ฟิทช์คงอันดับเครดิตภายในประเทศ บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพฯ จำกัด (มหาชน)

จันทร์ ๒๑ มกราคม ๒๐๐๘ ๑๕:๕๔
กรุงเทพฯ--21 ม.ค.--ฟิทช์ เรทติ้งส์
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) ระยะยาว ของบริษัทบริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BAFS ที่ระดับ “A-(tha)” (A ลบ (tha)) และอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) ระยะสั้นที่ระดับ “F2(tha)” แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ
อันดับเครดิตของ BAFS สะท้อนถึงสถานะการเป็นผู้นำในการให้บริการเติมน้ำมันอากาศยาน โดย BAFS เป็นผู้ให้บริการคลังเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน (Depot Service) และเครือข่ายท่อจ่ายน้ำมันอากาศยาน (Hydrant Pipeline Network) แต่เพียงรายเดียวและเป็นผู้ให้บริการหลักในส่วนของรถเติมน้ำมันอากาศยาน (Into- Plane Service) ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิโดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดในการเติมน้ำมันอากาศยานที่ 90% นอกจากนี้ BAFS ยังเป็นผู้ให้บริการเติมน้ำมันอากาศยาน ณ ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพหรือสนามบินดอนเมืองแต่เพียงรายเดียว อันดับเครดิตยังพิจารณาถึง การที่ผู้ถือหุ้นหลักของ BAFS เป็นผู้ใช้บริการหลักในการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน และทีมบริหารระดับสูงของบริษัทที่มีประสบการณ์ นอกจากนี้อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงการปรับตัวที่ดีขึ้นของผลการดำเนินงาน และความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งและมั่นคง BAFS เป็นผู้รับผิดชอบในการให้บริการเติมน้ำมันอากาศยาน ในขณะที่ลูกค้าจะต้องเป็นผู้จัดหาและจัดส่งน้ำมัน JET A-1 เข้าเก็บในคลังน้ำมันเชื้อเพลิง ดังนั้นความผันผวนของราคาน้ำมันจึงไม่มีผลกระทบโดยตรงต่อรายได้ของบริษัท
อย่างไรก็ตามอันดับเครดิตของ BAFS ยังพิจารณาถึงอัตราส่วนหนี้สินที่สูงในปัจจุบัน อันเป็นผลมาจากการลงทุนก่อสร้างระบบเติมน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบครบวงจรที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ แม้ว่าอัตราส่วนหนี้สินของ BAFS จะมีการปรับตัวดีขึ้นหลังจากการเปิดใช้งานท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในเดือนกันยายน 2549 นอกจากนี้ความเป็นไปได้ที่จะมีผู้ประกอบการรายใหม่เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งรายในส่วนของธุรกิจคลังเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน ซึ่งอาจทำให้มีการแข่งขันด้านราคามากขึ้นในระยะปานกลาง นอกจากนี้ราคาน้ำมันที่สูงมากในขณะนี้อาจมีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการบินซึ่งจะส่งผลกระทบต่อปริมาณการใช้บริการเติมน้ำมันอากาศยานและการเติบโตของรายได้ของบริษัทได้
สำหรับในปี 2550 ที่ผ่านมา BAFS มีผลการดำเนินงานตามที่ Fitch คาดการณ์ไว้ โดยบริษัทมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าเช่า (EBITDAR) สำหรับงวด 9 เดือนสิ้นสุดเดือนกันยายน 2550 เพิ่มขึ้น 89% มาอยู่ที่ 1.1 พันล้านบาท ทั้งนี้เป็นผลมาจากค่าบริการเติมน้ำมันอากาศยาน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิที่เพิ่มขึ้นเท่าตัวเมื่อเทียบกับค่าบริการเติมน้ำมันอากาศยาน ณ ท่าอากาศยานดอนเมืองในช่วงก่อนที่จะมีการย้ายสนามบิน และการเพิ่มขึ้นของปริมาณการเติมน้ำมันอากาศยาน นอกจากนี้ผลประกอบการในไตรมาส 4 ของปี 2550 ของบริษัทน่าจะยังคงแข็งแกร่งเนื่องจากเป็นฤดูท่องเที่ยว ในด้านของอัตราส่วนหนี้สิน บริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินสุทธิที่ปรับปรุงแล้วต่อกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อม ค่าตัดจำหน่ายและค่าเช่า (Net Adjusted Debt/EBITDAR) ณ สิ้นเดือนกันยายน 2550 ลดลงมาอยู่ที่ 2.7 เท่า จากระดับสูงสุดที่ 4.9 เท่า ณ สิ้นปี 2548 แนวโน้มการเติบโตของผลประกอบการที่ยังคงแข็งแกร่งและการลดลงอย่างมีนัยสำคัญของเงินลงทุนในอนาคต จะเป็นส่วนช่วยให้อัตราส่วนหนี้สินของบริษัทปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ในระดับ 2.0 เท่า ถึง 2.5 เท่า ภายในสิ้นปี 2551
ความเสี่ยงที่เกิดจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนได้ถูกลดทอนลงอย่างมากหลังจากบริษัทได้เปลี่ยนอัตราค่าบริการคลังเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน (Depot Service) และค่าบริการเครือข่ายท่อจ่ายน้ำมันอากาศยาน (Hydrant Service) จากสกุลดอลลาร์สหรัฐเป็นสกุลบาทในเดือนตุลาคม 2550 ในขณะที่ยังคงอัตราค่าบริการเติมน้ำมันอากาศยาน (Into-Plane Service) เป็นสกุลดอลล์ลาร์สหรัฐเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันกับผู้ประกอบการเติมน้ำมันอากาศยานอีกรายที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ณ ปัจจุบันประมาณ 80% ของรายได้จากการให้บริการของ BAFS อยู่ในรูปสกุลเงินบาท (ก่อนหน้านี้เป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ 100%) ซึ่งทำให้สอดคล้องมากขึ้นกับค่าใช้จ่าย และหนี้สินของ BAFS ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเงินบาท
แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพของ BAFS สะท้อนถึงแนวโน้มการเติบโตที่แข็งแกร่งของความสามารถในการสร้างรายได้และการลดลงของเงินลงทุนในอนาคต ซึ่งจะเป็นส่วนช่วยลดอัตราส่วนหนี้สินของบริษัทให้ปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับอันดับเครดิต ณ ปัจจุบัน ภาย 12-18 เดือนข้างหน้า
หมายเหตุ : การจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) เป็นการวัดระดับความน่าเชื่อถือในเชิงเปรียบเทียบกันระหว่างองค์กรในประเทศนั้นๆ โดยจะใช้ในประเทศที่อันดับเครดิตแบบสากลของรัฐบาลในประเทศนั้นอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ อันดับเครดิตขององค์กรที่ดีที่สุดของประเทศได้จัดไว้ที่ระดับ “AAA” และการจัดอันดับเครดิตอื่นในประเทศ จะเป็นการเปรียบเทียบความเสี่ยงกับองค์กรที่ดีที่สุดนี้เท่านั้น อันดับเครดิตภายในประเทศได้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อใช้ในตลาดในประเทศเป็นหลักและจะมีสัญลักษณ์ที่กำหนดไว้ต่อท้ายจากอันดับเครดิตสำหรับประเทศนั้นๆ เช่น “AAA(tha)” ในกรณีของประเทศไทย ดังนั้นอันดับเครดิตภายในประเทศจึงไม่สามารถใช้เปรียบเทียบระหว่างประเทศได้
ติดต่อ: โอบบุญ ถิรจิต, วสันต์ ผลเจริญ, Vincent Milton, + 662 655 4755

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version