รวมใจปลูกต้นกระดาษ ปลูกปัญญา นำร่องที่ฉะเชิงเทรา

พุธ ๒๖ ธันวาคม ๒๐๐๗ ๑๑:๔๒
กรุงเทพฯ--26 ธ.ค.--คิธ แอนด์ คินฯ
จากใบหน้าที่เปื้อนยิ้มของเด็กๆในโรงเรียนโคกกระท้อน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี และอุปกรณ์การเรียนการสอนที่เพิ่มขึ้น อาทิ สนามฟุตบอล อาคารห้องเรียน และกล้องดิจิตอล ทำให้หัวเรือใหญ่อย่างดั๊บเบิ้ล เอ อดดีใจไม่ได้กับผลสำเร็จของโครงการนำกล้าไม้ไปให้ทางโรงเรียนโคกกระท้อนปลูกบนเนื้อที่ว่างเปล่า 25ไร่ และสามารถตัดไปจำหน่าย สร้างรายได้เสริมให้กับทางโรงเรียนได้อย่างเป็บกอบเป็นกำตั้งแต่ปี2536ที่ผ่านมา
จากความสำเร็จดังกล่าว ทำให้หลายหน่วยงาน อย่างสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย ดั๊บเบิ้ล เอ สำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด(มหาชน) เล็งเห็นถึงโอกาสที่จะนำทุนการศึกษาที่ยั่งยืนจากการปลูกต้นกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ นี้กระจายไปยังโรงเรียนในพื้นที่ชนบทอีกหลายๆ แห่งที่ยังขาดแคลนทุนทรัพย์ในการพัฒนาการศึกษาของเด็กๆ ซึ่งเป็นอนาคตที่สำคัญของชาติ รวมไปถึงยังเป็นการร่วมกันเพิ่มปริมาณต้นไม้สร้างปอดธรรมชาติแห่งใหม่ที่ช่วยฟอกอากาศให้บริสุทธิ์สดใสขึ้นอีกด้วย
หลังจากทั้ง 5 องค์กรเห็นฟ้องต้องกันถึงประโยชน์นานับประการทั้งด้านการศึกษา และสิ่งแวดล้อมที่โรงเรียนได้รับ “โครงการปลูกปัญญา 80 โรงเรียนในชนบท” จึงเกิดขึ้น โดยมีเป้าหมายที่จะส่งเสริมให้ 80 โรงเรียนในชนบทเข้าร่วมปลูกต้นกระดาษต้นไม้แห่งปัญญา 40,000ต้น ให้แล้วเสร็จภายในปี 2551 ดังนั้นในเดือนธันวาคมนี้ ทีมงานจากหลายองค์กรจึงได้ร่วมใจกันออกเดินทางไปปลูกต้นไม้ที่โรงเรียนในชนบทเป็นแห่งแรก คือ ที่โรงเรียนฉะเชิงเทราปัญญานุกูล โรงเรียนที่เป็นสถานศึกษาของน้องๆที่มีความพิเศษ 6 ประเภท คือ ปัญญาอ่อน ออทิสติกส์ หูหนวก พฤติกรรมด้านอารมณ์ แขนขาพิการ ซึ่งเป็นโรงเรียนนำร่องโรงเรียนแรกที่ได้รับการสนับสนุนจากโครงการฯ
อาจารย์ไพฑูรย์ ศรีทอง ผู้อำนวยการโรงเรียนฯ เล่าให้คณะที่ร่วมเดินทางไปมอบกล้าไม้ ซึ่งนำโดย ศาตราจารย์ ดร.สนิท อักษรแก้ว ประธานสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย และ คุณชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดั๊บเบิ้ล เอ ฟังว่า “ปัจจุบันโรงเรียนฉะเชิงเทราฯ รับนักเรียนซึ่งเป็นเด็กพิเศษเข้ามาศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาล ไปจนถึงมัธยมศึกษาตอนปลาย ซึ่งขณะนี้มีนักเรียนรวมทั้งหมดประมาณ 300 คน และแม้ว่าทางโรงเรียนจะได้รับสนับสนุนงบประมาณในการดูแลนักเรียนเหล่านี้จาก กระทรวงศึกษาธิการ แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ และค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง เมื่อมีโครงการดีๆอย่างนี้เกิดขึ้นก็รู้สึกดีใจมากที่หน่วยงายภาคเอกชนอย่างดั๊บเบิ้ล เอ เสียสละร่วมแบ่งโอกาสทางการศึกษาให้กับเด็กไทยด้วยการนำกล้าไม้มาให้ทางโรงเรียนปลูกในพื้นที่ว่างบริเวณโรงเรียน เพื่อเป็นการใช้ประโชน์ในพื้นที่ว่าง และสร้างรายได้เสริมให้กับโรงเรียน ซึ่งคงเกิดเป็นประโยชน์ไม่น้อยกับโรงเรียนและเด็กๆ เช่นเดียวกับโรงเรียนโคกกระท้อนที่ประสบความเสร็จมาแล้ว”
บรรยากาศเมื่อวันที่ 11 ของเดือนธันวาคม 2550 ที่ผ่านมา วันที่ผู้ใหญ่ใจดีหอบต้นกระดาษดั๊บเบิ้ล เอ ไปมอบให้กับโรงเรียนฉะเชิงเทราปัญญานุกูลถึง 500 ต้นแล้ว รู้สึกประทับใจไม่หาย เมื่อนึกถึงภาพของน้องๆที่กำลังมีความสุข สนุกสนานกับการร่วมแรง ร่วมใจกันคนละไม้คนละมือ ปลูกต้นกล้ากระดาษดั๊บเบิ้ล เอ ซึ่งในการเดินทางไปครั้งนี้ เราได้มีโอกาสพูดคุยกับสาวน้อยคนเก่ง ถึงความรู้สึกของการได้เข้าร่วมโครงการนี้ด้วย น้องบงกช นามจตุรัส อายุ 16 ปี อยู่ชั้น ม.3 /1 เยาวชนคนเก่งของโรงเรียน เล่าบรรยายความรู้สึกจากการร่วมกิจกรรมครั้งนี้ว่า “รู้สึกดีใจที่ได้ปลูกต้นไม้ หนูจะดูแลต้นไม้ให้เจริญเติบโต จะรดน้ำทุกๆวัน และหลังจากที่ได้เงินจากการตัดต้นกระดาษไปขายแล้ว จะนำเงินมาให้คุณครูเพื่อซื้ออุปกรณ์การเรียน” หลังจากพูดคุยกับน้องบงกช พอหอมปากหอมคอ ก็ได้รับรู้ข้อมูลเพิ่มเติมจากอาจารย์ผู้ดูแลว่า น้องบงกช เป็นเยาวชนคนเก่งที่ทำชื่อเสียงและนำความภาคภูมิใจมาสู่โรงเรียน เพราะเพิ่งจะไปคว้าเหรียญทองมาหมาดๆจากการแข่งขันกรีฑา กีฬาคนพิการที่จัดขึ้นที่จ.นครศรีธรรมราช เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
เปลี่ยนบรรยากาศมาพูดคุย สอบถามความรู้สึกหนุ่มน้อยสุดเฮี้ยวที่บรรดาอาจารย์ที่โรงเรียนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ซ่าส์ และเก่งสุดๆในโรงเรียน เห็นจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก น้องพรชัย คูเอิน อยู่ชั้น ม.5/2 โดยน้องบอกกับเราว่า “สนุกมาก ๆ ที่พี่ ๆ มาเล่นด้วย ได้ระบายสีต้นไม้ ได้ปลูกต้นไม้ 3 ต้น จะดูแลรดน้ำต้นไม้ทุกวัน เพราะต้นไม้ให้ร่มเงากับโรงเรียน และหลังจากที่ต้นไม้โต ก็จะได้เงินที่ขายได้มาซื้อขนมให้อาจารย์ทาน” ฟังแล้วหลายคนก็แอบอมยิ้มและประทับใจกับคำพูดของบรรดาน้องๆไปตามๆ กัน เมื่อได้รับรู้ว่าเด็กพิเศษเหล่านี้ไม่ได้แตกต่างไปจากเด็กปกติอื่นๆเลย เพราะทุกคนมีสำนึกดีที่ดี เห็นความสำคัญของการศึกษา รักสิ่งแวดล้อม และพร้อมที่จะทำความดีเมื่อได้รับการแนะนำแนวทาง และดีใจที่มาเดินทางมาในครั้งนี้ คุณครู และนักเรียนโรงเรียนโคกกระท้อน ซึ่งเป็นโรงเรียนต้นแบบของโครงการ ก็เดินทางตรงมาจากปราจีนบุรี ช่วยมาเป็นพี่เลี้ยงสอนการปลูกต้นไม้ให้กับเพื่อน ๆ อย่างใกล้ชิด
นอกจากโครงการดังกล่าวจะสร้างประโยชน์ทางตรงด้วยการช่วยเติมส่วนที่ขาดให้กับการศึกษาของเด็กๆในชนบทที่ห่างไกลให้ได้มีอุปกรณ์การเรียนที่ครบครัน ทันสมัยแล้ว ทางอ้อมยังเป็นการช่วยกระตุ้นแ ละปลุกจิตสำนึกให้เด็ก ๆเยาวชนหันมาทำความดี เห็นถึงประโยชน์ของการทำความดี และช่วยกันปลูกต้นไม้ รักธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อีกด้วย และโครงการยังต้องการหาโรงเรียนที่ขาดโอกาสอีก 79 แห่ง ที่จะมารับมอบกล้าไม้อีกแห่งละ 500 ต้น ดังนั้น หากโรงเรียนใดมีพื้นที่ว่างและสนใจโครงการ เห็นประโยชน์ของการสร้างจิตสำนึก สร้างโอกาสทางการศึกษาให้กับเยาวชน ก็สามารถสมัครเข้าร่วมโครงการหรือสอบถามการเข้าร่วมโครงการมาได้ที่สายด่วน 1759 เพราะจะเปิดรับสมัครเข้าร่วมโครงการเพียง 80โรงเรียนเท่านั้น
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท คิธ แอนด์ คินฯ จำกัด
คุณมารยาท จำปาทุม
โทร. 02 663 3226 ต่อ 64 หรือ 085-839-1133

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ