Science Show พระอภัยมณี “น้ำมหัศจรรย์” โรงเรียนแกนนำของ สสวท. จับศิลปวัฒนธรรมไทยมาใส่ความรู้ทางวิทยาศาสตร์

จันทร์ ๐๘ ตุลาคม ๒๐๐๗ ๑๖:๔๗
กรุงเทพฯ--8 ต.ค.--สสวท.
ทำไมน้ำผสมน้ำปลา มารวมกับกับน้ำผสมเกลือถึงไม่รวมตัวกัน ? ลูกเหม็น เต้นระบำได้ ? สบู่ติดไฟ ? เป็นเพราะอะไร วิทยาศาสตร์มีคำตอบเสมอ ....พระฤาษีจะมาช่วยอธิบายให้ฟัง พระอภัยมณี วรรณกรรมที่มีชื่อเสียงของสุนทรภู่เลยที่มีเนื้อเรื่องมหัศจรรย์อลังการ ถูกนำมาแสดง เป็น SCIENCE SHOW “น้ำมหัศจรรย์” การทดลองวิทยาศาสตร์ที่สนุกและตื่นเต้นดั่งเล่นกล แต่อธิบายได้ ด้วยหลักการวิทยาศาสตร์ โดยนักเรียนชั้น ป. 6 โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ ซึ่งเป็นโรงเรียนแกนนำ วิชาวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และเทคโนโลยี ของสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) คว้ารางวัลชนะเลิศ เหรียญทองการแสดงวิทยาศาสตร์ ช่วงชั้นที่ 2 ในงานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ภาคกลาง และภาคตะวันออก ประจำปี 2540
เด็กชายวิศเวศ ปิยะมงคล (เบสต์) เด็กชายวิชัยเกียรติ แสงรัตนทองคำ (กาย) และเด็กหญิงจุฑามณี ภู่พรายงาม (ดรีม) ผนึกกำลังสามประสาน แสดงเป็นฤาษี นางเงือก และพระอภัยมณี ให้ฤาษีซึ่งเป็นนักปราชญ์ช่วยประสิทธิ์ประสาทวิชาให้ พร้อมกับดนตรีไทยวงใหญ่ที่เพื่อน ๆ ร่วมตัวกันมาเล่นประกอบเป็นแบ็คอัพเพิ่มบรรยากาศให้กับโชว์
คุณครูมยุรี แสงรัตนทองคำ อาจารย์ที่ปรึกษาการแสดงทางวิทยาศาสตร์ชุดนี้ กล่าวถึงที่มาของ การใช้บทละครพระอภัยมณีมานำเสนอว่า พระอภัยมณีเป็นส่วนหนึ่งของบทเรียนวิชาภาษาไทยของนักเรียนชั้น ป. 5 และ ป. 6 จึงนำมาบูรณาการเป็นละครร้องประกอบกับการทดลองวิทยาศาสตร์ เป็นเอกลักษณ์ของโรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบซึ่งตั้งอยู่ภายในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งผูกพันแนบแน่น อยู่กับศิลปวัฒนธรรมไทย
การคัดเลือกกิจกรรมที่ใช้ใน Science Show เกิดจากการที่เด็ก ๆ ค้นคว้าหาการทดลองที่ตนเองมีความสนใจ เช่น น้องกาย ที่ชอบอ่านหนังสือการ์ตูนเกี่ยวกับการทดลองทางวิทยาศาสตร์ ก็จะนำการทดลองที่สนใจมาทำเป็นแผนการทดลองแล้วนำเสนอคุณครูที่ปรึกษา เมื่อได้รับความเห็นชอบจึงได้ทดลองซ้ำเพื่อให้เกิดความชำนาญ สุดท้ายจึงนำมาประกอบกับบทละครร้องและการแต่งกายที่สวยงามตามท้องเรื่องพระอภัยมณี
น้องเบสต์ น้องกาย และน้องดรีม ช่วยกันเล่าถึงสาเหตุที่เลือกเนื้อหาเรื่อง “น้ำมหัศจรรย์” มาแสดงว่าเนื่องจากเคยได้เรียนเกี่ยวข้องกับของเหลว และการเปลี่ยนสถานะของของเหลว จึงเกิดความคิด จะทดลองเกี่ยวกับสสาร ของเหลวว่ามีความสัมพันธ์อย่างไรกับวิทยาศาสตร์
การแสดงนี้แบ่งเป็น 3 เรื่อง เรื่องที่ 1 คือ น้ำไม่ผสมกัน เป็นการทดลองเกี่ยวกับการแยกตัวของของเหลว เรื่องที่ 2 ลูกเหม็นเต้นระบำ ทดลองเกี่ยวกับการทำปฏิกิริยากับสสารโดยใช้สารเคมีเพื่อให้สสารนันเกิดการเคลื่อนไหว และเรื่องที่ 3 เชื้อเพลิงสบู่ ทดลองเพื่อให้ได้สสารใหม่ที่ติดไฟได้เพียงแค่ใช้สบู่ผสมแอลกอฮอล์
การทดลองน้ำไม่ผสมกัน เด็ก ๆ ช่วยกันเทน้ำใส่แก้วในปริมาณที่เท่ากัน จากนั้นเติมน้ำปลาลงในแก้ว ส่วนอีกแก้วทำเช่นเดียวกันแต่เติมเกลือแล้วคนให้ละลาย จากนั้นนำกระดาษแข็งมาปิดแก้วที่เติมน้ำปลา ค่อย ๆ คว่ำแก้วประกบกับแก้วที่เติมเกลือ แล้วค่อย ๆ ดึงกระดาษที่คั่นอยู่ระหว่างแก้วทั้งสองออกอย่างช้า ๆ จะพบว่าน้ำทั้งสองชนิดจะไม่รวมตัวกัน งานนี้ฤาษีอธิบายว่าที่เป็นอย่างนั้นเพราะ “เกลือมีความหนาแน่นมากกว่าน้ำปลา ซึ่งหลักการนี้เองที่คนลอยตัวในทะเลสาปเดดซีได้เพราะน้ำหนักคนหนาแน่น น้อยกว่าน้ำทะเลสาปที่มีเกลือผสมอยู่มาก”
การทดลองลูกเหม็นเต้นระบำ รินน้ำใส่แก้วขนาดใหญ่ แล้วเติมผงฟูลงไปประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ ใส่น้ำส้มสายชู 2 ช้อนชา หยดสีน้ำลงไปเล็กน้อย จากนั้นใส่ลุกเหม็นลงไปในน้ำ เมื่อลูกเหม็นจมลงในน้ำแล้วจะเห็นว่าลูกเหม็นเริ่มเคลื่อนไหวช้า ๆ แต่ถ้าลูกเหม็นไม่เคลื่อนไหวก็เติมผงฟูกับน้ำส้มสายชูลงไป “การใช้สารเคมีที่มีอยู่ในของใกล้ตัวที่นำมาทดลองทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จึงเกิดแรงดันให้ ลูกเหม็นลอยตัว” ฤษีบอก
การทดลองเชื้อเพลิงสบู่ ฝนสบู่ให้เป็นผงแล้วผสมแอลกอฮอล์เข้ากับผงสบู่ในถ้วยกระดาษ แล้วนำผงสบู่ที่อยู่ในถ้วยไปแช่ในน้ำร้อนสักครู่ จากนั้นค่อย ๆ คนจนเข้ากัน เมื่อส่วนผสมสบู่กับแอลกอฮอล์เป็นเนื้อเดียวกันแล้วเทใส่กระป๋องเปล่า ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาทีจนแข็งตัว แล้วใช้เชื้อเพลิงจุดลงในกระป๋อง จะเกิดการติดไฟขึ้น “ผงสบู่ทำหน้าที่เป็นเชื้อเพลิงเหมือนฟืนทำให้จุดไฟได้ง่ายขึ้น” ฤาษีเล่า
การทดลองทั้งสามอย่างนี้ล้วนแต่เป็นพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ที่มีในบทเรียนตั้งแต่ชั้นประถมศึกษา ทำการทดลองได้ง่าย ไม่อันตราย เพียงแต่มีผู้ใหญ่คอยดูแลระหว่างที่ทดลอง “ประโยชน์ที่เด็ก ๆ ได้รับจากการแสดงวิทยาศาสตร์ในครั้งนี้ก็คือนักรียนสามารถบูรณาการความรู้มาประยุกต์ใช้นำเสนอ และนำหลักการทางวิทยาศาสตร์มาอธิบายปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันได้อย่างมีเหตุผล นอกจากนั้นยังเป็นพื้นฐานสร้างความเชื่อมั่น กล้าแสดงออก และรู้จัก การทำงานเป็นกลุ่มด้วย” คุณครูมยุรีกล่าว
รางวัลที่ได้นี้ เป็นความสำเร็จที่เกิดจากแนวทางการเรียนวิทยาศาสตร์ของโรงเรียน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระราชประสงค์ให้ผู้เรียนได้ปฏิบัติจริงและนำความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจำวัน ซึ่งการดำเนินการการเรียนการสอน ผนวกกับที่ สสวท. ได้ส่งเสริมให้โรงเรียนถ่ายทอดความรู้ไปสู่เด็ก ๆ ผ่านกิจกรรมการเรียนการสอนที่หลากหลาย ให้นักเรียนรู้จักสังเกต คิด วิเคราะห์และแก้ปัญหาเป็น เรียนรู้อย่างมีความสุขด้วยความเข้าใจ
รวมทั้งส่งเสริมให้เด็ก ๆ ตระหนักถึงคุณค่าของวิชาวิทยาศาสตร์ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต นอกจาก สสวท. จะเผยแพร่แนวทางดังกล่าวให้โรงเรียนแกนนำแล้ว ยังส่งเสริมไปสู่โรงเรียน ทั่วประเทศ และปรากฏชัดเจนในแนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่จัดทำเผยแพร่ให้ครูนำไปใช้เป็นตัวอย่างในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version