“ไอที เวิร์คส์” ผุด “TimeWORKS” เวอร์ชั่นใหม่ยึดฐานเดิม พร้อมขยายลูกค้ากลุ่มโรงงาน

จันทร์ ๒๑ มกราคม ๒๐๐๘ ๑๐:๔๗
กรุงเทพฯ--21 ม.ค.--ไอที เวิร์คส์
ไอที เวิร์คส์” ผุดระบบซอฟท์แวร์ลงเวลาด้วยลายนิ้วมือ “TimeWORKS” เวอร์ชั่นใหม่ลงตลาดต้นปี 2551 ชี้สามารถลงเวลาแบบกะวนได้ เจาะกลุ่มโรงงาน โรงพยาบาล ประเดิม Feature สำหรับลูกค้าเอสเอ็มอีกลุ่มแรก มั่นใจช่วยขยายฐานลูกค้าใหม่ เผยเตรียมพัฒนาผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ให้ใช้งานซอฟท์แวร์ร่วมกันได้
นายณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอที เวิร์คส์ จำกัด ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์ Identification Technology (เทคโนโลยีที่ใช้ยืนยันตัวบุคคล) เปิดเผยว่า ในช่วงต้นปี 2551 บริษัทฯ เตรียมเปิดตัวระบบซอฟท์แวร์ลงเวลาด้วยลายนิ้วมือหรือ “TimeWORKS” เวอร์ชั่นใหม่ ซึ่งรองรับระบบการเข้าทำงานแบบวนกะ เหมาะสำหรับกลุ่มหน่วยงานหรือองค์กรที่พนักงานเข้างานเป็นกะ เช่น โรงงานอุตสาหกรรม โรงพยาบาล เป็นต้น
“ระบบการทำงานของ “TimeWORKS” ในเวอร์ชั่นใหม่นี้ จะสามารถรองรับการลงเวลาด้วยลายนิ้วมือของพนักงานได้หลายรอบกะใน 1 วัน จึงเหมาะกับหน่วยงานหรือองค์กรที่มีพนักงานเข้าและออกงานเป็นกะ เช่น โรงงานอุตสาหกรรม โรงพยาบาล เป็นต้น ซึ่งบริษัทฯ ได้แบ่งกลุ่มตลาดสินค้าประเภทนี้ออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ 1) SME 2) Factory 3) Mini Shop/ Franchise และ 4) Enterprise ทั้งนี้ ความสามารถของระบบก็จะแตกต่างกันไป เพื่อให้เหมาะกับการทำงานของแต่ละกลุ่ม โดยในช่วงแรกบริษัทฯ จะทำการเปิดตัวสำหรับกลุ่ม SME ก่อนเป็นกลุ่มแรก จากนั้นจึงจะทยอยเปิดตัวสำหรับกลุ่มโรงงานและกลุ่มแฟรนชายซ์ และสุดท้ายสำหรับกลุ่ม Enterprise” นายณัฐวุฒิ กล่าว
ข้อดีของ “TimeWORKS” เวอร์ชั่นใหม่จะช่วยลดขั้นตอนการทำงานที่ซับซ้อนต่างๆ ลง ส่งผลให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้ง่ายขึ้น รวมถึงหน้าตาของโปรแกรมซึ่งออกแบบให้ดูง่าย เน้น Visualize โดยการตีความข้อมูลโดยใช้รูปภาพเป็นหลัก เพื่อให้ผู้ใช้งานเข้าใจง่าย
นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า “ปัจจุบันลูกค้าที่ใช้ผลิตภัณฑ์ “TimeWORKS” ของบริษัทฯ ทั้งแบบ online ที่ต้องใช้พีซีในการรันระบบ และแบบ offline ที่ไม่ต้องใช้พีซีในการรันระบบ มีประมาณ 5,000-6,000 ราย โดยจะเริ่มนำเสนอการอัพเกรดเวอร์ชั่นให้กับลูกค้าเก่าในช่วงไตรมาสที่สอง และในช่วงต้นปีจะทดลองใช้กับลูกค้าเก่าบางรายก่อน”
เหตุผลที่บริษัทฯ พัฒนา “TimeWORKS” เวอร์ชั่นใหม่ขึ้นมานั้น นอกจากลดขั้นตอนการทำงานลงแล้ว ยังช่วยตอบสนองกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมรวมถึงหน่วยงานที่มีพนักงานเข้าทำงานเป็นกะ ซึ่งคาดว่าจะช่วยขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ ให้กับบริษัทฯ ได้อีกทางหนึ่ง
นอกจากนี้ ในอนาคตบริษัทฯ มีแผนที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ซอฟท์แวร์ด้าน Identification Technology ที่เกี่ยวกับลายนิ้วมือ และผลิตภัณฑ์ชุดพัฒนา (SDK) ได้แก่ RFID, เครื่องอ่านบัตรประชาชน และชุดพัฒนาระบบแสดงตนด้วยลายนิ้วมือ ให้สามารถใช้งานซอฟท์แวร์ร่วมกันได้ เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับทั้งกลุ่มลูกค้าเก่าและใหม่ในการเลือกใช้งานผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ
“ในส่วนของการตอบรับ products ต่างๆ ในปี 2550 ที่ผ่านมานั้น ยังคงได้รับการตอบรับจากลูกค้าเก่าในกลุ่มของดีลเลอร์เป็นอย่างดี ด้านลูกค้าใหม่ๆ ยังคงสามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องเช่นกัน” นายณัฐวุฒิ กล่าวทิ้งท้าย
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
พรรณรา บุตราช Senior Public Relations
โทร. 0-2645-1200 ต่อ 104, โทรสาร 0-2645-1233 E-mail: [email protected]

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ