บอร์ดตลาดหลักทรัพย์ฯ มีมติให้เพิ่มอัตราการวางหลักประกันบัญชีซื้อขาย เงินสดเป็นร้อยละ 15 ตามข้อเสนอของสมาคมบริษัทหลักทรัพย์

ศุกร์ ๒๙ กุมภาพันธ์ ๒๐๐๘ ๐๙:๓๗
กรุงเทพฯ--29 ก.พ.--ตลท.
นายสุทธิชัย จิตรวาณิช รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในฐานะเลขานุการ คณะกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดเผยถึงมติคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการประชุมเมื่อวันที่27 กุมภาพันธ์ 2551ว่า คณะกรรมการ ได้มีมติให้เพิ่มอัตราการวางหลักประกันจากเดิมร้อยละ 10 เป็นร้อยละ 15 ของวงเงินที่จะซื้อหลักทรัพย์ สำหรับบัญชีเงินสดของผู้ลงทุนบุคคลทั้งในและต่างประเทศ เพื่อลดความเสี่ยงเรื่องการชำระราคา และสร้างความมั่นคงให้ระบบการซื้อขายมากขึ้น พร้อมทั้ง เพิ่มประเภททรัพย์สินที่สามารถนำมาวางเป็นหลักประกัน โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 มิถุนายน 2551 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ ได้พิจารณาข้อเสนอของสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ และเห็นด้วยที่จะให้ปรับอัตราการวางหลักประกันเป็นร้อยละ 15 ของวงเงินที่จะซื้อหลักทรัพย์ เพื่อป้องกันความเสี่ยงของระบบชำระราคาและอุตสาหกรรมโดยรวม
“สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ได้แจ้งผลการศึกษาในเรื่องการวางหลักประกันการซื้อขายหลักทรัพย์ที่เหมาะสมสำหรับการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เห็นว่าการเพิ่มอัตราการวางหลักประกันสำหรับบัญชี เงินสดเป็นร้อยละ 15 ของวงเงินที่จะซื้อหลักทรัพย์ เป็นการป้องกันความเสี่ยงทางด้านการชำระราคาสำหรับ ตลาดหุ้นไทยในปัจจุบัน และเป็นการเสริมสร้างเสถียรภาพของตลาดทุนโดยรวม” นายสุทธิชัยกล่าว
นอกจากนี้ คณะกรรมการฯ ได้อนุมัติให้เพิ่มหลักเกณฑ์ให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ พิจารณาประเภททรัพย์สินที่สามารถวางเป็นหลักประกันได้ เพื่อเปิดกว้างให้ลูกค้าสามารถนำทรัพย์สินมาวางหลักประกันเพิ่มเติมได้ โดยทรัพย์สินดังกล่าวต้องมีสภาพคล่องสูงและความเสี่ยงต่ำ เพื่อรองรับตราสารใหม่ ๆ ที่จะมีในอนาคต ซึ่งในปัจจุบันทรัพย์สินที่วางเป็นประกันตามเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์มี 8 ประเภท ได้แก่ เงินสด หลักทรัพย์จดทะเบียน ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้ ตั๋วสัญญาใช้เงิน บัตรเงินฝาก หนังสือคำประกัน ซึ่งไม่ครอบคลุมถึงตราสารในการลงทุนทั้งหมด เช่นหน่วยลงทุนในตราสารหนี้ เป็นต้น
ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะจัดให้มีการประชุมร่วมกับสมาชิก และให้สมาชิกมีระยะเวลาสร้างความเข้าใจกับลูกค้าอย่างทั่วถึง ก่อนที่จะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2551 เป็นต้นไป
ติดต่อส่วนสื่อมวลชนสัมพันธ์ ฝ่ายสื่อสารองค์กร
ลดาวัลย์ กันทวงศ์ โทร.0-2229—2036 / ศรินทร์ลักษณ์ จิตกะวงศ์ โทร. 0-2229—2037/
ณัฐพร บุญประภา โทร. 0-2229 — 2049 / วรรษมน เสาวคนธ์เสถียร โทร. 0-2229-2797

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ