ฮ่องกง--9 พ.ย.--ซินหัว-พีอาร์นิวส์ไวร์/เอเชียเน็ท
บริษัท เช็คพอยท์ ซิสเต็มส์ อิงค์ (Checkpoint Systems, Inc.) (NYSE: CKP) ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำด้านการผลิตและทำตลาดโซลูชั่นเทคโนโลยีสำหรับรักษาความปลอดภัยในร้านค้าปลีก ประกาศการเข้าร่วมในการขยายขอบเขตโครงการนำร่อง "Tag It Easy!" ที่จะมีขึ้นเร็วๆนี้ของกลุ่ม เมโทร กรุ๊ป (METRO Group) โดยโครงการนำร่องระยะที่ 2 นี้จะดำเนินการเพื่อให้ซัพพลายเออร์สินค้าผู้บริโภคอีก 70 รายในประเทศจีนและเวียดนามติดตั้งฉลาก RFID บนสินค้าที่ขนส่งไปยังโรงงานของเมโทร กรุ๊ป ในประเทศเยอรมนี ซึ่งบริษัทได้จัดงานในวันนี้ เพื่อเดินหน้าโครงการสำหรับซัพพลายเออร์ที่ฮ่องกง
โครงการ "Tag It Easy!" ถือเป็นส่วนหนึ่งของโครงการริเริ่มระบบลำเลียงสินค้าที่ทันสมัยในเอเชีย (ALA) ของเมโทร กรุ๊ป โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะขยายความร่วมมือด้านการขนส่งและลำเลียงสินค้า หรือโลจิสติกส์กับซัพพลายเออร์ในทวีปเอเชียด้วยการใช้ระบบติดตามความถี่คลื่นวิทยุ (Radio Frequency Identification - RFID) สำหรับติดตามสินค้าตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทาน เนื่องจากศักยภาพด้านเทคโนโลยีของซัพพลายเออร์จำนวนมากในภูมิภาคนี้ยังมีขีดจำกัด เมโทร กรุ๊ป จึงพัฒนาโครงการนำร่อง "Tag It Easy!" เพื่อช่วยเหลือบรรดาซัพพลายเออร์ให้ได้ใช้ประโยชน์สูงสุดจาก RFID ในการปฏิบัติงาน การที่ เมโทร กรุ๊ป ร่วมเป็นพันธมิตรกับ เช็คพอยท์ ซิสเต็มส์ ช่วยให้ทางกลุ่มสามารถนำเสนอฉลาก RFID ก่อนพิมพ์แก่ซัพพลายเออร์ในภูมิภาคได้ ซึ่งซัพพลายเออร์สามารถเริ่มกระบวนการติดตามสินค้าได้ด้วยการลงทุนเทคโนโลยีในขั้นต่ำสุดเท่านั้น
ดร. แกร์ด โวล์ฟราม ผู้อำนวยการฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศประจำ เอ็มจีไอ เมโทร กรุ๊ป กล่าวว่า "โซลูชั่น RFID ที่ใช้ในโครงการ Tag It Easy! เป็นนวัตกรรมที่ก้าวล้ำนำสมัย สะท้อนให้เห็นว่าโซลูชั่น RFID ที่ครบวงจรเป็นประโยชน์ทั้งกับซัพพลายเออร์และผู้ค้าปลีก"
สำหรับโครงการนำร่องครั้งนี้ เมโทร กรุ๊ป เลือกซัพพลายเออร์ที่มีประสบการณ์การทำงานใกล้ชิดกับบริษัทในอดีต ซึ่งซัพพลายเออร์ที่ได้รับเลือกจะพิจารณาจากพื้นที่ภูมิศาสตร์ที่ตั้งและชนิดของผลิตภัณฑ์ที่พวกเขาผลิด เพื่อรับประกันการผสมสานผลิตภัณฑ์ที่มีความแตกต่างกันออกไป
ฉลาก RFID ที่ให้บริการโดย เช็คพอยท์ จัดเก็บรหัสอนุกรมตู้เก็บสินค้าขนส่งทางเรือ (SSCC) ซึ่งจะมีการอ่านรหัสเหล่านี้ในบริเวณหลายจุดตลอดเส้นทางห่วงโซ่อุปทานระหว่างฮ่องกงและเมืองอุนน่า ประเทศเยอรมนี ฝ่าย เมโทร กรุ๊ป เอง จะได้รับข้อความแจ้งการขนส่งทางอิเล็กทรอนิคล่วงหน้าซึ่งมีรายละเอียดเนื้อหาของการขนส่งแต่ละครั้ง ขณะที่ซัพพลายเออร์ได้รับข้อความแจ้งยืนยันการขนส่งอัตโนมัติ ซึ่งซัพพลายเออร์สามารถสั่งฉลาก RFID ผ่านทาง เมโทร ลิงค์ (Metro Link) ซึ่งทำหน้าที่เป็นประตูทางผ่านสำหรับซัพพลายเออร์ทั่วโลก
นอกจากนี้ การใช้ RFID เพื่อนำเสนอทัศนวิสัยแบบเรียล-ไทม์ ช่วยให้ เมโทร กรุ๊ป สามารถยกเลิกระบบการนับสินค้าแบบที่ใช้แรงงานมนุษย์และการตรวจสอบหีบห่อสินค้าส่งออก เนื่องด้วยมีห่วงโซ่อุปทานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น บริษัทสามารถลดปัญหาสินค้าหมดสต็อกที่ร้านค้าปลีกลงไปได้ ซึ่งช่วยปรับปรุงประสบการณ์การจับจ่ายใช้สอยสินค้าของผู้บริโภค ทางด้านซัพพลายเออร์ก็ได้รับประโยชน์จากข้อมูลแจ้งยืนยันการขนส่งที่เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งข้อมูลการขนส่งที่เที่ยงตรงมากขึ้น และสามารถสร้างสถานะขึ้นเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่สามารถไว้วางใจได้ในแวดวงตลาดสินค้าผู้บริโภคที่มีการแข่งขันกันอย่างรุนแรง
เมโทร กรุ๊ปได้วางมาตรฐานแถบสินค้า UHF EPC Gen ทั้งสองรุ่นที่ใช้ในโครงการนี้ และจนถึงขณะนี้อัตราการอ่านค่าที่ได้รับรายงานมานั้นสอดคล้องกับการคาดการณ์ในระยะแรกในโครงการนำร่องของเมโทร กรุ๊ป
ในระยะแรกของโครงการที่ได้มีการเปิดตัวไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา บริษัทมีซัพพลายเออร์จากประเทศจีน 30 ราย ขณะที่โครงการในระยะที่สองจะเปิดตัวในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ คาดว่าจะมีการส่งมอบแถบสินค้ารอบแรกในเดือนธันวาคม ทั้งนี้ เมโทร กรุ๊ปจะทำการประเมินผลการดำเนินงานในรอบ 3 เดือนเพื่อหาโอกาสในการปรับปรุงระบบอื่นๆต่อไป
"เมโทร กรุ๊ป ยังคงครองความเป็นผู้นำด้านการใช้งานเทคโนโลยีอาร์เอฟไอดี (RFID) ในระบบซัพพลายเชน" จอร์จ ออฟ ซีอีโอและประธานของผู้บริหารเช็คพอยท์ ซิสเต็มส์ กล่าว "ความสำเร็จของการใช้โปรแกรม 'Tag It Easy!' และการขยายการดำเนินงานครั้งนี้ถือเป็นบทพิสูจน์ที่ชัดเจนที่แสดงให้เห็นถึงการยึดมั่นในพันธะสัญญาที่จะใช้เทคโนโลยีดังกล่าวของเมโทร กรุ๊ป และประสิทธิภาพของเทคโนโลยี RFID ที่ช่วยในการตรวจสอบความเคลื่อนไหวของระบบซัพพลายเชน ตลอดจนการปรับปรุงการให้บริการแก่ลูกค้า ซึ่งเราต้องการเป็นพันธมิตรของเมโทร กรุ๊ป เนื่องจากการรอเริ่มใช้งานเทคโนโลยี RFID เบื้องต้นจะช่วยสานต่อและพัฒนาการใช้งานของเทคโนโลยีดังกล่าวกับระบบการทำงานด้านอื่นๆของซัพพลายเชนต่อไปได้"
เกี่ยวกับเมโทร กรุ๊ป
เมโทร กรุ๊ป เป็นหนึ่งในบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านธุรกิจค้าปลีกระดับสากล โดยในปีพ.ศ. 2549 บริษัทสามารถทำยอดขายได้ถึง 6.0 หมื่นล้านปอนด์ โดยมีพนักงาน 270,000 ตำแหน่งและมีสาขาร้านขายสินค้าจากโรงงานกว่า 2,400 แห่งใน 30 ประเทศ บริษัทดำเนินธุรกิจจากการเปิดสาขาจำหน่ายสินค้าที่ดำเนินงานอย่างเป็นอิสระในตลาดค้าปลีกภายใต้ชื่อ เมโทร/แม็คโคร แคช แอนด์ แคร์รี่ ซึ่งเป็นผู้นำตลาดโลกด้านธุรกิจค้าปลีกในรูปแบบการชำระด้วยเงินสดและบริการตนเอง(cash & carry) รวมถึงเรียลไฮเปอร์มาเก็ตส์ และเอ็กซ์ตร้า ซูเปอร์มาร์เก็ตส์ มีเดีย มาร์ค และแซทเทิร์น ซึ่งเป็นผู้นำศูนย์กลางตลาดด้านสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ของผู้บริโภคในยุโรป รวมทั้งห้างสรรพสินค้าแกลอเรีย เคาฟ์โฮฟ ดีพาร์ทเมนท์ สโตร์ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาเข้าชมที่ http://www.metrogroup.de
เกี่ยวกับเช็คพอยท์ ซิสเต็มส์ อิงค์
เช็คพอยท์ ซิสเต็มส์ อิงค์ เป็นผู้นำด้านการจัดหาโซลูชั่นระบบป้องกันสินค้าสูญหายสำหรับอุตสาหกรรมค้าปลีก ทีมงานระดับโลกของเช็คพอยท์จะช่วยให้ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกและซัพพลายเออร์ของบริษัทลดอัตราการสูญหายของสินค้า แต่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็นสินค้าที่จัดเก็บในคลังและช่วยให้ลูกค้าพึงพอใจต่อสินค้าที่มีอยู่มากขึ้นผ่านการใช้เทคโนโลยี RF ที่เพิ่มประสิทธิภาพด้านการจัดเก็บสินค้าความเร็วสูงของบริษัท ด้วยการเพิ่มระบบการให้บริการเพื่อป้องกันสินค้าสูญหาย และโซลูชั่นด้านการติดแถบป้าย Check-Net ทั้งนี้ เช็คพอยท์ได้ดำเนินการติดตั้งแถบป้าย RF ในร้านค้ากว่าหนึ่งล้านแห่ง และติดตั้งแถบป้ายรับรองความปลอดภัยสินค้ากว่า 1 แสนล้านรายการ โซลูชั่นของเช็คพอยท์ที่คิดอัตราค่าใช้จ่ายด้านต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพช่วยเพิ่มผลประกอบการและผลกำไรให้กับกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกที่มีการขยายตัวรวดเร็วและให้ประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมแก่ลูกค้า โดยบริษัทจดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้นนิวยอร์ก (NYSE: CKP) และดำเนินงานในตลาดทางภูมิศาสตร์ทุกแห่ง รวมทั้งจ้างพนักงาน 3,200 รายทั่วโลก หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.checkpointeurope.com
ติดต่อ:
บริษัทเช็คพอยท์ ซิสเต็มส์ อิงค์
นาตาลี ชาน
โทร: +852-2995-8350
อีเมล์: [email protected]
แหล่งข่าว เช็คพอยท์ ซิสเต็มส์ อิงค์
--เผยแพร่โดย เอเชียเน็ท ( www.asianetnews.net )--