กระทรวงพลังงานประกาศปรับลดอัตราการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงทุกชนิดลง 40 สตางค์ต่อลิตร

อังคาร ๐๖ พฤศจิกายน ๒๐๐๗ ๐๗:๕๐
กรุงเทพฯ--6 พ.ย.--สนพ.
กระทรวงพลังงานประกาศปรับลดอัตราการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงทุกชนิดลง 40 สตางค์ต่อลิตร ยกเว้นเบนซิน 95 เพื่อชะลอการปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศของบริษัทผู้ค้าน้ำมันออกไปก่อน หวั่นประชาชนได้รับความเดือดร้อน
นายวีระพล จิรประดิษฐกุล ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กล่าวว่า จากสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลดปรับตัวสูงขึ้นไปอยู่ในระดับ 85 เหรียญต่อบาร์เรล ยังคงเป็นระดับที่สูงจนอาจเกิดผลกระทบต่อประชาชน ดังนั้นกระทรวงพลังงานจำเป็นที่จะต้องประกาศปรับลดการจัดเก็บอัตราการนำเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจากบริษัทผู้ค้าน้ำมันลง 40 สตางค์ต่อลิตร เพื่อบรรเทาการปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศของบริษัทผู้ค้าน้ำมัน โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 5 พฤศจิกายน 2550 เป็นต้นไป
นายวีระพล กล่าวว่า การปรับลดอัตราการจัดเก็บเงินนำเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในครั้งนี้ ทำให้กองทุนน้ำมันฯมีฐานะลดลง 800 ล้านบาทต่อเดือน ปัจจุบันกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมีรายได้ จำนวน 4,342 ล้านบาทต่อเดือน และมีรายจ่าย 9,900 ล้านบาทต่อเดือน แบ่งเป็น ไถ่ถอนพันธบัตร 8,800 ล้านบาทต่อเดือน จ่ายชำระหนี้ชดเชยตรึงราคาน้ำมัน 0.1 ล้านบาทต่อเดือน ชำระหนี้ชดเชยราคา LPG 751 ล้านบาทต่อเดือน จ่ายชดเชยราคาน้ำมันบี100 เป็นจำนวน 100 ล้านบาทต่อเดือน จ่ายชำระดอกเบี้ยพันธบัตร 249 ล้านบาทต่อเดือน ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2550 ที่ผ่านมา กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมีภาระหนี้สินอยู่ประมาณ 5,572 ล้านบาท และจะจ่ายชำระหนี้หมดภายในเดือนธันวาคม 2550
นายวีระพล กล่าวต่อว่า จากการที่กระทรวงพลังงานได้ประกาศปรับลดอัตราการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงลง 40 สตางค์ต่อลิตร เพื่อชะลอการปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศทุกชนิด ส่งผลให้บริษัทผู้ค้าน้ำมันยังสามารถตรึงราคาขายปลีกออกไปอีก และล่าสุดบริษัทผู้ค้าน้ำมันมีค่าการตลาดเฉลี่ยทุกผลิตภัณฑ์อยู่ที่ 40 สตางค์ต่อลิตร
โดยสาเหตุของราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงนี้ เป็นผลมาจากพายุพัดผ่านแหล่งผลิตน้ำมันของเม็กซิโก ทำให้ต้องหยุดการผลิต แต่ก็เป็นเพียงช่วงสั้น ๆ นอกจากนี้ยังมีนักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มพลังงานและราคาน้ำมันในตลาดโลก ประกอบกับมีปัจจัยสถานการณ์ไม่สงบในประเทศผู้ผลิตน้ำมัน ทั้งอิรักและอิหร่าน แต่ยังมีปัจจัยบวกอยู่บ้าง คือ อากาศจะไม่หนาวตามที่คาดไว้ ประกอบกับการที่โอเปค ประกาศที่จะเพิ่มกำลังการผลิตอีก 500,000 บาร์เรลต่อวัน รวมทั้งจะมีกำลังการผลิตน้ำมันสำเร็จรูปจากจีนและอินเดียเพิ่มขึ้นก่อนสิ้นปี 2550
อย่างไรก็ตามกระทรวงพลังงานไม่ได้นิ่งนอนใจโดยจะติดตามดูสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินและดีเซลจำเป็นต้องปรับตัวสูงขึ้นอีกประมาณ 1 -1.50 บาทต่อลิตร

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ เม.ย. OR จับมือภาครัฐและผู้ประกอบการชุมชน เพิ่มประสิทธิภาพการตลาดผลิตภัณฑ์ OTOP ผ่านโครงการ 'ไทยเด็ด' มุ่งเสริมแกร่งเศรษฐกิจชุมชนไทยอย่างยั่งยืน
๐๔ เม.ย. เทลสกอร์ จับมือพันธมิตร ขับเคลื่อนโครงการ 'Help You, Help Me' สู่ปีที่ 6 ผสานพลังคอนเทนต์ครีเอเตอร์ สนับสนุนโครงการเพื่อสังคม
๐๔ เม.ย. เซ็นทารา แกรนด์ ลาดพร้าว สนับสนุนภารกิจกู้ภัย มอบอาหารและเครื่องดื่มให้เจ้าหน้าที่และบุคลากรทางการแพทย์
๐๔ เม.ย. ร้อนๆแบบนี้ มาหมุนให้ฉ่ำ!!สนุกสุดมันส์ไปกับเครื่องเล่น Water Roller ลูกบอลน้ำมหาสนุก
๐๔ เม.ย. ซัมเมอร์นี้ชวนเช็กอินสมุย แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของชาวเวลเนส ที่ BDMS Wellness Clinic สาขา Celes Samui
๐๔ เม.ย. โซเชียลจับตา ตึกถล่ม-อาฟเตอร์ช็อก ประเด็นร้อนหลังแผ่นดินไหว
๐๔ เม.ย. กรมทรัพยากรน้ำ ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยแม่เหียะน้อย พร้อมระบบส่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.เชียงใหม่
๐๔ เม.ย. GoWabi แพลตฟอร์มจองบริการบิวตี้ครบวงจรอันดับ 1 ในไทยเปิดตัวบริการ GoWabi POS พร้อมประกาศรางวัล GoWabi Top Rated
๐๔ เม.ย. ทีทีบี เชิญชวนเที่ยว พิพิธภัณฑ์ครุฑ สืบสานพลังศรัทธา สรงน้ำ สมเด็จมหาราชทรงครุฑ เสริมพลังบุญรับปีใหม่ไทย
๐๔ เม.ย. บัตรเครดิต ทีทีบี มอบโปรฯ ฟรีอัปเกรด! HUT บุฟเฟต์ อิ่มไม่อั้น จ่ายเพียง 399 บาท