กรุงเทพฯ--15 ม.ค.--สปส.
สำนักงานประกันสังคม (สปส.) เตือนผู้ประกันตนที่มีความประสงค์จะเปลี่ยนสถานพยาบาลประจำปี 2551 สามารถยื่นแบบเลือกสถานพยาบาลได้ภายใน 31 มีนาคม 2551
นายสุรินทร์ จิรวิศิษฎ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า สำนักงานประกันสังคม มีภารกิจดูแลรับผิดชอบในการจัดบริการทางการแพทย์ให้แก่ผู้ประกันตน ที่เจ็บป่วยหรือประสบอันตราย โดยสำนักงานประกันสังคมได้กำหนดให้ผู้ประกันตนได้รับบริการทางการแพทย์ ณ สถานพยาบาลที่เลือกไว้ ซึ่งระบุในบัตรรับรองสิทธิการรักษาพยาบาล เว้นแต่ในกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินหรืออุบัติเหตุผู้ประกันตนไม่สามารถเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลตามบัตรรับรองสิทธิการรักษาพยาบาลได้ก็ให้เข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลที่ใกล้ที่สุด สำนักงานประกันสังคมจะจ่ายค่าบริการทางการแพทย์ให้แก่ผู้ประกันตนตามอัตราและหลักเกณฑ์ที่สำนักงานประกันสังคมกำหนดภายใน 72 ชั่วโมงแรก โดยผู้ประกันตนสามารถเลือกสถานพยาบาลในโครงการประกันสังคมเพื่อใช้บริการทางการแพทย์ตามบัตรรับรองสิทธิการรักษาพยาบาลมีอายุคราวละ 2 ปี และผู้ประกันตนสามารถขอเปลี่ยนสถานพยาบาลใหม่ได้ทุกปี ปีละ 1 ครั้ง ในช่วงต้นปีถัดไป
ทั้งนี้ บัตรรับรองสิทธิการรักษาพยาบาล ปี 2550 — 2551 ซึ่งจะหมดอายุในวันที่ 31 ธันวาคม 2551 หากผู้ประกันตนที่เลือกสถานพยาบาลไว้ในปี 2550 ที่ใช้บริการสถานพยาบาลตามบัตรรับรองสิทธิการรักษาพยาบาล ได้รับบริการดีอยู่แล้ว ไม่ต้องเปลี่ยนสถานพยาบาล ผู้ประกันตนสามารถใช้สิทธิรับบริการทางการแพทย์จากสถานพยาบาล ตามบัตรรับรองสิทธิการรักษาพยาบาล ได้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2551 แต่ถ้าหากผู้ประกันตนไม่ได้รับความสะดวกหรือมีความประสงค์ที่จะเปลี่ยนสถานพยาบาลใหม่ในปี 2551 สามารถยื่นเรื่องขอเปลี่ยนสถานพยาบาลได้ ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2551 โดยยื่นแบบเลือกสถานพยาบาล สปส.9-02 พร้อมแนบบัตรรับรองสิทธิการรักษาพยาบาลฉบับเดิม ได้ที่สำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่/จังหวัด/สาขาทุกแห่งทั่วประเทศ ซึ่งผู้ประกันตน
จะต้องถ่ายสำเนาบัตรรับรองสิทธิการรักษาพยาบาลฉบับเดิมไว้ก่อนแนบคืนสำนักงานประกันสังคม เพื่อนำไปใช้สิทธิ รับบริการทางการแพทย์ในช่วงเวลารอการเปลี่ยนสถานพยาบาลใหม่ ณ สถานพยาบาลที่เลือกไว้
นายสุรินทร์ กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้มีสถานพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการประกันสังคม ทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 257 แห่ง แยกเป็นสถานพยาบาลของรัฐบาล 153 แห่ง และสถานพยาบาลของเอกชน 104 แห่ง โดยสถานพยาบาลเดิมที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการประกันสังคมในปีนี้ มี 12 แห่ง ซึ่งสำนักงานประกันสังคมได้จัดสถานพยาบาลของรัฐทดแทนให้ผู้ประกันตน ได้แก่ 1.โรงพยาบาลกรุงธน 1 จัดโรงพยาบาลตากสินทดแทนให้ผู้ประกันตน 2. โรงพยาบาล กรุงธน 2 จัดโรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้าทดแทนให้ผู้ประกันตน 3. โรงพยาบาลกรุณาพิทักษ์ จัดโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ทดแทนให้ผู้ประกันตน 4. โรงพยาบาลพัทยา เมโมเรียล จัดโรงพยาบาลชลบุรี โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา และโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ทดแทนให้ผู้ประกันตน 5. โรงพยาบาลชัยเกษมการแพทย์ จัดโรงพยาบาลอุดรธานีทดแทนให้ผู้ประกันตน 6. โรงพยาบาลเปาโลเมโมเรียล ปัญญาเวช จัดโรงพยาบาลอุดรธานีทดแทนให้ผู้ประกันตน 7. โรงพยาบาลธีรวัฒน์ จัดโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ทดแทนให้ผู้ประกันตน 8. โรงพยาบาลหาญอินเตอร์เนชั่นแนล จัดโรงพยาบาลยโสธรทดแทน ให้ผู้ประกันตน 9. โรงพยาบาลมุกดาหารอินเตอร์เนชั่นแนล จัดโรงพยาบาลมุกดาหารทดแทนให้ผู้ประกันตน 10.โรงพยาบาลค่ายกฤษณ์สีวะรา จัดโรงพยาบาลสกลนครทดแทนให้ผู้ประกันตน 11.โรงพยาบาลเอกชนเมืองกำแพง จัดโรงพยาบาลกำแพงเพชรทดแทนให้ผู้ประกันตน 12. โรงพยาบาลสิโรรส จัดโรงพยาบาลยะลา ทดแทนให้ผู้ประกันตน
หากผู้ประกันตนที่ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ กองประสานการแพทย์และฟื้นฟูสมรรถภาพ โทร 02-956-2494-6 ในวันเวลาราชการ หรือสอบถามได้ที่ สายด่วนประกันสังคม 1506 ได้ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการหรือดูรายละเอียดได้ที่ www.sso.go.th
- พ.ย. ๒๕๖๗ สปส.แนะผู้ประกันตนที่มีบุตรแรกเกิดถึง 6 ปี และส่งเงินสมทบครบ 12 เดือนขึ้นไป สามารถยื่นรับสิทธิสงเคราะห์บุตรได้
- พ.ย. ๒๕๖๗ สปส.แจงแนวปฏิบัติส่งลูกจ้างและผู้ประกันตนทุพพลภาพเข้าศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพฯ
- พ.ย. ๒๕๖๗ สปส.เตือนหากมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูล ของนายจ้างและผู้ประกันตน นายจ้างต้องรีบแจ้ง ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป