อุบัติเหตุในกรุงเทพฯ ยังเกิดซ้ำซากในหลายแยก เร่งรณรงค์แก้ปัญหาและแก้พฤติกรรมเสี่ยง

อังคาร ๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๐๐๘ ๑๕:๕๘
กรุงเทพฯ--19 ก.พ.--กทม.
สถิติอุบัติเหตุต้นปี 51 ยังเกิดจากการตัดหน้าหรือตามกระชั้นชิด การขับรถเร็ว แซงผิดกฎหมาย เร่งแก้ปัญหาและรณรงค์ การแก้ไขพฤติกรรมเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ พร้อมประสานตำรวจตรวจจับ ตั้งด่านเข้มทุกพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่อุบัติเหตุซ้ำซาก
นายถนอม อ่อนเกตุพล โฆษกของกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะผู้บริหารเกี่ยวกับการรายงานสถิติการเกิดอุบัติเหตุในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ว่า สถิติสาเหตุ 10 อันดับสูงสุดที่เกิดอุบัติเหตุในเขตกรุงเทพมหานคร ปี 2550 จำแนกตามสาเหตุพบว่า สาเหตุการขับรถเร็วเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด จำนวน 7,302 ราย คิดเป็น 19.51% ตัดหน้าระยะกระชั้นชิด จำนวน 7,224 ราย คิดเป็น 19.30% ตามติดกระชั้นชิด จำนวน 6,924 ราย คิดเป็น 18.50% การแซงรถอย่างผิดกฎหมาย จำนวน 4,485 ราย คิดเป็น 11.98% และฝ่าฝืนสัญญาณไฟ/เครื่องหมายจราจร จำนวน 2,213 ราย คิดเป็น 5.91% เมาสุรา จำนวน 2,151 ราย คิดเป็น 5.75% ไม่ขับรถจักรยานยนต์ในช่องทางซ้ายสุด จำนวน 2,034 ราย คิดเป็น 5.43% ขับรถผิดช่องทาง จำนวน 1,949 ราย คิดเป็น 5.21% ไม่ให้สัญญาณจอด/ชะลอ/เลี้ยว จำนวน 1,880 ราย คิดเป็น 5.02% และฝ่าฝืนป้ายหยุดทางแยก จำนวน 1,270 ราย คิดเป็น 3.39%
สำหรับบริเวณที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งย้อนหลัง 3 เดือน จำแนกตามพื้นที่เขต พบว่าเกิดอุบัติเหตุมากเรียงจากมากไปน้อย คือ พื้นที่เขตคลองเตย บน ถ.สุขุมวิท ปาก ซ.สุขุมวิท 24 ถ.สุขุมวิท ปาก ซ.สุขุมวิท 22 ห้าแยก ณ ระนอง พื้นที่เขตบางพลัด บน ถ.จรัญสนิทวงศ์ แยกบางพลัด พื้นที่เขตบางซื่อ บน ถ.เทิดดำริ แยกเทิดดำริ พื้นที่เขตวัฒนา บน ถ.สุขุมวิท ปาก ซ.สุขุมวิท 23 พื้นที่ ถ.สุขุมวิท ปาก ซ.สุขุมวิท 55 พื้นที่เขตมีนบุรี บน ถ.สุวินทวงศ์ หน้าบริษัทอาหารยอดคุณ พื้นที่เขตพระโขนง ถ.สุขุมวิท 62 พื้นที่เขตห้วยขวาง บริเวณ จุดกลับรถ หน้าห้างฟอร์จูน พื้นที่เขตตลิ่งชัน บน ถ.บรมราชชนนี ต่างระดับฉิมพลี พื้นที่เขตบางกะปิ บน ถ.ลาดพร้าว ปาก ซ.ลาดพร้าว 101 พื้นที่เขตราชเทวี บริเวณแยกราชเทวี
ส่วนสถิติสาเหตุ 10 อันดับสูงสุดที่เกิดอุบัติเหตุในเขตกรุงเทพมหานคร ประจำเดือนมกราคม ปี 2551 พบว่าการตัดหน้า ระยะกระชั้นชิด จำนวน 599 ราย คิดเป็น 21.67% ตามกระชั้นชิด จำนวน 538 ราย คิดเป็น 19.46% ขับรถเร็วเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด จำนวน 507 ราย คิดเป็น 18.34% แซงรถอย่างผิดกฎหมาย จำนวน 292 ราย คิดเป็น 10.56% ขับรถผิดช่องทาง จำนวน 181 ราย คิดเป็น 6.55% ฝ่าฝืนสัญญาณไฟ/เครื่องหมายจราจร จำนวน 163 ราย คิดเป็น 5.90% ไม่ขับรถในช่องทางซ้ายสุด จำนวน 128 ราย คิดเป็น 4.63% เมาสุรา จำนวน 121 ราย คิดเป็น 4.38% ไม่ยอมให้รถที่มีสิทธิไปก่อน จำนวน 118 ราย คิดเป็น 4.27% และไม่ให้สัญญาณจอด/ชะลอ/เลี้ยว จำนวน 117 ราย คิดเป็น 4.23%
ทั้งนี้ในการประชุมคณะผู้บริหารได้มีความเห็นร่วมกันในการหาแนวทางการแก้ปัญหาและรณรงค์ การแก้ไขพฤติกรรมเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ โดยแนวทางการแก้ไขส่วนของกายภาพ สำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ออกสำรวจและดำเนินการแก้ไข รวมถึงการประสานกับตำรวจในการตั้งด่านตรวจ การรณรงค์วินัยจราจร และเมาไม่ขับ ซึ่งต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องทุกพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่หรือบริเวณที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๐ คปภ. เปิดตัวคู่มือการทำประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน (IAR) และการประกันอัคคีภัย แนะแนวทางการกำหนดจำนวนเงินเอาประกันภัยอย่างเหมาะสม
๑๖:๒๖ SiteMinder เผย โรงแรมไทยเติบโต ก้าวเป็นผู้นำตลาด หลังนักท่องเที่ยวต่างชาติหลั่งไหลเข้าประเทศ
๑๗:๕๙ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งให้การต้อนรับ เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ณ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ
๑๖:๐๐ fintips by ttb เผยเคล็ดลับ รถใหม่ป้ายแดงหรือรถมือสอง เลือกแบบไหนให้เหมาะกับเราที่สุด
๑๖:๐๐ มาแล้ว! เปิดตัว Samsung Galaxy S25 ซีรีส์ใหม่ล่าสุด มาพร้อม Galaxy AI ผู้ช่วยส่วนตัวคนใหม่ของคนไทย ตอบโจทย์รู้ใจทุกความต้องการเฉพาะคน
๑๖:๐๐ กทม. เดินหน้ากำจัดปลาหมอคางดำ ลดผลกระทบเกษตรกร-แปรรูปสร้างรายได้
๑๖:๐๐ เดอะไนน์ เซ็นเตอร์ พระราม 9 ร่วมฉลองเทศกาลตรุษจีนยิ่งใหญ่ Chinese Market 2025 ช้อปสินค้ามงคล เสริมดวงโชคดีมั่งมี
๑๖:๐๐ SNPS ต้อนรับ คณะผู้บริหารและนักวิจัยสภากาชาดไทย
๑๕:๒๔ BEST Supply Chain ยกระดับจัดการคลังสินค้ายุคใหม่ ชู BEST Fulfillment เพิ่มประสิทธิภาพจัดการสินค้า จบครบในที่เดียว
๑๕:๐๐ เด็กซ์ซอนผนึกกำลังภาคีเครือข่าย TCCA ตอกย้ำความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืน มุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero