ผู้จัดการกองทุนชี้หุ้นทั่วโลกผันผวน แนะลงทุนโดยเน้นปัจจัยพื้นฐาน

อังคาร ๒๙ มกราคม ๒๐๐๘ ๐๘:๕๕
กรุงเทพฯ--29 ม.ค.--บลจ.แอสเซท พลัส
ผู้จัดการกองทุนแอสเซส พลัส เผยความกังวลซับไพร์มอาจกลับมาอีกรอบจากการประกาศผลการดำเนินงานของสถาบันการเงินยุโรปในเดือนกุมภาพันธ์ และจะส่งผลกระทบต่อภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลกอีกครั้ง ชี้เป็นจังหวะการเข้าลงทุนที่ดีสำหรับการลงทุนระยะยาวในหุ้นปัจจัยพื้นฐาน โดยเฉพาะกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ และบริค
นางลดาวรรณ เจริญรัชต์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แอสเซท พลัส จำกัด ให้ความเห็นว่า ในเดือนมกราคม ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลงอย่างมากหลังการประกาศตัวเลขขาดทุนของซิตี้กรุ๊ป ซึ่งเป็นไปตามการคาดการณ์ของตลาดเกี่ยวกับการขาดทุนของสถาบันการเงินในสหรัฐฯ ทั้งนี้ คาดว่าจะมีสถาบันการเงินอีกหลายแห่งจะประกาศตัวเลขการขาดทุนออกมาอย่างต่อเนื่อง และอาจส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นทั่วโลกอีกครั้ง ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์ได้ปรับลดตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ของสหรัฐ ในปี 2551 ลงจาก 2% เป็น 1%
ทั้งนี้ ในมุมมองของแอสเซทพลัส คาดว่า ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐจะเป็นเพียงการชะลอตัวลงของภาวะเศรษฐกิจ ยังไม่ใช่การเกิดภาวะถดถอยของเศรษฐกิจ (Recession) ที่ตัวเลข GDP จะต้องติดลบ 2 ไตรมาสติดต่อกัน เนื่องจากการที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ส่งสัญญาณว่ากําลังชะลอตัวลงอย?างชัดเจนจากผลกระทบของป?ญหาในภาคอสังหาริมทรัพย? และปัญหาสินเชื่อตึงตัวที่เริ่มขยายวงกว้างขึ้นไปยังภาคเศรษฐกิจอื่น ๆ หลายหน่วยงานของสหรัฐ ทั้งธนาคารกลางและภาครัฐได้ออกมาตรการต่าง ๆ เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งการใช้นโยบายการเงินด?วยการลดดอกเบี้ย ซึ่งเฟดได้ประกาศลดดอกเบี้ยก่อนการประชุมวาระปกติสูงถึง 0.75% จาก 4.25% ลงเหลือ 3.50% เมื่อวันที่ 22 มกราคมที่ผ่านมา และคาดว่าจะต้องปรับลดลงต่อไปจนถึงประมาณ 2.5-3.0% รวมทั้ง การใช้นโยบายการคลังเพื่อช่วยบรรเทาความรุนแรงของปัญหาลง
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลกในระยะสั้น 1-3 เดือน จะยังคงผันผวนโดยถูกกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และความกังวลต่อปัญหาของซับไพร์มที่ธนาคารพาณิชย์จะต้องตั้งสำรองหนี้เสียในจำนวนที่สูงขึ้น ทำให้นักลงทุนต่างชาติขายทำกำไรในตลาดที่ยังคงมีกำไรและมีสภาพคล่องอยู่ เพื่อถือเงินสดไว้เป็นสภาพคล่อง
“อย่างไรก็ตาม ในระยะยาวหากพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ นักวิเคราะห์ยังให้ความสนใจลงทุนในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ และประเทศแถบเอเชีย โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศบริค (บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน) ที่มีการเติบโตของกำไรต่อหุ้นค่อนข้างสูง การประเมินมูลค่าหุ้น (Valuation) ให้ผลตอบแทนที่ดีเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศตลาดเกิดใหม่ด้วยกัน เนื่องจากเป็นกลุ่มประเทศที่ใหญ่และได้รับผลดีจากการอ่อนค่าของดอลล่าร์และกำไรจากการค้าสินค้าเกษตรและโภคภัณฑ์ โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มพลังงานและวัสดุภัณฑ์ที่ซื้อขายกันในราคาที่ต่ำกว่าในตลาดของประเทศที่พัฒนาแล้ว นอกจากนี้ โครงสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศดังกล่าวเกิดจากความต้องการอุปโภคบริโภคภายในประเทศของตนเอง และความแข็งแกร่งทางด้านโครงสร้างการเงินของประเทศต่างๆ เหล่านี้มีมากขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก จึงทำให้สามารถต้านทานผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐได้ การปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นก็เป็นจังหวะที่ดีในการลงทุนด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่า” นางลดาวรรณ กล่าว
ส่วนประชาสัมพันธ์ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ
นิตยา เลิศแสงเพชร โทร. 02-672-1000 ต่อ 3314 อีเมล์: [email protected]
มุกพิม จุลพงศธร โทร. 02-672-1000 ต่อ 3308 อีเมล์: [email protected]

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๑:๐๐ วว. จับมือจังหวัดสระบุรี/อบต.ตาลเดี่ยว ขับเคลื่อนลดก๊าซเรือนกระจก นำ วทน. พัฒนาศูนย์เรียนรู้เทคโนโลยีจัดการขยะชุมชน
๑๑:๐๐ วว.จับมือคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ส่งเสริมวิจัยนวัตกรรม พัฒนาบัณฑิตสมรรถนะสูง ด้วยวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี
๑๑:๓๗ เปลี่ยนธุรกิจคุณให้โตคูณร้อย กับหลักสูตร CMF เปิดรับสมัครรุ่นที่ 21 แล้ววันนี้ !!
๑๑:๒๖ GFC เสิร์ฟข่าวดีรับศักราชใหม่ปี 68 ดีเดย์ให้บริการคลินิกรักษาผู้มีบุตรยาก GFC Ubon เต็มสูบ
๑๑:๐๐ โรงพยาบาลลานนา จัดอบรม ชาวลานนาร่วมใจ ต้านโรคภัยจากภาวะอ้วนลงพุง
๑๑:๑๕ ค้นหา รักแท้ ในมุมมองใหม่กับศูนย์ฯ สิริกิติ์ ในกิจกรรม ธรรมะในสวน ณ สวนเบญจกิติ 1 กุมภาพันธ์ 2568 นี้
๑๑:๑๐ เชฟรอน (ไทย) รุกเจาะตลาดน้ำมันเครื่อง เพื่ออุตสาหกรรมเครื่องจักรกล
๑๑:๐๗ RML เปิดศักราชปี'68 มาแรง! หุ้นกู้มีหลักประกันขายหมดเกลี้ยง 100%
๑๑:๐๐ สมาคมดินโลก ร่วมกับ 4 หน่วยงาน ลงนามความร่วมมือเสริมสร้างการจัดการดินเพื่อเกษตรยั่งยืน
๑๐:๐๐ ศูนย์การค้าเครือเอ็ม บี เค ฉลองเทศกาลตรุษจีนสุดยิ่งใหญ่ CHINESE NEW YEAR 2025