กรุงเทพฯ--25 ธ.ค.--สามารถ ไอ-โมบาย
นายจง ดิลกสมบัติ กรรมการผู้อำนวยการ บมจ.สามารถ ไอ-โมบาย เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทฯ ได้ร้องขอให้กิจการร่วมค้าไทย-โมบายชำระหนี้คงค้างทั้งหมดแก่บมจ.สามารถไอ-โมบาย ซึ่งได้รับสัญญาว่าจ้างให้จัดทำระบบจัดเก็บเงินโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 1900 MHz (บิลลิ่ง) และระบบลูกค้าสัมพันธ์ ปรากฎว่า หลังจากความพยายามติดตามหนี้นานกว่า 3 ปี กิจการร่วมค้าไทย-โมบาย ก็ยังมิได้ชำระหนี้ที่มีอยู่กว่า 1,115 ล้านบาท แก่ บมจ.สามารถ ไอ-โมบาย และไม่ได้แสดงเจตนาที่จะปฏิบัติตามสัญญาจ้างแต่อย่างใด ล่าสุดยังได้ส่งหนังสือแจ้งยกเลิกสัญญามายังบริษัทฯ เมื่อวันที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้บริษัทฯ จำเป็นต้องยื่นฟ้องต่อกิจการร่วมค้าไทย-โมบายเพื่อขอความเป็นธรรมในครั้งนี้
“ตลอดระยะเวลาของการให้บริการที่ผ่านมา บริษัทฯได้ปฎิบัติหน้าที่ตามสัญญาอย่างถูกต้องและเต็มที่มาโดยตลอด แม้จะไม่ได้รับการชำระค่าบริการอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานกว่า 3 ปี ซึ่งส่งผลให้บริษัทฯ ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายจำนวนมาก แต่ด้วยความเชื่อมั่นในองค์กรภาครัฐโดยเฉพาะทีโอที บริษัทฯ จึงได้พยายามติดต่อขอเจรจากับหน่วยงานและผู้บริหารที่เกี่ยวข้อง โดยได้มีการส่งจดหมายถึงผู้บริหารของกิจการร่วมค้าไทย-โมบายจำนวนกว่า 25 ฉบับ เพื่อติดตามหนี้และแสวงหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่เป็นรูปธรรม จนกระทั่งปลายเดือนมิถุนายน 2550 บริษัทฯ ได้ตัดสินใจปิดให้บริการระบบลูกค้าสัมพันธ์และระบบบิลลิ่งลง เพราะไม่สามารถแบกรับภาระค่าใช้จ่ายได้อีกต่อไป ซึ่งหลังจากนั้น บริษัทฯ ก็ได้พยายามติดต่อเพื่อขอความชัดเจนในการแก้ไขปัญหามาโดยตลอด แต่ในท้ายที่สุด กิจการร่วมค้าไทย-โมบาย กลับส่งหนังสือแจ้งยกเลิกสัญญามายังบริษัทฯ เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ที่ผ่านมา ซึ่งนั่นแสดงถึงการละเลยต่อการแก้ไขปัญหาและแสดงความไม่รับผิดชอบใดๆ บริษัทฯจึงจำเป็นต้องดำเนินการฟ้องร้องทางกฎหมายต่อกิจการร่วมค้าไทย-โมบาย โดยได้ยื่นคำร้องต่อศาลเมื่อวันที่ 21
ธันวาคม 2550 เพื่อเรียกร้องให้ กิจการร่วมค้า ไทย-โมบาย ชำระหนี้สินค้างชำระพร้อมดอกเบี้ยและค่าเสียหายอื่นๆที่เกิดขึ้นจากการผิดนัดชำระหนี้ อาทิ ความเสียหายต่อภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือทางการเงิน ซึ่งส่งผลต่อการสูญเสียโอกาสทางธุรกิจอื่นๆ รวมมูลค่าประมาณ 2,649 ล้านบาท”
สาเหตุที่ทำให้กิจการร่วมค้าไทย-โมบาย ค้างชำระหนี้บริษัทฯ เป็นจำนวนมากนั้น เห็นได้ชัดว่ามาจากการขาดสภาพคล่อง ซึ่งเป็นผลกระทบจากจำนวนผู้ใช้บริการในระบบโทรศัพท์ 1900 MHz ไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่คาดหวัง และจากเดิมที่เคยมีจำนวนผู้ใช้บริการอยู่ราว 300,000 รายในช่วงแรกของการเปิดให้บริการ ปัจจุบันกลับมีจำนวนลดลงเหลือเพียง 60,000 ราย ผลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความล้มเหลวในการวางแผนและการดำเนินกิจกรรมทางการตลาดภายใต้ความรับผิดชอบของกิจการร่วมค้าไทย-โมบายเอง และเมื่อเกิดปัญหารายได้ไม่เป็นไปตามเป้าหมายจนเกิดการขาดสภาพคล่องก็ได้มีการเบี่ยงเบนประเด็นเป็นเรื่องอื่น เพื่อให้เกิดความเข้าใจผิด ซึ่งไม่เป็นธรรมต่อบริษัทฯ และเป็นเหตุให้บริษัทฯ ต้องใช้สิทธิทางศาลเพื่อขอความเป็นธรรมต่อไป
“บริษัทฯ มั่นใจว่าการเรียกร้องต่อศาลในครั้งนี้เป็นสิทธิที่บริษัทฯ ควรจะได้” นายจงกล่าวสรุป
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม PR.Corp.
วรรษกร ปลื้มจิตต์ (ตุ๊ก) โทร. 0-2502-8687
วทิรา ลุยากร (ใหม่) โทร.0- 2502-8236