กรุงเทพฯ--5 ก.พ.--ออนไลน์ แอสเซ็ท
EASON เผยปีงานปีนี้พร้อมลุยตลาดเพื่อนบ้านเต็มตัว เพื่อขยายฐานธุรกิจรองรับโอกาสเติบโตในอนาคต และลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาตลาดในประเทศเพียงตลาดเดียว หลังพบภาพรวมตลาดยังเติบโตในอัตราต่ำ การเมืองไม่นิ่ง และเศรษฐกิจยังชะลอตัว มั่นใจการเดินหน้าขยายตลาดควบคู่กับทั้งในและต่างประเทศจะช่วยให้ผลประกอบการเติบโตอย่างต่อเนื่องได้
นายสนั่น เอกแสงกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อีซึ่น เพ้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ EASON เปิดเผยถึงทิศทางการขยายธุรกิจในปี 2551 ว่า ในปีนี้บริษัทจะให้ความสำคัญกับการขยายธุรกิจไปยังประเทศเพื่อนบ้านชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มที่บริษัทมีความชำนาญ ควบคู่ไปกับการขยายตลาดในประเทศ หลังจากพบว่าตลาดในประเทศยังได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ส่งผลให้สินค้าในหลายอุตสาหกรรมไม่สามารถเติบโตได้อย่างเต็มที่ หรือเติบโตในอัตราที่ลดต่ำลงเมื่อเทียบกับปีก่อน ดังนั้น เพื่อลดความเสี่ยงกับการพึ่งพาตลาดในประเทศเป็นส่วนใหญ่ บริษัทจึงได้ปรับแผนธุรกิจหันไปขยายตลาดในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งศักยภาพการเติบโตค่อนข้างสูง เนื่องจากเป็นประเทศเปิดใหม่ และบริษัทเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจอยู่แล้วเป็นอย่างดี
"ปีนี้คงจะเห็น EASON เข้าไปขยายธุรกิจในประเทศเพื่อนบ้านชัดเจนขึ้น เพราะเป็นตลาดเปิดใหม่ที่ศักยภาพในการเติบโตสูง ประกอบกับเรามีความพร้อมอยู่แล้วเป็นอย่างดีทั้งความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในธุรกิจ รวมทั้งโนว์ฮาว (Know-how )ระดับโลก ซึ่งสินค้าที่จะนำเข้าไปเปิดตลาดในช่วงแรกก็คงเป็นกลุ่มที่เราเชี่ยวชาญอยู่แล้วเป็นอย่างดีก่อน"
นายสนั่นกล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติการลงทุนในประเทศเวียดนามแล้ว ด้วยการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับกลุ่มบริษัทอุไรพาณิชย์ ประกอบกิจการผลิตและจัดจำหน่ายสีอุตสาหกรรม ได้แก่ สีพ่นรถจักรยานยนต์ สีเคลือบบรรจุภัณฑ์ และ หมึกพิมพ์ ที่เมืองฮานอย ประเทศเวียดนาม โดยบริษัทร่วมทุนใหม่จะมีทุนจดทะเบียนเบื้องต้นไม่เกิน 2 ล้านดอลลาร์ EASON จะลงทุนไม่เกิน 1.4 ล้านดอลลาร์ หรือ สัดส่วนการลงทุนไม่เกินร้อยละ 70 ส่วนกลุ่มบริษัทอุไรพาณิชย์ จะลงทุนไม่เกิน 0.6 ล้านดอลลาร์ หรือ สัดส่วนการลงทุนไม่เกินร้อยละ 30 ซึ่งถือเป็นก้าวแรกของ EASON ที่จะขยายตลาดออกสู่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างเต็มตัวในอนาคต
สำหรับตลาดในประเทศ บริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญกับการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกับปีก่อน แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาภาวะตลาดจะชะลอตัวลงไปในทิศทางเดียวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจ แต่เชื่อว่าในปี 2551 สถานการณ์ทางธุรกิจมีโอกาสปรับตัวดีขึ้นจากปีที่ผ่านมาได้ หากการเมืองมีความชัดเจน และการจัดตั้งรัฐบาลผ่านพ้นไปได้ด้วยดีจนนำไปสู่การขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจให้เดินหน้าต่อไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยมองว่าในปีนี้ ธุรกิจสีที่ใช้ในรถจักรยานยนต์-รถยนต์ มีโอกาสเติบโตได้ประมาณ 5-10% เมื่อเทียบกับปีก่อน ส่วนธุรกิจสีบรรจุภัณฑ์จะเติบโตไม่น้อยกว่า10% ซึ่งบริษัทได้เตรียมพร้อมรองรับโอกาสทางธุรกิจ ด้วยการมุ่งเพิ่มชนิดของผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองลูกค้ากลุ่มใหม่หรือกลุ่มเดิมที่มีการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี เร่งออกสินค้าใหม่ๆ ให้ทันการใช้งานกับสินค้ารุ่นใหม่ที่เปิดตัวออกตัวสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง และประการสำคัญจะเน้นการให้บริการทั้งก่อนและหลังการขาย เพื่อให้ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบวงจร นอกเหนือจาก การเข้าไปมีส่วนร่วมในการพัฒนาสินค้า, พัฒนาบุคลากร รวมทั้งโครงการลดต้นทุนของลูกค้าแต่ละรายเสมือนหนึ่งเป็นหุ้นส่วนกัน
เขากล่าวอีกว่า กลยุทธ์การขยายธุรกิจดังกล่าว ทำให้บริษัทประสบความสำเร็จมาอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบัน EASON ถือเป็นผู้ครอง มาร์เก็ตแชร์สูงสุดประมาณ 60% ในตลาดสีพ่นรถจักรยานยนต์ และมีเป้าหมายจะเพิ่มมาร์เก็ตแชร์ในผลิตภัณฑ์อื่นๆ ให้มากขึ้น และประการสำคัญแม้ว่าในปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมจักรยานยนต์ยอดขายจะลดลงมากว่า 20% แต่บริษัทยังสามารถผลักดันให้รายได้เติบโตต่อเนื่องจากปีก่อนได้ โดยคาดว่ารายได้ในปี 2550 จะเติบโตได้ประมาณ 6-7% และบริษัทยังสามารถรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดเอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น ส่วนในปี 2551 เชื่อว่ามุ่งขยายธุรกิจในประเทศอย่างต่อเนื่อง และการเปิดตลาดออกสู่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างจริงจังมากขึ้น จะทำให้ผลประกอบการของบริษัทเติบโตไปในทิศทางเดียวกัน โดยคาดว่าอัตราการเติบโตจะไม่ต่ำกว่าการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ซึ่งเป็นธุรกิจที่ทำรายหลักให้กับบริษัทในปัจจุบัน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : คุณณัฐณิชา ศรีสม โทรฯ 02-5549394 / 087-8778989