กรุงเทพฯ--16 ม.ค.--สปส.
สำนักงานประกันสังคม (สปส.) เผยจากการที่สำนักงานประกันสังคมได้มีการปรับปรุงและพัฒนาการการให้บริการผู้ประกันตนให้ดีขึ้นอยู่ตลอดเวลา ทำให้ตลอดปี 2550 มีผลงานที่ได้รับรางวัลจำนวนมาก กองทุนมีความมั่นคงมากขึ้นมียอดลงทุนกว่า 4.9 แสนล้านบาทพร้อมดูแลปรับปรุงสิทธิประโยชน์ทดแทนให้แก่ผู้ประกันตน
นายสุรินทร์ จิรวิศิษฎ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า ขณะนี้สำนักงานประกันสังคมให้การคุ้มครองดูแลลูกจ้าง ผู้ประกันตน จำนวนกว่า 9.182 ล้านคน มีสถานประกอบการที่ขึ้นทะเบียนประกันสังคมแล้ว จำนวน 381,506 แห่ง (ข้อมูล ณ เดือนธันวาคม 2550) ซึ่งสำนักงานประกันสังคมได้มุ่งมั่นที่จะลดขั้นตอนและระยะเวลาการปฏิบัติงาน โดยปรุงและพัฒนาการทำงานให้ดีขึ้นเร็วขึ้น มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อความพึงพอใจและประโยชน์สูงสุดของประชาชน ทำให้ในปี 2550 สำนักงานประกันได้รับรางวัล คุณภาพการให้บริการประชาชน จำนวนมาก จากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ไม่ว่าจะเป็นในส่วนกลางได้รับรางวัลดีเด่น ประเภทรายกระบวนงานสำหรับกระบวนงานการขอรับประโยชน์ทดแทนจากกองทุนประกันสังคมกรณีคลอดบุตร ได้แก่ สำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่ 1 รางวัลดีเด่น ประเภทนวัตกรรมการให้บริการ สำหรับกระบวนงานการขอรับเงินสมทบที่ชำระไว้แล้วคืนกองทุนประกันสังคม ได้แก่ กองเงินสมทบ รางวัลชมเชย ประเภทภาพรวมกระบวนงาน สำหรับกระบวนงานการขอรับประโยชน์ทดแทนจากกองทุนประกันสังคม กรณีคลอดบุตรได้แก่ กองประโยชน์ทดแทน และสำนักงานส่งเสริมประสิทธิภาพในสำนักงานประกันสังคมรางวัลชมเชย ประเภทรายกระบวนงาน สำหรับกระบวนงานการขอรับประโยชน์ทดแทนจากกองทุนประกันสังคม กรณีทันตกรรม ได้แก่ สำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่ 2 หรือส่วนภูมิภาคที่ได้รับรางวัลดีเด่น ประเภทรายกระบวนงานสำหรับรับชำระเงินสมทบจากนายจ้าง ได้แก่ สำนักงานประกันสังคมจังหวัดเชียงใหม่
นายสุรินทร์ กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ สำนักงานประกันสังคมมีผลการบริหารการลงทุนที่ดีมาก ดูได้จากผลการบริหารกองทุนประกันสังคม ประจำปี 2550 ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2550 กองทุนประกันสังคมมีเงินลงทุนรวม 499,912 ล้านบาท ในจำนวนเงินนี้เป็นเงินกองทุนกรณีสงเคราะห์บุตรและชราภาพ 398,488 ล้านบาทซึ่งกองทุนประกันสังคมจะออมไว้เพื่อจ่ายบำนาญชราภาพ ในปี 2557 เป็นเงินกองทุนที่ดูแลกรณีเจ็บป่วย ตาย ทุพลภาพ คลอดบุตร 72,736 ล้านบาท และเป็นเงินกองทุนกรณีว่างงาน 28,688 ล้านบาท โดยสำนักงานประกันสังคมได้นำเงินลงทุนจำนวน 499912 ล้านบาทในปัจจุบัน แบ่งลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูง ได้แก่ พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรรัฐวิสาหกิจที่มีกระทรวงการคลังค้ำประกัน เงินฝากธนาคาร และหุ้นกู้เอกชน 412,370 ล้านบาท และลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีความเสี่ยง ได้แก่ ตราสารหนี้อื่น ๆ หน่วยลงทุน และหุ้นสามัญ 87,542 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 18 ของเงินลงทุน โดยผลจากการลงทุนทำให้กองทุนประกันสังคมได้ผลตอบแทน จำนวน 21,109 ล้านบาท สูงกว่ามีก่อนซึ่งได้ผลตอบแทน จำนวน 17,346 ล้านบาท
สำนักงานประกันสังคม นำเงินกองทุนประกันสังคมไปลงทุนเป็นการสร้างรายได้ เพื่อให้กองทุนมีความมั่นคงและสามารถดูแลสิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตนได้มากขึ้น โดยตลอดปี 50 สำนักงานประกันสังคมได้ ปรับเพิ่มค่าคลอดบุตรจากเดิม 6,000 บาท เป็น 12,000 บาท ต่อการคลอดหนึ่งครั้ง ปรับเพิ่มกรณีสงเคราะห์บุตรจากเดิม 250 บาท เป็น 350 บาทต่อบุตรหนึ่งคน ปรับเพิ่มกรณีทันตกรรมจากเดิม 200 บาท ต่อครั้ง ไม่เกิน 400 บาท ต่อปี เป็น 250 บาทต่อครั้ง และไม่เกิน 500 บาทต่อปี ปรับเพิ่มค่ายากรณีผู้ประกันตนที่เป็นโรคเอดส์ สามารถรับยาต้านไวรัสเอดส์ ทั้งสูตรพื้นฐาน สูตรทางเลือก และสูตรดื้อยา โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ปรับเพิ่มกรณีชราภาพ เงินบำนาญจากร้อยละ 15 เป็นร้อยละ 20 ของค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย และเพิ่มอัตราเงินบำนาญชราภาพที่จ่ายเกิน 15 ปี จากร้อยละ 1 เป็นร้อยละ 1.5 ต่อระยะเวลาการจ่ายเงินสมทบทุก ๆ ปี ปรับเพิ่มกรณีตายจ่ายค่าทำศพเพิ่มจาก 30,000 บาทเป็น 40,000 บาท
นอกจากนี้ ทิศทางการดำเนินงานในปี 2551 สำนักงานประกันสังคมยังคงเน้นการพัฒนาสิทธิประโยชน์ให้แก่ลูกจ้างและผู้ประกันตน และดำเนินการแก้ไขกฎหมายกองทุน เงินทดแทนเพื่อเพิ่มค่ารักษาพยาบาล และค่าทดแทนกรณีหยุดงาน ทุพพลภาพ ตาย ของกองทุน เงินทดแทน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อให้ผู้ประกันตนได้รับสิทธิประโยชน์สูงสุด
หากผู้ประกันตนต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ สายด่วนประกันสังคม 1506 ได้ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการหรือดูรายละเอียดได้ที่ www.sso.go.th
ศูนย์สารนิเทศ สายด่วนประกันสังคม 1506 www.sso.go.th
- ธ.ค. ๒๕๖๗ สปส.แนะผู้ประกันตนที่มีบุตรแรกเกิดถึง 6 ปี และส่งเงินสมทบครบ 12 เดือนขึ้นไป สามารถยื่นรับสิทธิสงเคราะห์บุตรได้
- ธ.ค. ๒๕๖๗ สปส.แจงแนวปฏิบัติส่งลูกจ้างและผู้ประกันตนทุพพลภาพเข้าศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพฯ
- ธ.ค. ๒๕๖๗ สปส.เตือนหากมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูล ของนายจ้างและผู้ประกันตน นายจ้างต้องรีบแจ้ง ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป