โรงพยาบาลมนารมย์ประกาศเพิ่มทุนอีก 50 ล้านบาท พร้อมเปิดคลีนิกให้คำปรึกษาปัญหา เด็ก วัยรุ่น

พุธ ๑๙ ธันวาคม ๒๐๐๗ ๑๖:๑๒
กรุงเทพฯ--19 ธ.ค.--ทูเดย์ คอมมูนิเคชั่น
โรงพยาบาลมนารมย์ประกาศเพิ่มทุนอีก 50 ล้านบาท ขยายพื้นที่ พร้อมเปิดคลีนิกให้คำปรึกษาปัญหา เด็ก วัยรุ่น ครอบครัว เผย 5 ปัจจัยหลัก ส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตคนไทยปีหน้า
ผู้บริหารโรงพยาบาลมนารมย์ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเอกชนเฉพาะทาง แห่งแรกในประเทศไทย ที่เน้นการดูแลสุขภาพจิตแนวใหม่ ประกาศเพิ่มทุน เพื่อลงทุนขยายพื้นที่บริการของโรงพยาบาล รองรับสถานการณ์สุขภาพจิตของคนไทยที่ยังมีแนวโน้มแย่ลง เผย 5 ปัจจัยหลักส่งผลกระทบสุขภาพจิตคนไทย ปี พ.ศ. 2551 ชี้ทางแก้ต้องเร่งสร้างสุขภาพจิตครอบครัวให้เข้มแข็ง เตรียมเปิดคลีนิกจิตเวชเด็ก วัยรุ่น และครอบครัว รองรับ พร้อมเพิ่มจำนวนจิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และบุคลากรคำปรึกษา
แพทย์หญิง จันทิมา องคโฆษิตไกรฤกษ์ ประธานกรรมการบริษัทพีซีเอซี (สยาม) จำกัด และประธานกรรมการบริหารโรงพยาบาลมนารมย์ เปิดเผยแนวโน้มสถานการณ์สุขภาพจิตของคนไทยในปีหน้า ว่ายังอยู่ในภาวะที่น่าเป็นห่วง โดย 5 ปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบทำให้ระดับความเครียดของคนไทยสะสมต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550 และมีแนวโน้มสูงขึ้น คือ 1. สถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง 2. สถานการณ์ทางเศรษฐกิจ เนื่องจากภาวะการส่งออก ค่าเงินบาทแข็ง น้ำมันแพง ข้าวของราคาแพงสูงขึ้น หลายบริษัท กิจการล้มเลิก คนงานถูกเลิกจ้าง 3. ปัญหาความปลอดภัย และความมั่นคงของชีวิตและทรัพย์สินที่มีน้อยลง จากคดีลักทรัพย์ ปล้นจี้ที่อยู่บ่อยๆ 4. ปัญหายาเสพติดที่กำลังเริ่มกลับมาคุกคามสังคมไทย และ 5. ยังไม่มีสัญญาณบวกใดๆที่จะบอกได้ว่าปีหน้าจะดีขึ้น ทั้งห้าปัจจัยหลักนี้ นี้เป็นแรงกดดัน ทำให้คนไทยมีความไม่มั่นใจ มีความวิตกกังวล กลายเป็นความเครียดสะสม ซึ่งในปีหน้านี้ ก็ยิ่งทำให้ปัญหาสุขภาพจิตของคนไทยในปีหน้ามีแนวโน้มสูงขึ้น
แพทย์หญิงจันทิมา เปิดเผยว่า จากสถิติผู้มาใช้บริการ ของโรงพยาบาลมนารมย์ ซึ่ง เน้นการดูแลสุขภาพจิตแนวใหม่ คือมีการรักษา ฟื้นฟู และ ป้องกัน ภายใต้ทีมจิตแพทย์ พยาบาล นักจิตวิทยา และนักกิจกรรมบำบัด ที่ครบวงจร ในช่วงปีที่ผ่านมานั้น มีจำนวนมาเข้ารับบริการสูงขึ้นทุกเดือน โดยจากเฉลี่ยเดือนละ 700 ราย ในช่วง 6 เดือนหลังมีจำนวนผู้ป่วย เพิ่ม เป็นเฉลี่ยเดือนละ 1200 ราย ทั้งนี้จากจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น และสถานการณ์ด้านสุขภาพจิตที่ยังคงมีแนวโน้มแย่ลงนั้น ในปี พ.ศ. 2551 ทางโรงพยาบาล จึงเห็นสมควรที่จะได้มีการลงทุนเพิ่มเพื่อขยายพื้นที่การให้บริการทั้งในส่วนของแผนกคนไข้นอกและแผนกคนไข้ใน ซึ่งคาดว่า จากขยายการลงทุนเพิ่ม โดยการเพิ่มทุนจดทะเบียน อีก 50 ล้านบาท จะทำให้สามารถให้บริการคนไข้นอกได้เพิ่มเป็นเดือนละไม่ต่ำกว่า 1500 ราย ส่วนคนไข้ใน IPD ที่ปัจจุบันรองรับได้ประมาณ 32 เตียง ในปีหน้าก็จะเพิ่มเป็น 59 เตียง
สำหรับแผนการขยายการบริการด้านสุขภาพจิตของโรงพยาบาล แพทย์หญิงจันทิมา กล่าวว่า ในด้านบุคลากร นั้น จะได้มีการเพิ่มจำนวน ทีมจิตแพทย์ พยาบาล นักจิตวิทยา อีก 20 อัตรา โดยเฉพาะจิตแพทย์เฉพาะทางด้าน เด็ก วัยรุ่น และครอบครัว ในปีหน้านี้ ทางโรงพยาบาลจะได้ขยาย ตั้งคลีนิกจิตเวชเด็ก วัยรุ่นและครอบครัว เพื่อดูแลให้คำปรึกษา ปัญหาของเด็ก วัยรุ่น และครอบครัวโดยเฉพาะ เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีความสำคัญ ถ้าหากกลุ่มนี้มีสุขภาพจิตไม่แข็งแรง ก็จะเป็นปัญหาวนเวียนในอนาคต ทั้งนี้จากการศึกษาสาเหตุของปัญหาสุขภาพจิตต่างๆนั้น จะพบว่า ปัจจัยหลักที่ส่งผลให้เกิดปัญหาก็คือเรื่องครอบครัว ซึ่งคนที่อยู่ในครอบครัวที่มีสุขภาพจิตแข็งแรง นั้นจะสามารถก้าวผ่านพ้นอุปสรรคไปได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ สังคม ความเป็นอยู่ต่างๆ
แพทย์หญิงจันทิมา กล่าวถึงผลการดำเนินงานของโรงพยาบาลในปีที่ผ่านมาว่า ในภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ ซึ่งจากความมุ่งมั่นที่จะให้บริการสุขภาพจิตแนวใหม่ให้กับสังคม โดยดำเนินกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพจิตให้ความรู้ สร้างความเข้าใจ และสร้างทัศนคติที่ดีให้กับประชาชนถึงการมาใช้บริการรับคำปรึกษาด้านสุขภาพจิตกับจิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ตั้งแต่เนิ่นๆ ทำให้มีจำนวนผู้มาใช้บริการของโรงพยาบาลสูงขึ้น แสดงให้เห็นว่า ประชาชนเริ่มมีความเข้าใจงานด้านนี้มากขึ้น
อย่างไรก็ตามจากแนวโน้มสุขภาพจิตที่แย่ลงของคนไทยนั้น แพทย์หญิงจันทิมา กล่าวถึงทางแก้ไขว่า จะต้องเร่งสร้างพื้นฐานจิตใจที่เข้มแข้งให้กับครอบครัว โดยเฉพาะเด็ก และวัยรุ่น ซึ่งพ่อ แม่ผู้ปกครองจะต้องได้รับความรู้ ความเข้าใจ ถึงการเลี้ยงลูกที่ถูกต้อง เพื่อให้ลูกและสมาชิกในครอบครัวมีสุขภาพจิตที่แข็งแรง มีทักษะทางอารมณ์ที่เหมาะสม โดยควรยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง และลดกระแสการบริโภคนิยม อันเป็นตัวการนำไปสู่เรื่องมอมเมาต่างๆ อาทิ ติดแซ๊ต ติดอินเตอร์เน็ต ติดเกมส์ พนันบอล ขายบริการทางเพศ
“สิ่งที่ทุกคนควรฝึกปฏิบัติเป็นประจำทุกวันก็คือฝึกเตือนตนให้มีสติตลอดเวลา เพื่อลดโอกาสการหลุดไปใต้อารมณ์รุนแรงต่างๆ โดยการทำให้สมองผ่อนคลาย หยุดพักสมองจากเรื่องเดิมๆ หรือเรื่องยุ่งๆ ที่ทำอยู่ก่อน เช่นหยุดพักไปอ่านหนังสือ หรือทำกิจกรรมอื่นๆ จะทำให้เกิดมุมมองความคิดอะไรใหม่ๆ และเป็นการเตือนสติตัวเอง”
โรงพยาบาลมนารมย์ เริ่มเปิดบริการในเดือนตุลาคม พศ. 2549 ตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 7 ไร่ ถนนสุขุมวิท ใกล้สี่แยกบางนา ให้บริการครอบคลุมทุกด้านของสุขภาพจิตและจิตเวชแนวใหม่ครบวงจร สำหรับทุกเพศ และวัย มุ่งเน้น งานส่งเสริม ป้องกัน และฟื้นฟู โดยลักษณะการบริการมีทั้งแผนกผู้ป่วยนอก แผนกผู้ป่วยใน และโปรแกรมกลางวัน (มาเช้าเย็นกลับ)
***ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ พิมพร ศิริวรรณ 081-928-2808***

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ