LOUIS VUITTON WHERE WILL LIFE TAKE YOU? เปิดฉากภาพยนตร์โฆษณาของหลุยส์ วิตตอง

จันทร์ ๒๘ มกราคม ๒๐๐๘ ๑๕:๓๕
กรุงเทพฯ--28 ม.ค.--แบรนเด็ด เดอะ เอเจนซี่
ครั้งแรกแห่งประวัติศาสตร์ของหลุยส์ วิตตอง ในการสร้างสรรค์ภาพยนตร์โฆษณา ที่จะปรากฏให้เห็นผ่านทางโทรทัศน์ และในโรงภาพยนตร์ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 (ค.ศ.2008) ด้วยความยาว 90 วินาที ที่จะมาสร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่แห่งวงการสินค้าหรูหรา
โฆษณาชิ้นนี้แตกต่างจากภาพยนตร์โฆษณาทั่วไป ด้วยช่วงเวลาการออกอากาศที่มีความยาวมากกว่าปกติถึง 2 เท่า อีกทั้งยังเป็นครั้งแรกในประวัติการณ์ของวงการแฟชั่นชั้นสูง ที่นำเสนอผลงานผ่านทางภาพยนตร์โฆษณาด้วยเจตนารมณ์อันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของหลุยส์ วิตตอง ที่ถ่ายทอดออกมาเป็นภาพยนตร์โฆษณา โดยให้ความสำคัญแก่จิตวิญญาณแห่งการเดินทางมากกว่าที่จะนำเสนอตัวผลิตภัณฑ์หรือเรื่องราวลงในผลงานครั้งนี้ ความเข้มข้นของบรรยากาศแห่งการเดินทางนั้น เสมือนประสบการณ์ชีวิตที่ไม่เคยหยุดนิ่ง
ภาพยนตร์โฆษณาของหลุยส์ วิตตองชิ้นนี้นั้นเป็นผลงานที่ได้รับการกล่าวขานในขณะนี้ โดยได้รับเกียรติจากบุคคลสำคัญระดับโลกอย่าง มิคาอิล กอร์บาชอฟ (Mikhail Gorbachev) และดารานักแสดงชื่อดัง แคเธอรีน เดอเนิฟ (Catherine Deneuve) มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในผลงานชิ้นประวัติศาสตร์ เพื่อแสดงให้เห็นถึงรูปแบบการเดินทางตามแบบฉบับเฉพาะตัวของแต่ละบุคคล อย่างไรก็ตามภาพยนตร์โฆษณาชิ้นนี้ก็ยังคงดำรงคอนเซ็ปท์ที่แตกต่างไปจากโฆษณาทั่วไปอย่างสิ้นเชิง ทั้งการเลือกใช้นักแสดงและฉากที่ใช้ในการถ่ายทำนั้นมาจากสถานที่จริงไม่ได้จัดทำขึ้น เพื่อการถ่ายทำโดยเฉพาะ และที่สำคัญภาพยนตร์โฆษณาชิ้นนี้ได้นักกีต้าร์ชื่อดังกุสตาโว ซานตาโอลาลลา (Gustavo Santaolalla) ผู้ที่ชนะรางวัลออสการ์ จากการแต่งเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง บาเบล (Babel) และเรื่อง โบรคแบค เมาท์เท่น (Brokeback Mountain) มาสร้างท่วงทำนองจากกีต้าร์เพื่อดำเนินเรื่องราว นอกจากนี้ การถ่ายทอดมนต์เสน่ห์ของสถานที่ต่างๆหลากหลายมุมมอง ในขณะเดียวกันจะมีข้อความปรากฏขึ้นเพื่อให้ผู้ชมได้มีส่วนร่วมคิดและจิตนาการตามกับประโยคคำถามที่เริ่มว่า “อะไรคือการเดินทาง?” ("What is a journey?”) จนนำไปสู่ประโยคสุดท้ายที่ว่า “ชีวิตจะนำพาเราไปทิศทางใด?” ("Where will life take you?")
ภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้ จะแพร่ภาพไปทั่วโลก โดยจัดทำขึ้น 13 ภาษาด้วยกัน โดยจะแพร่ภาพผ่านทางโทรทัศน์และโรงภาพยนตร์ตลอดทั้งปีพ.ศ. 2551 (ค.ศ. 2008) ปิเอโทร เบคคารี (Pietro Beccari) รองประธานอาวุโสแผนก การสื่อสารและการตลาดหลุยส์ วิตตอง กล่าว “จากการร่วมมือกับทาง โอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ ในครั้งนี้ทำให้เกิด ผลงานอันโดดเด่นขึ้นอีกชิ้นหนึ่ง โดยภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้ได้นำเสนอเรื่องราวอันทรงคุณค่าแห่งการเดินทางของหลุยส์ วิตตอง และยังสอดคล้องไปกับกลยุทธ์ใหม่ทางการสื่อสารอีกด้วย”
อองทวน อาร์โนล์ด (Antoine Arnault) ผู้อำนวยการด้านการสื่อสารของหลุยส์ วิตตอง กล่าวว่า “การจัดทำภาพยนตร์โฆษณาที่มีความยาวเป็นพิเศษถึง 90 วินาทีนั้น ทำให้หลุยส์ วิตตองสามารถจะพาทุกท่านไปสัมผัสถึงคุณค่าของการเดินทางอย่างลึกซึ้ง ทั้งการค้นพบสิ่งใหม่ๆ และการค้นพบตัวตนของตนเอง และเวลาคือความหรูหราอันไม่มีที่สิ้นสุด”
สามารถชมภาพถ่ายและตัวอย่างภาพยนตร์โฆษณาได้จากเว็บไซต์:
http://easyshare.oodrive.com/workspace/vuitton/
ชื่อผู้ใช้: pub
รหัสผ่าน: pub
เผยแพร่ในนาม โดย
บริษัท หลุยส์ วิตตอง แปซิฟิค จำกัด บริษัท หลุยส์ วิตตอง ประเทศไทย
ดิเนช กานดิอา / โคลเอ้ ลี สุภคยา คงสิริ
โทร. (852) 2968 1338 โทร. (662) 2620 130
แฟกซ์ (852) 2968 1441 แฟกซ์ (662) 2620 135
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
Walairat Ruamrak [am
]
Operation Director
B R A N D E D The Agency
Tel: 02 6509090 Fax: 02 6509260

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ