บอร์ดศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ฯ มีมติให้ปรับปรุงค่าธรรมเนียมการซื้อคืนหลักทรัพย์ พร้อมสร้างแรงจูงใจเพิ่มสภาพคล่องให้ธุรกรรม

อังคาร ๒๕ กันยายน ๒๐๐๗ ๑๖:๑๐
กรุงเทพฯ--25 ก.ย.--ตลท.
บอร์ดบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ฯ มีมติอนุมัติการปรับปรุงค่าธรรมเนียมธุรกรรมการซื้อคืนหลักทรัพย์จากแบบขั้นบันไดให้เป็นอัตราเดียวที่ร้อยละ 0.015 ต่อปีเพื่อให้ง่ายต่อการคำนวณต้นทุน และจะลดค่าธรรมเนียมดังกล่าวอีกร้อยละ 25 ให้กับสมาชิกที่สมัครและมีธุรกรรมก่อนสิ้นปี หวังช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้ธุรกรรมซื้อคืนภาคเอกชน หลังธปท. ประกาศจะปิดตลาดซื้อคืน ธปท. ภายในสิ้นปีนี้
นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด (TSD) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ฯ มีมติอนุมัติให้ปรับปรุงค่าธรรมเนียมการให้บริการธุรกรรมซื้อคืนหลักทรัพย์ (Repo) จากเดิมที่มีอัตราการเรียกเก็บกำหนดตามมูลค่าของธุรกรรมต่อรายการแบบขั้นบันไดให้เป็นอัตราเดียวที่ร้อยละ 0.015 ต่อปี สำหรับทุกระยะเวลา โดยจะคำนวณจากมูลค่าการเสนอซื้อหรือขายทุกวัน แล้วเรียกเก็บจากสมาชิกเป็นรายเดือน และมีอัตราขั้นต่ำอยู่ที่ 1,000 บาทต่อเดือน
“นอกจากนี้ TSD ยังปรับลดค่าธรรมเนียมดังกล่าวลงอีกร้อยละ 25 สำหรับสมาชิกที่สมัครและมีธุรกรรมภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2550 เป็นระยะเวลา 6 เดือนนับจากวันเริ่มธุรกรรม เพื่อสร้างแรงจูงใจให้มีสมาชิกเพิ่มขึ้น และมีธุรกรรมผ่านระบบของ TSD” นางสาวโสภาวดีกล่าว
นอกจากการปรับปรุงการจัดเก็บค่าธรรมเนียม การลดค่าธรรมเนียมให้แก่สมาชิกแล้ว บริษัทยังได้พัฒนาระบบเพื่อให้สามารถรองรับการบริหารสัญญา Repo ให้กับคู่สัญญาฝ่ายเดียวด้วย TSD หวังว่าจะสามารถช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับธุรกรรม Repo มากขึ้น ซึ่งธุรกรรม Repo นี้ เป็นกลไกในการบริหารสภาพคล่องของสถาบันการเงินและธุรกิจภาคเอกชน และยังเป็นเครื่องมือในการช่วยบริหารพอร์ตของนักลงทุนสถาบันที่ได้รับความนิยมมากในต่างประเทศ
ทั้งนี้ TSD เริ่มให้บริการระบบงานรองรับธุรกรรม Repo ตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2549 เพื่อรองรับการทำธุรกรรมตลาดซื้อคืนภาคเอกชน หลังจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีประกาศที่จะกำหนดปิดตลาดซื้อคืน ธปท. ภายในไตรมาส 4 ปี 2550 โดยมูลค่าตลาดซื้อคืน ธปท. ตั้งแต่ต้นปี 2550 มีประมาณ 110,000 ล้านบาทต่อวัน และคาดว่า TSD จะสามารถมีส่วนแบ่งทางการตลาดร้อยละ 25 ในปี 2551
ปัจจุบัน TSD มีสมาชิกธุรกรรม Repo จำนวน 11 ราย ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัท เงินทุน ฟินันซ่า จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย พลัส จำกัด (มหาชน), ธนาคาร ไทยธนาคาร จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย, บริษัทเงินทุน กรุงเทพธนาทร จำกัด (มหาชน), ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) และธนาคาร กรุงไทย จำกัด (มหาชน)
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ ส่วนธุรกิจสัมพันธ์ ฝ่ายการตลาด: มาลิน เพียรชอบ หรือ จันทนีย์ พงษ์กระสินธุ์
โทร. 0-2229-2892 ,2896 e-mail address: [email protected] http://www.tsd.co.th/

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ