กรุงเทพฯ--18 ก.ย.--ออนไลน์ แอสเซ็ท
CIG คุยลูกค้ารุมจีบเพียบ หลังโรงงานและขั้นตอนการผลิตผ่านมาตรฐานของแคร์เรียร์ยุโรป ล่าสุดออกงานแสดงสินค้า Bangkok RHVAC 2007 ลูกค้าแอร์จากต่างประเทศสนใจสั่งสินค้าคับคั่ง ทั้งกลุ่มเดิมและหน้าใหม่จากหลายภูมิภาคโดยเฉพาะแคร์เรียร์จากภูมิภาคเอเชีย "ธีระ พุ่มเสนาะ" เผยพร้อมรับทุกออเดอร์ คุยโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทองพร้อมเดินเครื่องรองรับการผลิตได้เต็มอัตรา คาดรับรู้รายได้บางส่วนใน Q4/50 และบางส่วนจะรับรู้ในปีถัดไป เชื่อหนุนรายได้ปี 2551 แตะ 3,000 ลบ.ขยายตัวอีก 50% จากปีนี้ที่คาดว่าจะมีรายได้ 2,000 ลบ.
นายธีระ พุ่มเสนาะ กรรมการ บริษัท ซี.ไอ.กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CIG ผู้ผลิตคอยล์เย็น (Evaporator Coil) คอยล์ร้อน (Condenser Coil) และคอยล์น้ำเย็น (Chilled Water Coil) ชิ้นส่วนเครื่องปรับอากาศ เครื่องทำความเย็น และอุปกรณ์ถ่ายเทความร้อน ความเย็นประเภทอื่นๆ กล่าวถึงความสำเร็จในการร่วมงานแสดงสินค้าเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความเย็น 2550 ภายใต้ชื่อ Bangkok RHVAC 2007 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12 -16 กันยายน 2550 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค-บางนาว่า ในการออกงานครั้งนี้ บูธของ CIG ได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการผลิตและประกอบเครื่องปรับอากาศจากทั้งในและต่างประเทศเป็นอย่างมาก หลังจากบริษัทฯ สามารถผลิตสินค้าได้ตามมาตรฐานของผู้ประกอบการเครื่องปรับอากาศยักษ์ใหญ่ของโลกอย่างแคร์เรียร์ ยุโรป จึงสร้างความมั่นใจให้กับผู้ประกอบการเครื่องปรับอากาศรายอื่นด้วย
" ในงานนี้เราได้รับการตอบรับที่ดีมาก จากทั้งผู้ประกอบการเครื่องปรับอากาศทั้งในและต่างประเทศ ทั้งลูกค้าเดิมที่เคยสั่งซื้อสินค้ากันมาก่อนและกลุ่มลูกค้าใหม่ ที่ได้ข่าวว่าเราผ่านมาตรฐานจากแคร์เรียร์ ยุโรป ก็ได้ให้ความสนใจจะเข้ามาสั่งซื้อสินค้าด้วย โดยล่าสุดก็เป็นแคร์เรียร์ จากสิงคโปร์ , SWEGON จากสวีเดน, Accant Air จากออสเตรเลีย, Ocam จากอินเดีย ,เทรน จากมาเลเซีย, มิตซูบิชิ จากเลบานอน รวมทั้งผู้ประกอบการผลิตเครื่องปรับอากาศจากจีน, อินโดนีเซีย, ศรีลังกา และ เวียดนาม โดยบางรายอยู่ระหว่างการเจรจาในรายละเอียดเรื่องการสังซื้อสินค้า และบางรายต้องการเข้ามาดูสายการผลิต ซึ่งคาดว่าการเจรจาน่าจะได้ข้อสรุปบางส่วนในเร็วๆ นี้ ซึ่งจะนำไปสู่การสั่งซื้อสินค้าได้ทันในไตรมาสที่ 4/50 และรับรู้รายได้ทันทีในไตรมาสเดียวกัน"
นายธีระกล่าวอีกว่า นอกเหนือจากบริษัทฯ จะได้รับลูกค้าจากการออกมาแสดงสินค้าแล้ว ขณะนี้ยังใช้นโยบายเชิงรุกเข้าพบลูกค้ากลุ่มเป้าหมายทั้งลูกค้าเดิม และกลุ่มลูกค้าใหม่ในแต่ละภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง เพื่อหาลูกค้าใหม่ๆ และขยายออเดอร์จากลูกค้าเดิมเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับกำลังการผลิตจากโรงงานใหม่ในอุตสาหกรรมปิ่นทองที่เริ่มเดินสายการผลิตได้แล้ว โดยจะมีกำลังการผลิตเพิ่มจาก 900 ล้านตารางนิ้ว เป็น 1,200 ล้านตารางนิ้ว ในปี 2550 และเพิ่มเป็น 2,000 ล้านตารางนิ้ว ในปี 2551 ซึ่งปัจจุบันบริษัทใช้กำลังการผลิตเฉลี่ยเพียง 50-60% ของกำลังการผลิตทั้งหมดเท่านั้น ทำให้สามารถรองรับออเดอร์ใหม่ที่จะเข้ามาได้อย่างคล่องตัว
เขากล่าวต่อถึงคำสั่งซื้อที่เข้ามาใหม่ทั้งจากงานแสดงสินค้า Bangkok RHVAC 2007 และจากการเข้าพบปะกับลูกค้าในต่างประเทศหลังจากนี้ จะถือเป็นรายได้ใหม่ที่เพิ่มขึ้น ไม่รวมกับประมาณการเดิมที่เคยระบุไว้ในช่วงก่อนหน้านี้ เมื่อประเมินจากคำสั่งซื้อของลูกค้าที่เข้ามาในขณะนี้ จึงมั่นใจว่าในปี 2551 บริษัทฯ จะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท ขยายตัว 50% จากปี 2550 ที่คาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 2,000 ล้านบาท
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : จุฬารัตน์ เจริญภักดี 089-4888337 , 02-5549395