กรุงเทพฯ--22 ต.ค.--กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง
นายโชติชัย สุวรรณาภรณ์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2550 ว่าคณะรัฐมนตรีอนุมัติการให้สัมปทานปิโตรเลียมตามประกาศเชิญชวนให้ยื่นคำขอสัมปทานปิโตรเลียม แก่ผู้ยื่นขอสัมปทานปิโตรเลียม จำนวน 4 ราย โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1. ให้สัมปทานปิโตรเลียมสำหรับแปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยหมายเลข G 5 / 50 แก่บริษัท นิวคอสตอล (ประเทศไทย) จำกัด
2. ให้สัมปทานปิโตรเลียมสำหรับแปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยหมายเลข G 6 / 50 และสัมปทานปิโตรเลียมเพิ่มเติม แก่บริษัท เชฟรอน ปิโตรเลียม (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท ปตท. สผ. โครงการไทย จำกัด และบริษัท มิตซุย ออยล์ เอ็กซ์พลอเรชั่น จำกัด
3. ให้สัมปทานปิโตรเลียมสำหรับแปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยหมายเลข G 7 / 50 และสัมปทานปิโตรเลียมเพิ่มเติม แก่บริษัท เชพรอน ปิโตรเลียม (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท ปตท. สผ. โครงการไทย จำกัด บริษัท เชลส์ เอ็กซ์โพลเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท มิตซุย ออยล์ เอ็กซ์พลอเรชั่น จำกัด
4. ให้สัมปทานปิโตรเลียมสำหรับแปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยหมายเลข G 8 / 50 และ สัมปทานปิโตรเลียมเพิ่มเติม แก่บริษัท ปตท. สผ. โครงการไทย จำกัด บริษัท เชฟรอน ปิโตรเลียม (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท มิตซุย ออยล์ เอ็กซ์พลอเรชั่น จำกัด
เพื่อให้กระทรวงพลังงานสามารถออกสัมปทานปิโตรเลียมให้สิทธิในการสำรวจ และผลิตปิโตรเลียมได้ในเวลาอันรวดเร็วเพื่อเพิ่มโอกาสในการสำรวจพบปิโตรเลียม เพื่อความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ
เหตุผลการให้สัมปทาน
พิจารณาอนุมัติให้ออกสัมปทานแก่ผู้ยื่นขอสัมปทานทั้ง 4 ราย ดังกล่าว เนื่องจากบริษัทผู้ยื่นคำขอสัมปทานปิโตรเลียมมีเอกสารหลักฐานครบถ้วน มีคุณสมบัติถูกต้องที่จะเป็นผู้รับสัมปทาน เป็นบริษัทที่มีทุน เครื่องจักร เครื่องมือ และผู้เชี่ยวชาญเพียงพอที่จะสำรวจ ผลิต ขาย และจำหน่ายปิโตรเลียม รวมทั้งจำนวนและพื้นที่แปลงสำรวจไม่เกินตามที่กำหนด รวมทั้งผลประโยชน์พิเศษให้แก่รัฐมีความเหมาะสม อีกทั้งการให้สัมปทานดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ด้านการส่งเสริมการลงทุนให้มีการสำรวจหาแหล่งปิโตรเลียมในประเทศเพิ่มมากขึ้น