กรุงเทพฯ--18 ธ.ค.--พิตอน คอมมิวนิเคชั่น
จูนิเปอร์ เน็ตเวิร์คส์ อิงค์ (NASDAQ: JNPR), ผู้นำการสื่อสารผ่านเครือข่ายทรงประสิทธิภาพ ประกาศการแต่งตั้งนางมารี แครนสตันเข้าดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการผู้อำนวยการบริหาร (Board of Directors) ด้วยประสบการณ์มากกว่า 30 ปีทางด้านการบริหารองค์กร ก่อนเข้ารับตำแหน่งที่จูนิเปอร์ เน็ตเวิร์คส์นั้นนางแครนสตันเป็นพาร์ตเนอร์อาวุโสและเป็นประธานของสำนักงานที่ปรึกษาพิวส์บิวรี วินธรอป ชอว์ พิตต์แมนอันมีชื่อเสียง
นายสกอตต เครียนส์ ประธานและหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร จูนิเปอร์ เน็ตเวิร์คส์ กล่าวถึงการเข้าร่วมคณะกรรมการของนางแครนสตันว่าตนรู้สึกเป็นเกียรติที่นางแครนสตันได้ตัดสินใจที่จะเข้าร่วมเป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริหารของบริษัทฯ ตนเชื่อว่าประสบการณ์ด้านกฎหมายผสานกับทักษะการเป็นผู้นำของนางแครนสตันนั้นจะเป็นกำลังสำคัญในการปรับโครงสร้างองค์กรให้รองรับการขยายตัวเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าอย่างรวดเร็วได้อย่างมีศักยภาพและรัดกุม รองรับการดำเนินธุรกิจตลอดจนการขยายตลาดทั่วโลกได้ต่อเนื่อง
นางมารี แครนสตันกล่าวว่า “ดิฉันเองก็รู้สึกเป็นเกียรติเช่นกัน และขณะเดียวกันก็รู้สึกตื่นเต้นที่ได้มีโอกาสเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของบริษัททางด้านสารสนเทศที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วและยังเป็นบริษัทที่ได้รับความไว้วางใจจากบริษัทต่างๆ ทั่วโลกในฐานะผู้ให้บริการเครือข่ายของเขาเหล่านั้น หมายความว่าจูนิเปอร์ เน็ตเวิร์คส์มรอนาคตทางการตลาดที่มั่นคง และยังสามารถที่จะพัฒนานวัตกรรมบริการออกมาได้ไม่หยุดยั้งจากนี้ไปอีกด้วย ดิฉันจึงยินดีที่ได้ใช้ประสบการณ์อีกด้านหนึ่งมาช่วยในการส่งเสริมความเป็นไปได้นี้”
ประวัติโดยย่อ
นางมารี แครนสตัน อายุ 59 ปี เคยดำรงตำแหน่งพาร์ตเนอร์อาวุโสของสำนักงานที่ปรึกษากฎหมายอันมีชื่อเสียง พิวส์บิวรี วินธรอป ชอว์ พิตต์แมน ซึ่งช่ำชองกฎหมายทางด้านพลังงาน, บริการการเงินการคลัง, อสังหาริมทรัพย์ และเทคโนโลยี และนางแครนสตันได้ดำรงตำแหน่งสำคัญระดับผู้บริหารภายในองค์กร ในฐานะ ประธานตั้งแต่ปีพ.ศ.2542 จนกระทั่งเดือนธันวาคมปี พ.ศ. 2549 และยังเคยดำรงตำแหน่งประธานส่วนงานดำเนินคดี และเป็นสมาชิกกรรมการการพิจารณาค่าตอบแทนของสำนักงาน เป็นสมาชิกกรรมการสรรหาบุคลากรมืออาชีพ กรรมการการเงินการคลัง กรรมการการฝึกอบรมด้านกฎหมาย กรรมการคัดเลือกพาร์ตเนอร์ของสำนักงาน กรรมการสื่อสารสัมพันธ์ รวมทั้งกรรมการการบริการลูกค้าและการตลาดสัมพันธ์อีกด้วย จะเห็นได้ว่าความเชี่ยวชาญงานเกิดจากการสั่งสมประสบการณ์หลายมิติของหน้าที่รับผิดชอบ ซึ่งได้รับการยอมรับจากองค์กรกลาง National Law Journal ในปีพ.ศ. 2543 โดยรับการยกย่องให้นางมารี แครนสตันเป็น “สุดยอด 100 นักกฎหมายหญิงที่ทรงอิทธิพลแห่งสหรัฐอเมริกา” และยังเป็นเจ้าของรางวัล อะธีนาอะวอร์ด ในความมุ่งมั่นพัฒนาศักยภาพผู้หญิงทำงานในปีพ.ศ. 2547 และรางวัลมาร์กะเร็ต เบรนท์ อะวอร์ด อันเป็นหนึ่งในไม่กี่รางวัลอันทรงเกียรติที่ผู้หญิงในแวดวงกฎหมายมืออาชีพจะได้รับการยกย่องถึงขนาดนี้โดย Bar Association ในปีพ.ศ. 2548 และยังดำรงตำแหน่งสำคัญสูงสุดของหลายองค์กร อาทิ วีซ่า อิงค์, กราฟเทค อินเตอร์เนชั่นแนล, ผู้อำนวยการแห่งคณะกรรมการเบย์แอเรีย, คอมมอนเวลธ์คลับ, คาตาลิสท์, มูลนิธีเพื่อธรรมชาติโยสิมิตี้ และพิพิธภัณฑ?หญิงแห่งซานฟรานซิสโก และยังรั้งความรับผิดชอบทางงานศิลปะการแสดงบัลเล่ต์ในฐานะผู้จัดการทรัพย์สินให้แก่คณะบัลเล่ต์แห่งซานฟรานซิสโกและมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด