FTA อาเซียน-ญี่ปุ่น พร้อมลงนามพฤษภาคมนี้

พฤหัส ๒๔ มกราคม ๒๐๐๘ ๑๕:๑๒
กรุงเทพฯ--24 ม.ค.--ปชส.จร.
ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจอาเซียน-ญี่ปุ่นพร้อมที่จะลงนามแล้วหลังจากผ่านการเจรจาอย่างเข้มข้นเป็นเวลานานกว่า 4 ปีนับตั้งแต่ผู้นำของทั้งสองฝ่ายลงนามในกรอบการเจรจาในปี 2546
นายวินิจฉัย แจ่มแจ้ง รักษาการที่ปรึกษาการพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสเศรษฐกิจอาเซียน ครั้งที่ 1/39 ณ ประเทศฟิลิปปินส์ ระหว่างวันที่ 19-22 มกราคม 2550 ที่ประชุมได้มีการหารือกันถึงกำหนดเวลาและรูปแบบการลงนามความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจอาเซียน-ญี่ปุ่น โดยญี่ปุ่นต้องการให้การลงนามเกิดขึ้นภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ในที่สุดที่ประชุมมีมติให้การลงนามอาจทำโดยประเทศอาเซียนที่พร้อมลงนามกับญี่ปุ่นไปก่อนโดยไม่ต้องมีการลงนามพร้อมกัน หรือหากอาเซียนทุกประเทศสามารถดำเนินกระบวนการภายในเสร็จสิ้นทันการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการซึ่งมีกำหนดที่จะจัดขึ้นในเดือนพฤษภาคมนี้อาจจัดให้มีพิธีการลงนามความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจอาเซียน-ญี่ปุ่นในการประชุมดังกล่าว
ในส่วนของประเทศไทยนั้นตามรัฐธรรมนูญมาตรา 190 ก่อนการลงนามความตกลงนี้จะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี และก่อนการแสดงเจตนาให้มีผลผูกพัน (การให้สัตยาบัน) จะต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา ซึ่งปัจจุบันกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศกำลังอยู่ระหว่างการเตรียมการเพื่อเสนอความตกลงฯ ต่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่พิจารณาให้ความเห็นชอบให้ลงนามได้ ควบคู่ไปกับการเผยแพร่สาระสำคัญของความตกลงฯ ให้ประชาชนรับทราบและเตรียมพร้อมกับความตกลงฯ ใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
นายวินิจฉัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ความตกลงนี้จะครอบคลุมการค้าสินค้าเป็นหลัก ส่วนการค้าบริการและการลงทุนนั้นทั้งสองฝ่ายเห็นว่ามีในความตกลงทวิภาคีระหว่างประเทศในอาเซียนส่วนใหญ่และญี่ปุ่นแล้ว จึงได้มีการตกลงในกรอบกว้างๆ โดยจะยังไม่มีการเปิดเสรี ทั้งนี้ทั้งสองฝ่ายจะเจรจากันต่อไปในอนาคต
ความตกลงฯ นี้จะทำให้เกิดเขตการค้าเสรีขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าการค้าระหว่างกันสูงถึง 163 พันล้านเหรียญสหรัฐ และเกิดเครือข่ายการผลิตขนาดใหญ่ โดยประเทศภาคีสามารถสะสมแหล่งกำเนิดสินค้าภายในภูมิภาคเพื่อขอรับสิทธิพิเศษทางภาษีที่จะเกิดขึ้นได้ ผลของความตกลงฯ จะเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่ายทั้งในด้านการค้าและการลงทุน และส่งเสริมให้อาเซียนเป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออกสินค้าเทคโนโลยีไปสู่ตลาดโลก
“ในการเปิดตลาดสินค้านั้น 90 เปอร์เซ็นต์ของมูลค่าการนำเข้าของญี่ปุ่นจากอาเซียนจะลดภาษีเป็น 0 ทันทีที่ความตกลงมีผลใช้บังคับ ในขณะที่ไทยไม่ได้เปิดตลาดสินค้าไปมากกว่าความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่นที่มีผลใช้บังคับแล้วในปัจจุบัน ทั้งนี้ประโยชน์ที่ไทยได้รับเพิ่มเติมเมื่อเทียบกับความตกลง JTEPA ได้แก่ การเปิดตลาดสินค้าเพิ่มขึ้น/เร็วขึ้น 71 รายการ คิดเป็นมูลค่า 53 ล้านเหรียญสหรัฐ ที่สำคัญได้แก่ ผลิตภัณฑ์จากปลา กล้วย ผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูป ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี ไม้อัด ไม้แปรรูป เป็นต้น และสามารถสะสมแหล่งกำเนิดสินค้า รวมถึงประโยชน์จากความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ในสาขาต่างๆ จำนวนไม่ต่ำกว่า 14 สาขา เช่น การอำนวยความสะดวกทางการค้า สภาพแวดล้อมทางธุรกิจ พลังงาน สารสนเทศและการสื่อสาร และการพัฒนาทรัพยากรบุคคล เป็นต้น ซึ่งยังเปิดกว้างให้ประเทศภาคีเสนอโครงการดำเนินการความร่วมมือในสาขาดังกล่าวข้างต้นต่อไปอีก รวมทั้งความตกลงนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยปูทางนำไปสู่การจัดทำเขตการค้าเสรีขนาดใหญ่ในระดับภูมิภาคต่อไป เช่น อาเวียน+3 และอาเซียน +6” นายวินิจฉัยกล่าว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version