ตะลุยภารตะ: ขุมทรัพย์ทางการค้า

พฤหัส ๐๗ กุมภาพันธ์ ๒๐๐๘ ๑๔:๔๓
กรุงเทพฯ--7 ก.พ.--DEK -PR
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ พร้อมเดินสายจัดสัมมนาทั่วประเทศหนุนผู้ประกอบการไทยตะลุยตลาดอินเดีย
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เตรียมผลักดันสินค้ากว่า 3,000 รายการ ลดภาษี 0% หลังยกเลิกภาษีไปแล้ว 82 รายการ พร้อมจัดสัมมนาสร้างความรู้ ความเข้าใจ ให้ผู้ประกอบการ 4 ภาค ทั่วประเทศ เห็นโอกาส และศักยภาพ การค้า การลงทุนในตลาดอินเดีย
นายชนะ คณารัตนดิลก รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า “อินเดียเป็นประเทศหนึ่งที่เป็นยุทธศาสตร์ในการขยายตลาดใหม่ของกระทรวงพาณิชย์ เนื่องจากมีศักยภาพที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยมี GDP เติบโตอัตราร้อยละ 8 ต่อปี และเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสูง ในเวลานี้อินเดีย เป็นประเทศที่ ทุกๆ ประเทศกำลังจับตามองและวิ่งเข้าไปหา เพราะเศรษฐกิจอินเดียเติบโตเป็นอันดับที่ 12 ของโลก และเป็นอันดับ 2 ในเอเชียรองจากจีน ถือเป็นประเทศมหาอำนาจในภูมิภาคเอเชีย มีประชากรกว่า 1.1 พันล้านคน นอกจากนี้อินเดียมีความสัมพันธ์กับไทยมาช้านาน และเพิ่งครบรอบ 60 ปีแห่งความสัมพันธ์ทางการทูตในปี 2550 และมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดทั้งด้านเศรษฐกิจและการเมือง อินเดียจึงเป็นเป้าหมายหลักที่เป็นคู่ค้าสำคัญอันดับหนึ่งของไทย และมีปัจจัยดึงดูดการลงทุนมากที่สุดในเอเชียใต้”
รองอธิบดี กล่าวต่อว่า “ในอดีตมูลค่าการค้าระหว่างไทย-อินเดีย มีปริมาณไม่มากนักแต่หลังจากที่ ไทย-อินเดีย ได้ลงนามกรอบความตกลงการจัดทำเขตการค้าเสรีไทย- อินเดีย เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2546 และได้ตกลงลดภาษีสินค้าในเบื้องต้น 82 รายการ โดยได้ลดภาษีเหลือ 0% ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2549 ประกอบกับภาครัฐสร้างความตระหนักให้ผู้ประกอบการรู้จักตลาดอินเดียดีขึ้น เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ประกอบการที่จะค้าขายกับอินเดียเพิ่มขึ้น ภาพเก่าๆ ที่มองประเทศอินเดียเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ประกอบกับการหันมาใช้ประโยชน์จาก FTA เป็นเครื่องมือหนึ่งในการค้าขาย เนื่องจากสินค้าบางส่วนได้ยกเลิกภาษีไปแล้ว ส่งผลให้การค้าระหว่างไทย-อินเดีย ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสินค้าส่งออกสำคัญของไทยหลายรายการที่มีศักยภาพ เช่น เครื่องรับโทรทัศน์
หลอดภาพโทรทัศน์สี เครื่องปรับอากาศ เครื่องเพชรพลอยและอัญมณี ฯลฯ และทำให้ไทยกลับเป็นฝ่ายได้ดุลการค้ากับอินเดีย จากเดิมเมื่อเริ่มลดภาษีมูลค่าการส่งออกอินเดียประมาณ 900 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ปี 2550 ที่ผ่านมา มูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นสูงถึง 2,600 ล้านเหรียญสหรัฐ”
รองอธิบดี กล่าวเสริมว่า “สำหรับความคืบหน้าการเจรจา FTA ไทย-อินเดียในตอนนี้ นอกเหนือจากการนำร่องยกเลิกภาษีสินค้า 82 รายการ ทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างการจัดทำ package ที่จะลดภาษีให้สมบูรณ์ เนื่องจากในการประชุมล่าสุดเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา อินเดียขอรื้อบัญชีสินค้าที่จะมีการลดภาษี โดยอ้างว่าผลประโยชน์ที่ได้สองฝ่ายไม่สมดุลกัน ซึ่งทำให้การเจรจาที่น่าจะเสร็จสิ้นแล้ว ต้องล่าช้าออกไปอีก ซึ่งหากผลประโยชน์ที่ไทยจะได้มันลดลง คงต้องทบทวนกันใหม่
รองอธิบดี กล่าวพิ่มเติมว่า “สำหรับการค้าขายกับอินเดียนั้น ควรจะมีตัวกลาง หรือเอเย่นต์ในการติดต่อ เพราะคนอินเดียไม่ค่อยไว้ใจใคร ในช่วงที่ผ่านมาภาครัฐเข้าไปมีส่วนใกล้ชิดกับอินเดียมากขึ้น ดังนั้นกิจกรรมต่างๆ ที่เราเข้าไปเจรจา และส่งเสริมการค้า ถือเป็นเครื่องมือช่วยผู้ประกอบการค้าขายกับอินเดียง่ายขึ้น เพราะฉะนั้นผู้ประกอบการไทยน่าจะใช้โอกาสดีๆ แบบนี้ เข้าไปเสาะแสวงหาโอกาสในตลาดอินเดีย ถือเป็นตลาดใหม่ ที่มีกำลังซื้อสูงมาก และใช้ประโยชน์จาก FTA ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการอย่ามัวแต่รอ FTA ให้มีผลบังคับใช้ ควรใช้โอกาสจากการจัดสัมมนาของกรมฯ สร้างความรู้ ความเข้าใจ รวมถึงโอกาสและศักยภาพในตลาดแห่งนี้”
“กรมฯ ได้จัดโครงการสัมมนาเชิงวิชาการภายใต้หัวข้อ “ตะลุยภารตะ ขุมทรัพย์ทางการค้า” เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ ให้ผู้ประกอบการไทย และภาคการผลิตตระหนักถึงศักยภาพของตลาดอินเดีย และสร้างทัศนคติที่ดีต่ออินเดีย รวมทั้งเตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดเสรีทางการค้าในกรอบ ไทย-อินเดีย และอาเซียน-อินเดีย จะช่วยให้ผู้ประกอบการได้รับทราบถึงโอกาสในการขยายการค้าและการลงทุนกับตลาดอินเดีย และส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากการเปิดเสรีการค้าระหว่างไทย/อาเซียนกับอินเดีย เสริมสร้างความสามารถในการแข่งขัน และเตรียมความพร้อมรองรับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงระดมความคิดเห็น และแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นกับผู้ประกอบการ ซึ่งจะทำให้ได้ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์และใช้เป็นแนวทางในการเจรจาเปิดเสรีในด้านต่างๆ ต่อไป การสัมมนาจะจัดขึ้นทั่วประเทศ จำนวน 5 ครั้ง ครั้งแรกจะจัดในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ นี้ ที่จังหวัดเชียงใหม่ และจะจัดตามจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ทั้งภูเก็ต ขอนแก่น จันทบุรี และครั้งสุดท้ายที่กรุงเทพฯ สำหรับกำหนดวันที่จะประชาสัมพันธ์ให้ทราบต่อไป” รองอธิบดี กล่าวในที่สุด

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ