เด็กไทยโชว์ไอเดียเจ๋ง...ชิงชัยในรอบคัดเลือกแฟนต้ายุวทูต

พุธ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๐๐๘ ๐๙:๔๙
กรุงเทพฯ--20 ก.พ.--แม็กซิม่า คอลซัลแตนท์
ประกาศผลรอบคัดเลือกแล้ว!! สำหรับ โครงการ “แฟนต้า ยุวทูต” ครั้งที่ 13 ที่จัดโดย บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด, บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท โคคา-โคลา (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับ สำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็กเยาวชน ผู้ด้อยโอกาส คนพิการ และผู้สูงอายุ (สท.) ซึ่งมีน้องๆ ชั้นม.1 ทั่วประเทศให้ความสนใจ ร่วมส่งในโครงการ “รักษ์โลก รักถิ่นกำเนิด” ปรากฏว่าผลการตัดสินรอบคัดเลือกโดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ มี 114 โรงเรียน ที่ผ่านเกณฑ์พิจารณา ได้แก่ ภาคเหนือ 20 โรงเรียน ภาคกลาง 20 โรงเรียน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 โรงเรียน ภาคใต้ 20 โรงเรียน ภาคตะวันออก 18 โรงเรียน และกรุงเทพฯ 16 โรงเรียน สามารถตรวจสอบรายชื่อได้ทาง www.opp.go.th โดยทุกโรงเรียนที่ผ่านรอบคัดเลือกจะต้องเตรียมตัวเข้าค่ายเรียนรู้สิ่งแวดล้อมฝึกการพัฒนาตนเอง ก่อนจะคัดเลือกเหลือเพียงภาคละ 10 โรงเรียนในรอบชิงชนะเลิศ เพื่อจัดทำโครงการจริงต่อหน้าสาธารณชน ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, โล่เกียรติยศฯ และทุนการศึกษาคนละ 10,000 บาท พร้อมได้เดินทางไปทัศนศึกษาที่ประเทศญี่ปุ่น
ผศ.เฉลิมพล ดาวเรือง ประธานกรรมการการตัดสินโครงการแฟนต้ายุวทูตแห่งประเทศไทย ตั้งแต่ปีแรกจนถึงปัจจุบัน กล่าวว่า “หลักเกณฑ์สำหรับรอบคัดเลือก มี 3 ส่วนสำคัญ คือ 1.ความคิดสร้างสรรค์ 2.ความเป็นรูปธรรมทำได้จริง 3.ความเหมาะสมกับสภาพท้องถิ่นและสังคม โดยพิจารณาบนพื้นฐานของความยุติธรรม ขาวสะอาด แต่จะเน้นในข้อ 2 มากที่สุด ทั้งนี้ เพราะว่าเมื่อเด็กคิดแล้วต้องทำ การทำคือการก่อให้เกิดให้มีขึ้น จะเกิดประโยชน์ต่อสังคมมากน้อยนั้นอีกประเด็นหนึ่ง เราอยากให้เด็กนำโครงการของเขาไปใช้ต่อยอดให้เกิดมิติใหม่ จุดเด่นของแต่ละโครงการจึงควรทำได้จริง ไม่ใช่เพ้อฝัน สร้างสรรค์แต่ทำไม่ได้ โดยไม่ลืมเน้นความเป็นตัวเอง เป็นธรรมชาติ และไม่จำเป็นว่าต้องเหมาะสมกับท้องถิ่นของตนเสมอไป เด็กภาคเหนือไม่ผิดที่คิดจะทำโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อเด็กภาคใต้ ดังนั้น เราให้น้ำหนักของความเป็นรูปธรรมทำได้จริงมากกว่าข้ออื่น นอกจากนั้น คณะกรรมการยังพิจารณาโดยอิงหลักจิตวิทยาการศึกษา ทฤษฎีพหุปัญญา หรือ ความฉลาดแต่ละด้านของเด็ก ร่วมด้วย โครงการแฟนต้ายุวทูตเกิดขึ้นบนหลักทฤษฎีอนาคตนิยม ที่ท้ายสุดมนุษย์จะต้องหันกลับมาดูแลธรรมชาติอย่างมีจิตสำนึกซึ่งควรปลูกฝังตั้งแต่เด็ก เพื่ออนาคตที่ดีร่วมกัน เสน่ห์ของโครงการนี้จึงอยู่ที่ให้เด็กได้แสดงออกอย่างสมวัยตามธรรมชาติโดยมีการพัฒนาอย่างถูกทาง”
ทางด้าน ศิวกร เกษตรสิน ผู้จัดการสายงานสิ่งแวดล้อมและพลังงาน บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด หนึ่งในคณะกรรมรอบคัดเลือก กล่าวว่า “น้องๆ เยาวชนได้ส่งหัวข้อโครงการเข้ามาหลากหลายมาก ทั้งเรื่องของสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ ตลอดจนพลังงาน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเยาวชนไทยตระหนักและตื่นตัวในเรื่องจิตสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อมมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มีหลายโครงการที่ผมว่าน่าสนใจและสามารถนำไปสานต่อให้เกิดประสิทธิผลได้”
ตัวอย่างผลงานโครงการของน้องๆ แต่ละโรงเรียนที่ผ่านรอบคัดเลือก อาทิ ภาคเหนือ โรงเรียนวัดถ้ำปลาวิทยาคม จ.เชียงราย จะทำโครงการ “คิดแล้วทำ เพื่อท้องถิ่นไทย ร่วมใจพัฒนาแหล่งน้ำ สู่ชุมชน” โดยน้องๆ ที่นั่นเห็นความสำคัญของลำน้ำถ้ำปลาที่เปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ของชุมชน แต่ปัจจุบันประสบปัญหาน้ำเน่าเสีย จึงตั้งใจจะเก็บขยะ ฟื้นฟูระบบนิเวศวิทยา เพื่อให้แหล่งน้ำกลับมามีคุณภาพที่ดีสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อีก, ภาคกลาง โรงเรียนอ่างทองปัทมโรจน์วิทยาคม จ.อ่างทอง เจ้าของโครงการ “มัคคุเทศก์สองล้อ” พาเที่ยวอ่างทอง สัมผัสวัฒนธรรมและวิถีชาวบ้าน โดยจักรยาน พาหนะสุดโปรดของเด็กท้องถิ่น โดยใช้เส้นทางสาย 309 อยุธยา-ชัยนาท แถมยังชวยลดโลกร้อนอีกด้วย, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โรงเรียนบัวขาว จ.กาฬสินธุ์ ผู้จัดส่งโครงการ “ถุงผ้ารักษาโลก” โดยน้องๆ มีวัตถุประสงค์ที่จะเปลี่ยนค่านิยมในการใช้ถุงพลาสติกมาเป็นการใช้ถุงผ้าแทน โดยเป็นผ้าที่ทอโดยท้องถิ่น ทำให้ชุมชนเกิดรายได้ รักถิ่นกำเนิดและรักโลกไปพร้อมๆ กัน, ภาคใต้ โรงเรียนสะเดา “ขรรค์ชัยกัมพลานนท์อนุสรณ์” จ.สงขลา กับโครงการ “80 พรรษา ปลูกหญ้าแฝก สู่ดิน ถิ่นแดนเกิด” มุ่งปลูกหญ้าแฝกรักษาหน้าดินและน้ำให้สมบูรณ์ พร้อมจะสร้างศูนย์สาธิตหญ้าแฝกในชุมชน สานต่อแนวพระราชดำริของในหลวง, ภาคตะวันออก โรงเรียนมาบตาพุดพันพิทยาคาร จ.ระยอง ตั้งใจจะทำโครงการ “ฟื้นฟูและพัฒนาเกาะสะเก็ด” เกาะร้าง ที่ขาดการฟื้นฟูพัฒนา ทั้งที่อดีตเคยมีความสวยงามและอุดมสมบูรณ์ ผ่านการจัดตั้งศูนย์ศึกษาธรรมชาติ การจัดค่ายอนุรักษ์ ปิดท้ายกับกรุงเทพฯ โรงเรียนทวีวัฒนา ส่งโครงการ “กังหันน้ำเพิ่มออกซิเจนคลองปทุม” ที่ได้แนวคิดมาจากโครงการกังหันน้ำชัยพัฒนา โดยจะนำจักรยานเก่ามาปั่นน้ำเพิ่มออกซิเจน ทั้งกระแสไฟฟ้าที่ได้จากการปั่นยังนำไปใช้ประโยชน์ได้อีกด้วย
เห็นไหมล่ะ ว่าเด็กไทยเก่งและน่าทึ่งขนาดไหน!!
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
บริษัทแม็กซิม่า คอลซัลแตนท์ จำกัด โทร 0-2434-8300
คุณสุจินดา, คุณแสงนภา, คุณปิติยา

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๙:๕๕ ดร.เอ้ สุดยอดผู้นำด้าน AI เชื่อมั่น รพ.พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร จะปฏิวัติการแพทย์ไทย ด้วย AI พร้อมความตั้งใจอันแน่วแน่
๐๙:๐๓ รมว.นฤมล ผลักดันกฎระเบียบว่าด้วยสินค้าที่ปลอดจากการตัดไม้ทำลายป่าของสหภาพยุโรป (EUDR)
๐๙:๑๖ เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ร่วมกับ สภากาชาดไทย ชวนร่วมบริจาคโลหิต 26 ธันวาคมนี้ ชั้น 7 โซน A เพิ่มโลหิต เพิ่มชีวิต
๐๙:๔๗ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดเต็ม!! ลงพื้นที่เร่งลดความเหลื่อมล้ำ สร้างโอกาส สร้างชีวิตแก่ชาวหนองคายอย่างยั่งยืน
๐๙:๕๕ มูลนิธิอายิโนะโมะโต๊ะ ส่งมอบอาคารโรงอาหารอายิโนะโมะโต๊ะ ให้แก่ โรงเรียนบ้านดอนมะกอก จังหวัดสุราษฎร์ธานี
๐๙:๐๕ กทม. เข้มงวดโครงการก่อสร้างคอนโดฯ ในซอยสุขุมวิท 93 ปฏิบัติตามมาตรการ EIA
๐๙:๕๐ การเคหะแห่งชาติตั้งเป้าสร้างที่อยู่อาศัยรองรับสังคมผู้สูงอายุ
๐๙:๒๘ ทำอย่างไรจึงจะทำให้มีการใช้ generative AI มากขึ้น
๐๙:๔๐ NocNoc จับมือ กฟผ. ส่งความสุขปีใหม่ให้คนรักบ้าน มอบส่วนลดสินค้าประหยัดไฟเบอร์ 5 สูงสุด 500 บาท เมื่อช้อปผ่าน NocNoc Chat Shop ทัก-ช้อป-ลด เริ่ม 25 ธ.ค. 67
๐๙:๑๔ Warrior ตั้ม ศุภกิตติ์ หรือ ตั้ม โทมัส ทอม จากทีมมาสเตอร์ ดร.อั้ม อธิชาติ คว้าชัย The Social Warrior คนแรกของประเทศไทย