยอัตราปันผลตอบแทน ณ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา สูงถึง 8% ขณะที่ผู้บริหารไทคอนระบุศักยภาพสินทรัพย์ที่เข้าลงทุนมีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง
นายมาริษ ท่าราบ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน (TFUND) เปิดเผยว่า หลังจากปิดการเสนอขายหน่วยลงทุนของกองทุนดังกล่าวให้กับนักลงทุน ทั้งที่เป็นผู้ถือหน่วยเดิมและนักลงทุนทั่วไป ปรากฏว่า ได้รับผลตอบรับอย่างดี โดยมียอดจองซื้อเกินกว่าจำนวนที่เสนอขาย จนทำให้ บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) ต้องลดสัดส่วนการจองซื้อหน่วยลงทุนในส่วนของตนเอง เพื่อให้นักลงทุนประเภทสถาบันและรายย่อยได้รับการจัดสรรหน่วยลงทุนตามความต้องการ ตามหลักการจัดสรรที่ผู้จองจำนวนน้อยจะได้รับจัดสรรก่อน
ทั้งนี้ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน ได้เสนอขายหน่วยลงทุนเพิ่มทุนครั้งที่ 2 จำนวน 185 ล้านหน่วย ในราคาหน่วยละ 10.65 บาท รวมมูลค่า 1,970 ล้านบาท โดยเสนอขายให้กับผู้ถือหน่วยเดิม 50% และประชาชนทั่วไปอีก 50%
“ต้องยอมรับว่า จุดที่ทำให้ยอดจองหน่วยลงทุนของ TFUND มีเป็นจำนวนมากนั้น เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่เห็นถึงศักยภาพของกองทุน TFUND ซึ่งให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอและได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อยจากการขึ้นลงของตลาดหุ้นโดยผลการดำเนินงานของ TFUND ตลอดระยะเวลากว่า 3 ปีที่ผ่านมาได้พิสูจน์ให้เห็นถึงการเติบโตได้อย่างสม่ำเสมอ โดยสามารถจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหน่วยได้ปีละ 4 ครั้ง และอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ซึ่งไม่ว่าตลาดหุ้นจะได้ผลกระทบจากปัจจัยลบต่างๆ เช่นการปฏิวัติในปี 2549 ภาวะไข้หวัดนก ในปี 2548 แต่ TFUND ยังคงสามารถจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหน่วยได้อย่างสม่ำเสมอ โดยอัตราเงินปันผลตอบแทน ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2550 อยู่ 8% ” นายมาริษกล่าว
สำหรับกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน ซึ่งเสนอขายหน่วยลงทุนเพิ่มทุนเป็นครั้งที่ 2 นั้น จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปลงทุนซื้อสินทรัพย์ที่เป็นโรงงานอุตสาหกรรมจากบริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TICON ทั้งสิ้น 47 โรง คิดเป็นพื้นที่ 95,925 ตารางเมตร คิดเป็นมูลค่า 1,940 ล้านบาท ซึ่งเมื่อรวมกับส่วนที่ลงทุนอยู่แล้ว จะทำให้โรงงานอุตสาหกรรมที่ TFUND เข้าไปลงทุนทั้งหมดเพิ่มขึ้นเป็น 131 โรง คิดเป็นพื้นที่ 286,482 ตารางเมตร รวมมูลค่าทั้งสิ้น 5,777 ล้านบาท
โดยสินทรัพย์ที่กองทุนเข้าไปลงทุนนั้น อยู่ในทำเลที่มีศักยภาพ โดยอยู่ใกล้กับแหล่งอุตสาหกรรมที่สำคัญของประเทศ มีจุดศูนย์กลางเชื่อมต่อการคมนาคมขนส่ง ทั้งสนามบิน ท่าเรือ ซึ่งอัตราการเช่าพื้นที่สูงถึง 95% ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนมั่นใจในศักยภาพของกองทุน
“หลังจากนี้ หน่วยลงทุนเพิ่มทุนของ TFUND จะเข้าจดทะเบียนเพิ่มเติมในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งนักลงทุนที่ต้องการการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอและมีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง สามารถทำการซื้อขายผ่านตลาดหลักทรัพย์ได้” กรรมการผู้จัดการ บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) กล่าว
ด้านนายวีรพันธ์ พูลเกษ กรรมการผู้จัดการ บริษัทไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TICON ในฐานะผู้บริหารทรัพย์สิน กล่าวว่า บริษัทฯ เชื่อว่า ความสำเร็จประการสำคัญของการเสนอขายหน่วยลงทุนเพิ่มทุนครั้งที่ 2 ของกองทุน TFUND มาจากความมั่นใจในศักยภาพของสินทรัพย์ที่กองทุนเข้าไปลงทุน ซึ่งในส่วนของไทคอนเอง ถึงแม้จะไม่ได้หน่วยลงทุนตามจำนวนที่ต้องการ ก็ถือเป็นการเสียสละให้ผู้ลงทุนอื่นๆ ได้รับจัดสรรตามที่เขาต้องการ
“เราเชื่อว่า ด้วยศักยภาพของสินทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นทำเลที่ตั้ง รวมถึงอัตราการเช่าที่สูงถึง 95% ผนวกกับกลุ่มลูกค้าหลักซึ่งเป็นกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนอุตสาหกรรมยานยนต์และอิเล็คทรอนิคส์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีโอกาสเติบโตและขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ลงทุนมั่นใจในอนาคตของ TFUND และเป็นประเด็นสำคัญที่ทำให้การเพิ่มทุนประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี” นายวีรพันธ์กล่าว
ขณะที่ นายญาณศักดิ์ มโนมัยพิบูลย์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจำหน่าย กล่าวเพิ่มเติมว่า หน่วยลงทุนของ TFUND จะได้รับความสนใจจากทั้งผู้ถือหน่วยลงทุนเดิมและนักลงทุนทั่วไป ทั้งลูกค้าสถาบันและลูกค้ารายย่อย เนื่องจากเป็นกองทุนที่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในอาคารและที่ดินของโรงงานที่ให้เช่า และยังให้ผลตอบแทนจากการลงทุนในระดับที่น่าพอใจ โดยพิจารณาได้จากอัตราผลตอบแทนจากการจ่ายเงินปันผลที่สม่ำเสมอมาโดยตลอด
สำหรับผู้ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน (TFUND) สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โทร.02-688-7777 กด 2 หรือ www.ingfunds.co.th
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : บริษัท มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด
คุณกฤติยาพร พลตรี (บุ๋ม) โทร.0-2643-1191 ต่อ 26 หรือ 08-9636-8414