กรุงเทพฯ--18 ม.ค.--สปส.
สำนักงานประกันสังคม (สปส.) เตือนนายจ้างต้องจ่ายเงินสมทบกองทุน เงินทดแทนให้ครบถ้วนภายในเดือนมกราคม และรายงานค่าจ้างประจำปีให้ถูกต้องภายในเดือนกุมภาพันธ์ เพื่อประโยชน์ของลูกจ้างได้รับสิทธิกองทุนเงินทดแทนอย่างเต็มที่
นายสุรินทร์ จิรวิศิษฎ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า สำนักงานประกันสังคมได้มีการจัดเก็บเงินสมทบกองทุนเงินทดแทน ปีละ 1 ครั้ง ภายในเดือนมกราคม โดยเงินที่เรียกเก็บเป็นอัตราเงินสมทบโดยประมาณ เนื่องจากในระหว่างปี นายจ้างอาจมีการเพิ่มหรือลดจำนวนลูกจ้าง หรือมีการปรับอัตราค่าจ้าง และนายจ้างมีหน้าที่รายงานค่าจ้างที่จ่ายจริงของปีที่ผ่านมาภายในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี หากจำนวนค่าจ้างจริงของปีที่ผ่านมาสูงกว่าค่าจ้างที่ประมาณไว้ นายจ้างจะต้องจ่ายเงินสมทบเพิ่มภายในวันที่ 31 มีนาคม แต่หากแจ้งจำนวนเงินค่าจ้างจริงรวมกันทั้งปีต่ำกว่าที่ประมาณไว้ กองทุนเงินทดแทนจะคืนเงินสมทบส่วน ที่เกินให้นายจ้าง ดังนั้นนายจ้างไม่ควรลืมการรายงานค่าจ้างที่เป็นจริงภายในเดือนกุมภาพันธ์ ของทุกปี เพราะหากไม่รายงานและอาจมีเงินสมทบเพิ่มขึ้น นายจ้างจะต้องเสียค่าปรับตามกฎหมายถึง ร้อยละ 3 ต่อเดือน
กองทุนเงินทดแทน เป็นกองทุนตามพระราชบัญญัติเงินทดแทน พ.ศ.2537 เพื่อเป็นกองทุนในการจ่ายเงินทดแทนให้แก่ลูกจ้างแทนนายจ้างเมื่อลูกจ้างประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ตาย หรือสูญหายเนื่องจากการทำงานให้นายจ้าง โดยสำนักงานประกันสังคมได้จัดเก็บเงินสมทบจากนายจ้างที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 1 คน ขึ้นไปเพียงฝ่ายเดียว ในอัตราเงินสมทบหลักระหว่าง ร้อยละ 0.2-1.0 ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงภัยของประเภทกิจการของนายจ้าง และเมื่อนายจ้างจ่ายเงินสมทบตามอัตราหลัก 4 ปี ติดต่อกันแล้ว ในปีที่ 5 เป็นต้นไป จะเรียกเก็บเงินสมทบตามค่าประสบการณ์ ซึ่งหากนายจ้างจัดให้มีความปลอดภัยในการทำงานดี ลูกจ้างประสบอันตรายจากการทำงานน้อยหรือไม่มีเลย ก็จะลด “อัตราค่าประสบการณ์” ได้สูงสุดถึงร้อยละ 80 ของอัตราเงินสมทบหลัก แต่ถ้านายจ้างไม่จัดความปลอดภัย และเกิดอุบัติเหตุหรือประสบอันตรายต่อลูกจ้างสูง อัตราเงินสมทบตามค่าประสบการณ์จะเพิ่มไปถึงร้อยละ 150
กรณีที่นายจ้างขึ้นทะเบียนและจ่ายเงินสมทบกองทุนเงินทดแทนแล้ว เมื่อลูกจ้างประสบอันตรายเนื่องจากการทำงาน ก็จะได้รับสิทธิรับเงินทดแทนตามกฎหมาย คือ ค่ารักษาพยาบาล ค่าทดแทนการหยุดงาน สูญสียอวัยวะ ทุพพลภาพ ตายหรือสูญหาย ค่าทำศพ และค่าฟื้นฟูสมรรถภาพในการทำงาน
หากผู้ประกันตนต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานกองทุนเงินทดแทน โทร 02-956-2726-7 ในวันและเวลาราชการ หรือที่สายด่วนประกันสังคม 1506 ได้ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการหรือดูรายละเอียดได้ที่ www.sso.go.th
- พ.ย. ๒๕๖๗ สปส.แนะผู้ประกันตนที่มีบุตรแรกเกิดถึง 6 ปี และส่งเงินสมทบครบ 12 เดือนขึ้นไป สามารถยื่นรับสิทธิสงเคราะห์บุตรได้
- พ.ย. ๒๕๖๗ สปส.แจงแนวปฏิบัติส่งลูกจ้างและผู้ประกันตนทุพพลภาพเข้าศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพฯ
- พ.ย. ๒๕๖๗ สปส.เตือนหากมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูล ของนายจ้างและผู้ประกันตน นายจ้างต้องรีบแจ้ง ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป