กรุงเทพฯ--21 ม.ค.--สปส.
สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ลงนามบันทึกความร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร(กทม.) จัดบริการระบบสุขภาพให้ผู้ประกันตนในเขตกรุงเทพมหานคร เพื่อให้ผู้ประกันตนมีหลักประกันในการดำเนินชีวิตที่มั่นคงมีประสิทธิภาพ และได้รับความสะดวกยิ่งขึ้น
นายสุรินทร์ จิรวิศิษฎ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า สปส. มีความห่วงใยในผู้ประกันตนถึงหลักประกันการดำรงชีวิตของผู้ประกันตน ซึ่ง สปส. อยากให้ผู้ประกันตน มีความมั่นคงและมีประสิทธิภาพในการดำเนินชีวิต จึงได้ประสานความร่วมมือกับ ทางกรุงเทพมหานคร (กทม.) เพื่อทำการลงนามบันทึกความร่วมมือ เรื่อง การจัดบริการระบบสุขภาพให้ผู้ประกันตนในเขตกรุงเทพมหานคร โดยจะมีพิธีการลงบันทึกความร่วมมือดังกล่าว ในวันจันทร์ที่ 21 มกราคม 2551 เวลา 10.30 น. ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร
โดยบันทึกความร่วมมือ ได้มีการประสานกับสถานพยาบาลของ กทม. ได้แก่ วิทยาลัยแพทยศาสตร์กรุงเทพมหานครและวชิรพยาบาล โรงพยาบาลกลาง โรงพยาบาลตากสิน โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ โรงพยาบาลหลวงพ่อทวีศักดิ์ ชุตินฺธโร อุทิศ โรงพยาบาล ราชพิพัฒน์ โรงพยาบาลสิรินธร โรงพยาบาลหนองจอก โรงพยาบาลลาดกระบังกรุงเทพมหานคร ศูนย์บริการสาธารณสุข จำนวน 68 ศูนย์ และส่วนราชการของ กทม. ที่เรียกชื่ออย่างอื่นซึ่งให้บริการทางการแพทย์และสาธารณสุข (ศูนย์บริการสาธารณสุขสาขา) จำนวน 75 ศูนย์สาขา โดยผู้ประกันตนจะได้รับบริการทางการแพทย์ในสถานบริการของ กทม. ทุกแห่ง ในกรณี ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยทั้งที่เนื่องจากการทำงานและไม่เนื่องจากการทำงาน บริการ ทางการแพทย์ฉุกเฉินกรุงเทพมหานคร ของ กทม. บริการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค บริการด้านการฟื้นฟูสมรรถภาพ บริการทางการแพทย์จากสถานพยาบาลที่ไม่สังกัด กทม. ซึ่งได้ทำความร่วมมือเป็นเครือข่ายกับ กทม. นอกเหนือจากนั้นแล้วผู้ประกันตนยังจะได้รับบริการเพิ่มเติม จากทาง กทม. เช่น การออกใบสูติบัตรและใบมรณบัตร เพื่อให้ความสะดวกแก่ผู้ประกันตนหรือ /ญาติของผู้ประกันตน...
ญาติของผู้ประกันตน มีการผลักดันให้มีความร่วมมือ 3 ฝ่าย ระหว่าง สปส. กทม.และสถานประกอบการ เพื่อให้มีระบบบริหารจัดการสุขภาพแบบเบ็ดเสร็จ รวมถึง กทม. จะให้ความร่วมมือกับคณะแพทย์ศาสตร์ที่ตั้งอยู่ในเขต กทม. ตามความเหมาะสมในการดูแลรักษาผู้ประกันตนที่มีความยุ่งยากสลับซับซ้อน
นอกจากนี้ ทาง สปส. จะให้การสนับสนุนให้มีการจ่ายประโยชน์ทดแทนกรณีคลอดบุตร ณ สถานพยาบาลที่มีการออกเอกสารสูติบัตร สนับสนุนให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่าง สปส. กับ กทม. เพื่อประโยชน์ในการบริการระบบสุขภาพแก่ผู้ประกันตน และสนับสนุนระบบบริหารจัดการสุขภาพเบ็ดเสร็จในสถานประกอบการให้แก่ผู้ประกันตน ซึ่งข้อตกลงความร่วมมือเหล่านี้ จะทำให้ผู้ประกันตนได้รับความสะดวก และได้รับบริการที่มีประสิทธิภาพเพิ่มมากยิ่งขึ้น
- พ.ย. ๒๕๖๗ สปส.แนะผู้ประกันตนที่มีบุตรแรกเกิดถึง 6 ปี และส่งเงินสมทบครบ 12 เดือนขึ้นไป สามารถยื่นรับสิทธิสงเคราะห์บุตรได้
- พ.ย. ๒๕๖๗ สปส.แจงแนวปฏิบัติส่งลูกจ้างและผู้ประกันตนทุพพลภาพเข้าศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพฯ
- พ.ย. ๒๕๖๗ สปส.เตือนหากมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูล ของนายจ้างและผู้ประกันตน นายจ้างต้องรีบแจ้ง ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป