สปส.ย้ำคุ้มครองต่อ 6 เดือนหลังถูกเลิกจ้าง ออกจากงาน หรือไปทำงานต่างประเทศ พร้อมแนะสมัครมาตรา 39 รับสิทธิต่อ เตือนอย่าลืมรักษาสภาพ

พุธ ๑๖ มกราคม ๒๐๐๘ ๑๑:๑๕
กรุงเทพฯ--16 ม.ค.--สปส.
สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ย้ำผู้ประกันตนที่ ถูกเลิกจ้าง ออกจากงาน สำนักงานประกันสังคมให้ความคุ้มครองต่อถึง 6 เดือน พร้อมแนะให้ยื่นสมัครมาตรา 39 เพื่อรับความคุ้มครองต่อภายใน 6 หากผู้ประกันตนเดินทางไปทำงานต่างประเทศ และต้องการรักษาสภาพต่อต้องส่งเงินสมทบ(มาตรา 39) อย่างต่อเนื่อง
นายสุรินทร์ จิรวิศิษฎ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า ผู้ประกันตนที่ถูกเลิกจ้าง ออกจากงาน จะยังคงได้รับการคุ้มครองต่อจากประกันสังคม 4 กรณี คือ ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ทุพพลภาพ ตายไม่เนื่องจากการทำงาน และคลอดบุตร จะได้รับความคุ้มครองต่ออีก 6 เดือน โดยไม่ต้องส่งเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม นอกจากนี้ในระยะเวลาที่ผู้ประกันตนว่างเว้นจากการทำงานในช่วง 6 เดือนนี้หากผู้ประกันตนที่มีความประสงค์จะเป็นผู้ประกันตนต่อ สามารถยื่นแสดงความจำนงเพื่อสมัครเป็นผู้ประกันตน มาตรา 39 ต่อ สปส. ภายใน 6 เดือนนับแต่วันที่สิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตนทั้งนี้ต้องเคย ส่งเงินสมทบมาแล้ว ไม่น้อยกว่า 12 เดือน โดยผู้ประกันตนจะได้รับความคุ้มครอง 6 กรณี คือ ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ทุพพลภาพ ตายไม่เนื่องจากการทำงาน คลอดบุตร สงเคราะห์บุตรและชราภาพ
“สำหรับสิทธิประโยชน์ทดแทนในกรณีที่ผู้ประกันตนตามมาตรา 39 ที่ไปทำงานต่างประเทศ ถ้าผู้ประกันตนเกิดอุบัติเหตุที่คาดไม่ถึง ไม่ว่าจะเป็นในกรณีประสบอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วยฉุกเฉิน ในระหว่างอยู่ต่างประเทศ ผู้ประกันตนสามารถเข้ารักษาตัวในสถานพยาบาลต่างประเทศที่สะดวกได้ทันที ซึ่งผู้ประกันตนจะต้องสำรองเงินจ่ายไปก่อนและเก็บหลักฐานใบเสร็จเงินและใบรับรองแพทย์ไว้เพื่อมาเบิกคืนตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงานประกันสังคมกำหนดความคุ้มครองไว้ภายใน 72 ชั่วโมงแรก หลังจากเดินทางกลับมาถึงแล้วผู้ประกันตนสามารถติดต่อขอรับประโยชน์ทดแทนได้ที่ สปส. ทุกแห่งที่สะดวก ส่วนในกรณีที่ผู้ประกันตนได้สำรองจ่ายไปเป็นเงินตราต่างประเทศในระหว่างการรักษาพยาบาล ทาง สปส. จะคำนวณจ่ายทดแทนคืนตามอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ ณ วันที่สั่งจ่ายเงินทดแทนค่าบริการทางการแพทย์ให้แก่ผู้ประกันตน สำหรับผู้ประกันตนที่ยังไม่ได้ยื่นขอรับประโยชน์ทดแทนให้มายื่นขอรับสิทธิภายใน 1 ปี นับแต่วันที่รับบริการทางการแพทย์”
นายสุรินทร์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับผู้ประกันตนที่เป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 ที่ไปทำงานต่างประเทศ หากประสงค์จะรักษาสภาพการเป็นผู้ประกันตนต่อ ต้องส่งเงินสมทบอย่างต่อเนื่อง เพราะถ้าผู้ประกันตนขาดส่งเงินสบทบติดต่อกันเกิน 3 เดือน จะถูกตัดสิทธิการเป็นผู้ประกันตน สำหรับการส่งเงินสมทบจำนวน 432 บาทต่อเดือนให้กับสำนักงานประกันสังคมได้ถึง 2 วิธี คือ ส่งผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) ส่วนอีกวิธีหนึ่งคือการเปิดบัญชีประเภทออมทรัพย์และให้ทางธนาคารหักจากบัญชีธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคาร กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) เช่นเดียวกันกับการส่งผ่านเคาน์เตอร์ พร้อมย้ำผู้ประกันตนที่ไปทำงานต่างประเทศควรศึกษาสิทธิประโยชน์ของประกันสังคมและหมั่นตรวจสอบการนำส่งเงินสมทบของตนองอย่างต่อเนื่อง และขอความร่วมมือบริษัทจัดหางานช่วยประชาสัมพันธ์ต่อไปยังแรงงานภายในประเทศ และแรงงานที่จะเดินทางไปทำงานต่างประเทศให้ได้ทราบสิทธิประโยชน์จากประกันสังคม
หากผู้ประกันตนที่ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ สายด่วนประกันสังคม 1506 ได้ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการหรือดูรายละเอียดได้ที่ www.sso.go.th
ศูนย์สารนิเทศ สายด่วนประกันสังคม 1506 www.sso.go.th

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ