ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ใหม่และคงอันดับหุ้นกู้เดิม “บ. ดีเอดี เอสพีวี” ที่ระดับ “AAA”

กรุงเทพฯ--10 ต.ค.--ทริสเรทติ้ง
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศอันดับเครดิตระดับ “AAA” ให้แก่หุ้นกู้ชุดใหม่ของ บริษัท ดีเอดี เอสพีวี จำกัด (เอสพีวี หรือผู้ออกตราสาร) ซึ่งมีมูลค่าในวงเงินไม่เกิน 5,499.9 ล้านบาท อายุ 18 ปี (ชุดที่ 7) ในขณะเดียวกันได้ประกาศคงอันดับเครดิตระดับ “AAA” ให้แก่หุ้นกู้ชุดปัจจุบันของบริษัท (DAD12NA, DAD15NA, DAD20NA, DAD20NB, DAD25NA, DAD25NB) โดยอันดับเครดิตหุ้นกู้ของบริษัทสะท้อนถึงความน่าเชื่อถือของผู้เช่าศูนย์ราชการของกรุงเทพมหานคร (ศูนย์ราชการ) แต่เพียงรายเดียวคือกรมธนารักษ์ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐบาลไทย รวมทั้งสะท้อนถึงความแน่นอนของกระแสเงินสดที่จะได้รับจากรายได้ค่าเช่าและค่าบริการต่างๆ จากผู้เช่าซึ่งเพียงพอต่อการชำระหนี้ตามกำหนดเวลา
ทริสเรทติ้งรายงานว่า เอสพีวีจัดตั้งขึ้นภายใต้กฎหมายของประเทศไทย และได้รับอนุญาตให้มีสถานะเป็นนิติบุคคลเฉพาะกิจตามพระราชกำหนดนิติบุคคลเฉพาะกิจเพื่อการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์จากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยมี บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (ธพส.) ซึ่งถือหุ้นทั้งหมดโดยกระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้น 49% ของเอสพีวี
หุ้นกู้ทั้งหมดดังกล่าวออกภายใต้โครงการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ของเอสพีวีซึ่งมีมูลค่ารวมทั้งสิ้นไม่เกิน 24,000 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 3 ปี (2548-2550) โครงการดังกล่าวมีการจัดโครงสร้างให้ได้รับค่าเช่าจากกรมธนารักษ์ซึ่งเป็นตัวแทนของหน่วยงานรัฐอีก 28 แห่งในการทำสัญญาเช่าพื้นที่อาคารระยะเวลา 30 ปี ตลอดจนสัญญาบริการระยะเวลา 30 ปี และสัญญาบริการจัดหาเฟอร์นิเจอร์ระยะเวลา 5 ปีกับ ธพส. (โดยเรียกรวมกันว่า “สัญญาอ้างอิง”) ค่าซื้อสิทธิในการรับชำระค่าเช่าและค่าบริการจาก
กรมธนารักษ์นั้นมีมูลค่าประมาณ 40,000 ล้านบาท ซึ่งเอสพีวีได้ชำระเงินให้แก่ ธพส. แล้ว โดยส่วนหนึ่งอยู่ในรูปของเงินสดซึ่งมาจากการออกหุ้นกู้ในช่วงระหว่างปี 2548-2549 และส่วนที่เหลืออยู่ในรูปของตั๋วสัญญาใช้เงินด้อยสิทธิซึ่งจะได้รับชำระเงินคืนในลำดับรองจากผู้ถือหุ้นกู้ของเอสพีวี สำหรับเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่นั้นจะนำไปใช้ไถ่ถอนตั๋วสัญญาใช้เงินด้อยสิทธิในส่วนที่ออกให้แก่ ธพส. โดยตั๋วสัญญาใช้เงินด้อยสิทธิส่วนที่เหลืออยู่จะช่วยเสริมอันดับเครดิตให้แก่หุ้นกู้ที่ออกภายใต้โครงการนี้
ทริสเรทติ้งกล่าวว่า ธพส. จะนำรายได้จากโครงการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ไปใช้ในการก่อสร้างศูนย์ราชการที่ถนน
แจ้งวัฒนะ เพื่อให้กรมธนารักษ์เช่าพื้นที่เป็นระยะเวลา 30 ปี กรมธนารักษ์ไม่ได้รับอนุญาตให้ยกเลิกสัญญาเช่าพื้นที่ดังกล่าวตราบใดที่หุ้นกู้ที่ออกภายใต้โครงการ หรือหุ้นกู้ที่อาจจะออกมาเพื่อทดแทนหุ้นกู้เดิมยังไม่ได้รับการไถ่ถอนเสร็จสิ้นโดยสมบูรณ์