กรุงเทพฯ--14 ก.พ.--ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส
นายชัยวัฒน์ เครือชะเอม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยความคืบหน้าในด้านการหาพันธมิตรใหม่จากต่างชาติว่า ขณะนี้มีความคืบหน้าไปมากแล้วและน่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้อย่างแน่นอน โดยทางบริษัทเตรียมที่จะดำเนินธุรกิจใหม่ด้านการบำบัดขยะชุมชนโดยใช้เทคโนโลยีจากประเทศเยอรมัน ซึ่งคาดว่าบริษัทยูนิค ไมนิ่ง จะถือหุ้นร้อยละ 51 ส่วนบริษัทร่วมทุนจะถือหุ้นร้อยละ 49
ส่วนผลประกอบการในไตรมาสที่ 1 ปี 2551 นั้นน่าจะอยู่ในเกณฑ์ดีมาก โดยรายได้และกำไรมีแนวโน้มที่จะทุบสถิติใหม่เป็นไตรมาสที่ 6 ติดต่อกัน หลังจากที่ทั้งรายได้และกำไรปรับเพิ่มขึ้นมาโดยตลอดและทำสถิติใหม่ 5 ไตรมาสติดต่อกันแล้วตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2549 โดยกำไรสุทธิไต่ระดับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจาก 41, 57, 61, 102 และ 142 ล้านบาท ตามลำดับ นอกจากนี้ ราคาถ่านหินในตลาดโลกที่ปรับเพิ่มขึ้นจากระดับ 90 เหรียญต่อตันขึ้นมาเป็นมากกว่า 120 เหรียญต่อตันภายในระยะเวลา 1 เดือน พร้อมกับปัจจัยเงินบาทที่มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นจะเป็นปัจจัยบวกอย่างมากต่อผลประกอบการในปีนี้
ทั้งนี้ จากสถิติในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ไตรมาส 1 จะเป็นไตรมาสที่มีรายได้น้อยที่สุด และค่อยๆปรับเพิ่มขึ้นในไตรมาสต่อๆไป เนื่องจากบริษัทจะขยายฐานลูกค้าได้เพิ่มขึ้นทุกไตรมาส ดังนั้นผลการดำเนินงานในปีนี้จึงน่าจะทะลุเป้าหมายรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่าร้อยละ 30 ไม่ยากนัก และราคาหุ้นน่าจะค่อยๆไต่ระดับเพิ่มขึ้นทุกไตรมาสเหมือนกับในปี 2550 ที่เพิ่มขึ้นจากระดับประมาณ 8 บาท เมื่อต้นปี เป็น 27.75 บาท เมื่อสิ้นปี 2550
ส่วนประเด็นในเรื่องคู่แข่งใหม่ๆที่กำลังจะเข้ามาในตลาดนั้น บริษัทไม่ได้มีความเป็นกังวลแต่อย่างใด เนื่องจากบริษัทมีประสบการณ์ในการทำธุรกิจมากกว่า และยังเป็นผู้นำในเรื่องของการบริหารต้นทุนด้วย จากการที่บริษัทมีคลังสินค้าซึ่งมีระบบสายพานลำเลียง ท่าเทียบเรือ การบริหารการเดินเรือ การขนส่งทางบก อย่างครบถ้วน ซึ่งเป็นการลงทุนรวมในระดับพันล้านบาท ส่งผลให้คู่แข่งเข้ามาแข่งขันได้ยากขึ้น และปีที่ผ่านมา มีหลายบริษัทที่เข้ามาดำเนินธุรกิจนี้และมีแนวโน้มว่าอาจจะต้องเลิกธุรกิจไป เนื่องจากไม่สามารถควบคุมต้นทุนราคาถ่านหินที่มีความผันผวนอย่างมากในปัจจุบัน และยังมีความรู้ความเข้าใจในตลาดถ่านหินไม่เพียงพอ ทำให้บางรายอาจต้องล้มเลิกโครงการไป เพราะไม่สามารถหาถ่านหินมาส่งให้กับลูกค้าได้ตามที่ตกลงไว้
ผลประกอบการปี 2550 บริษัทมีรายได้รวม 2,482 ล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 80 เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2549 ซึ่งบริษัทมีรายได้รวม 1,379 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทได้ขยายฐานลูกค้าเพิ่มมากขึ้น จากการที่ลูกค้าหันมาใช้ถ่านหินแทนน้ำมันเตามากขึ้น ทั้งนี้ บริษัทมีกำไรสุทธิเท่ากับ 363.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 110 เติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยบริษัทได้ประกาศจ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการปี 2550 ให้กับผู้ถือหุ้นเพิ่มอีกหุ้นละ 1.50 บาท
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
บมจ.ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส
คุณนิพนธ์ สาวสุดชาติ / คุณชนาภา ภู่ผึ้ง
โทรศัพท์ 02-664-1701 ต่อ 181, 182
Email : [email protected]