ธนาคารกรุงเทพ เปิดให้บริการสาขาเสิ่นเจิ้น ประเทศจีนพร้อมดำเนินการขอใบอนุญาตเปิดธนาคารท้องถิ่นเต็มรูปแบบ

กรุงเทพฯ--15 ต.ค.--ธ.กรุงเทพ
ธนาคารกรุงเทพ เปิดดำเนินการสาขาเสิ่นเจิ้น ประเทศจีน ให้บริการทางการเงินรองรับการเติบโตทางธุรกิจของลูกค้าธนาคาร และศักยภาพการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีน เผยทำเลที่ตั้งของสาขาอยู่ในบริเวณสามเหลี่ยมลุ่มแม่น้ำเพิร์ล (Pearl River Delta “PRD”) ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงานจำนวนมากกว่า 40,000 แห่ง พร้อมทั้งอยู่ระหว่างดำเนินการขออนุมัติจากทางการจีน เพื่อเปลี่ยนสถานะสาขาของธนาคารในจีนให้เป็นธนาคารท้องถิ่นเต็มรูปแบบ ตอกย้ำความเป็นธนาคารพาณิชย์ชั้นนำของไทยที่มีเครือข่ายสาขาต่างประเทศมากที่สุด ครอบคลุมเมืองเศรษฐกิจสำคัญทั่วโลก
นายประสงค์ อุทัยแสงชัย กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ธนาคารได้รับใบอนุญาตจากทางการจีน ในการเปิดทำการสาขาที่เมืองเสิ่นเจิ้น ใจกลางเขตเศรษฐกิจพิเศษ PRD ซึ่งเป็นฐานที่ตั้งของโรงงานอุตสาหกรรมการผลิตและการส่งออกที่สำคัญทางตอนใต้ของจีนนั้น ทางธนาคารได้เตรียมการในทุกด้านพร้อมแล้ว ทั้งด้านอาคารสถานที่ ระบบงานคอมพิวเตอร์ รวมถึงบุคลากร และได้กำหนดวันเปิดทำการสาขาคือวันศุกร์ที่ 12 ตุลาคม 2550 โดยมีนายสุวัชชัย ทรงวานิช ดำรงตำแหน่งผู้จัดการสาขา
สำหรับที่ตั้งของสาขาเสิ่นเจิ้นนั้นจะอยู่ในบริเวณ PRD ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงานจำนวนมาก ประมาณ 40,000 แห่ง เป็นทำเลที่สะดวกสำหรับลูกค้าส่วนใหญ่ของธนาคารเพราะใช้เวลาเพียง 30-60 นาทีในการเดินทางมาติดต่อหรือใช้บริการ อีกทั้งยังสามารถเชื่อมโยงกับสาขาฮ่องกงในการรองรับการให้บริการได้อย่างสะดวกสบาย โดยสาขามีขอบเขตในการให้บริการเฉพาะสกุลเงินต่างประเทศ แก่ลูกค้าทั้งประเภทบริษัทข้ามชาติ (คือบริษัทที่ถือหุ้นโดยต่างชาติมากกว่า 25% รวมถึงบริษัทที่จดทะเบียนนอกประเทศ / offshore registration) ประเภทบริษัทท้องถิ่น (คือบริษัทที่ถือหุ้นโดยต่างชาติน้อยกว่าหรือเท่ากับ 25% รวมถึงรัฐวิสาหกิจและบริษัทเอกชนท้องถิ่น) ประเภทบุคคลธรรมดาที่เป็นชาวต่างชาติ และประเภทบุคคลธรรมดาที่เป็นคนท้องถิ่น โดยสาขาสามารถทำธุรกรรมได้ทุกประเภทตามที่ได้รับอนุมัติจากทางการจีน
นายประสงค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ทางธนาคารกรุงเทพอยู่ระหว่างการดำเนินการเพื่อยื่นขออนุญาตจากทางการจีน ในการขอเปลี่ยนสถานะสาขาของธนาคารในจีนให้เป็นธนาคารท้องถิ่นเต็มรูปแบบ (Local Subsidiary) ภายหลังจากที่ทางการจีนได้เปิดโอกาสให้ธนาคารต่างชาติสามารถยื่นขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจเป็นธนาคารท้องถิ่นเมื่อปลายปี 2549 โดยกำหนดเงื่อนไขของทุนจดทะเบียนไว้ที่ 1,000 ล้านหยวน (ประมาณ 5,000 ล้านบาท) สำหรับธนาคารท้องถิ่นเต็มรูปแบบนี้จะทำให้ธนาคารต่างชาติที่ได้รับใบอนุญาต สามารถให้บริการทางการเงินทั้งสกุลเงินต่างประเทศและสกุลเงินหยวนแก่ลูกค้าได้ครบวงจรและไม่จำกัดประเภทของลูกค้า เช่นสาขาของธนาคารท้องถิ่นในประเทศจีนทุกประการ
สำหรับการทำธุรกิจของธนาคารกรุงเทพในประเทศจีนนั้น ได้เริ่มขึ้นนับตั้งแต่ประเทศไทยและประเทศจีนเปิดสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน ซึ่งธนาคารกรุงเทพนับเป็นธนาคารไทยแห่งแรกที่เข้าไปมีธุรกรรมในประเทศจีน โดยได้เปิดสำนักงานผู้แทนในกรุงปักกิ่งเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2529 หลังจากนั้นได้เปิดสาขาเพิ่มอีกคือ สาขาซัวเถาเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2535 สาขาเซี่ยงไฮ้เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2536 สาขาเซี่ยะเหมินเมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2541 ปรับยกฐานะสำนักงานผู้แทนปักกิ่งขึ้นเป็นสาขาปักกิ่งเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2548 และล่าสุด เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2550 เปิดสาขาเสิ่นเจิ้นโดยได้โอนธุรกรรมทั้งหมดมาจากสาขาซัวเถา ทั้งนี้ธนาคารให้ความสำคัญในการลงทุนและทำธุรกิจในประเทศจีน เนื่องจากจีนเป็นประเทศที่มีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว
ปัจจุบัน ธนาคารกรุงเทพ เป็นธนาคารไทยที่มีเครือข่ายสาขาต่างประเทศมากที่สุด คือ มีจำนวน 19 สาขา ได้แก่ สาขาในประเทศจีน 4 สาขา ประเทศฮ่องกง 2 สาขา ประเทศญี่ปุ่น 2 สาขา ประเทศไต้หวัน 3 สาขา ประเทศเวียดนาม 2 สาขา ประเทศอินโดนีเซีย ประเทศลาว ประเทศฟิลิปปินส์ ประเทศสิงคโปร์ ประเทศอังกฤษ และประเทศสหรัฐอเมริกา ประเทศละ 1 สาขา นอกจากนั้นยังมี 1 Subsidiary ที่ธนาคารกรุงเทพถือหุ้น100% ตั้งอยู่ในประเทศมาเลเซีย คือ Bangkok Bank Berhad และอีก 1 สำนักงานผู้แทนที่ประเทศเมียนม่า ซึ่งทั้งหมดนั้นล้วนครอบคลุมเมืองเศรษฐกิจสำคัญทั่วโลก