รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังทำลายเครื่องผลิตแผ่นซีดี

กรุงเทพฯ--11 มี.ค.--กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง
นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังแถลงข่าวการทำลายเครื่องผลิตแผ่นซีดี การลักลอบนำเข้าเงินตราเข้า-ออกประเทศ และสินค้าลักลอบหนีศุลกากร ณ บริเวณลานจอดรถหน้าส่วนของกลาง ในโอกาสตรวจเยี่ยมกรมศุลกากร
ทำลายเครื่องผลิตแผ่นซีดีโดยใช้รถแบคโฮทุบทำลาย
ด่านศุลกากรแม่สาย ได้จับกุมเครื่องผลิตแผ่นซีดี จำนวน 1 เครื่อง (OMEGA BONDING MACHINE) “NO BRAND” MODEL NO : BM2 — 0801 SERIAL NO : 836201 YEAR OF MANUF : DEC -2004 OPERATING VOLTAGE : 220 V — 3 PW FUSE SUPPLY LINE : 60 A น้ำหนัก 4,600 กิโลกรัม เมืองกำเนิดฮ่องกง ราคารวมค่าภาษีอากร 539,170 บาท รายบริษัท ซี พี เอ็น ทรานส์เซอร์วิส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เพื่อส่งไปยังประเทศสหภาพพม่า ทางด่านศุลกากรแม่สาย โดยสำแดงสินค้าเป็นเครื่องปิดผนึก (ป้ายฉลาก) (OMEGA BONDING MACHINE) ปริมาณ 1 SET แต่เจ้าหน้าที่ตรวจพบเป็นเครื่องผลิตแผ่นซีดี กรณีเป็นการสำแดงพิกัดสินค้าเป็นเท็จ
การกระทำดังกล่าว เป็นความผิดฐานสำแดงเท็จ เพื่อหลีกเลี่ยงข้อกำกัดในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร อันเป็นความผิดตามมาตรา 99,27 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2469 กรมศุลกากรจึงนำเครื่องผลิตแผ่นซีดี ดังกล่าวมาทำลาย เพื่อมิให้กลับมาหมุนเวียนในท้องตลาดรวมทั้งเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมผลิตแผ่นซีดีที่ถูกต้องในประเทศ
จับกุมสินค้าลักลอบหนีศุลกากร มูลค่าประมาณ 149 ล้านบาท
ในวันศุกร์ที่ 6 มีนาคม 2551 สำนักสืบสวนและปราบปราม ได้จับกุมสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาลักลอบนำเข้า ที่ท่าเรือแหลมฉบัง ประกอบด้วย กระเป๋า Louis Vitton, Kitty, Prada, Bally, Chanel, D&G, ฯลฯจำนวน 1,508 ชิ้น เข็มขัดและหัวเข็มขัด Armani, CK, Diesel, Lee, Lewi’s, Polo, ฯลฯจำนวน 37,630 ชิ้น หน้ากากโทรศัพท์และซองใส่โทรศัพท์ Nokia, Motorolla, ฯลฯ จำนวน 231,250 ชิ้น เสื้อผ้าและอุปกรณ์แต่งกาย Guess, Diesel, Liverpool, Abercrombie, D&G ฯลฯ จำนวน 6,280 ชิ้น แว่นตากันแดด Rayban, Chanel, Dior, Versace, ฯลฯ จำนวน 16,100 ชิ้นเครื่องช็อตไฟฟ้า หัวเทียน เครื่องสำอาง เครื่องคิดเลข เป็นต้น รวมมูลค่าทั้งสิ้น 126.1 ล้านบาท
นอกจากนี้ สำนักสืบสวนและปราบปราม กรมศุลกากร จับกุมน้ำยาลบคำผิด จำนวน 773 หีบห่อ มูลค่าประมาณ 9.06 ล้านบาท และรถบังคับ จำนวน 300 คัน มูลค่า 150,000 บาท ซึ่งเป็นสินค้าควบคุมการนำเข้า ได้ที่บริเวณ อ.มหาชัย จ.สมุทรสาคร และ จับกุมแผ่นดีวีดีเกมส์ แผ่นดีวีดีภาพยนตร์ จำนวน 30 รายการ (13,600 แผ่น) มูลค่า 13.6 ล้านบาท ได้บริเวณจุดตรวจศุลกากรปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์
กรณีดังกล่าว เป็นความผิดตามมาตรา 27 มาตรา 27 ทวิ แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2469 ประกอบมาตรา 16,17 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร (ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2482 มาตรา 108-110 (1) แห่ง พ.ร.บ. เครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534 พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่จึงได้ยึดของกลางเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
จับกุมชาวต่างชาติ 3 ราย ลักลอบเงินตราเข้า-ออกประเทศ มูลค่าประมาณ 20 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2551 เวลาประมาณ 18.30 น. เจ้าหน้าที่ศุลกากรสำนักงานศุลกากรตรวจของผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้ทำการตรวจค้นจับกุม MR.MOHAMED FAROOK THAMEEM KHAN อายุ 41 ปี สัญชาติอินเดีย บริเวณเคาน์เตอร์จุดตรวจค้นสำหรับผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศด้านใน เนื่องจากได้รับแจ้งถึงพฤติกรรมการลักลอบส่งเงินตราออกนอกราชอาณาจักรของบุคคลดังกล่าว ผลการตรวจค้นพบธนบัตรสกุลต่างประเทศ 2 สกุล คือ เงินยูโร จำนวน 150,000 ยูโร ( 1 EUR/48.5535 บาท) และเงินดอลลาร์สหรัฐ จำนวน 7,200
ดอลลาร์สหรัฐ (1 USD/33.2389 บาท) เทียบเป็นเงินบาทประมาณ 7.51 ล้านบาท โดยธนบัตรที่ตรวจพบนั้น ห่อด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์แล้วพันด้วยเทปกาวใส จำนวน 2 ห่อ ซุกซ่อน
ไว้ในกระเป๋าเดินทางและใช้เสื้อผ้าปิดทับไว้ ซึ่งเงินตราดังกล่าวไม่มีหลักฐานการขออนุญาตนำเงินออกไปนอกราชอาณาจักร และไม่มีหลักฐานการอนุมัติแลกเปลี่ยนเงินของธนาคาร บริษัทรับอนุญาต หรือบุคคลอนุญาต ต่อมา เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2551 เวลาประมาณ 16.00 น. เจ้าหน้าที่ศุลกากร
สำนักงานศุลกากรตรวจของผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้ได้ทำการตรวจค้น จับกุม MR. SATTAR RAMEEZ อายุ 37 ปี สัญชาติปากีสถาน ซึ่งเดินทางมาจากประเทศสิงคโปร์ ขณะผ่านช่องตรวจ “ไม่มีของต้องสำแดง” หมายเลข 3 โซน B ห้องผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ
ผลการตรวจค้นพบธนบัตรสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐจำนวน 232,000 ดอลลาร์ สหรัฐ (1 USD/33.2389 บาท) เทียบเป็นเงินบาทประมาณ 7.71 ล้านบาท โดยธนบัตรจำนวนดังกล่าวมัดด้วยหนังยางจำนวน 5 ห่อ บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีดำลายชมพู จำนวน 2 ถุง เก็บไว้ในช่องลับด้านล่างสุดของกระเป๋าเดินทางชนิดลากและมีซิปรูดปิดอีกชั้นหนึ่ง
ล่าสุดเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2551 เวลาประมาณ 01.30 น. เจ้าหน้าที่ศุลกากร
สำนักงานศุลกากรตรวจของผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้ทำการจับกุมMR.FANODIRA ANDRIANAMBININA JEAN CHRISTOPHE อายุ 30 ปี สัญชาติมาดากัสการ์ ถือหนังสือเดินทางประเทศมาดากัสการ์เลขที่ A 07R99291 ซึ่งเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยเครื่องบินสายการบิน Air Madagascar เที่ยวบินที่ MD 010 เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2551 ได้นำของดังกล่าวเข้าไปในช่องไม่มีของต้องสำแดง (ช่องเขียว) หมายเลข 19 โซน C อาคารผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ
ผลการตรวจค้นพบ กล้องถ่ายรูปดิจิตอล โทรศัพท์เคลื่อนที่และธนบัตรต่างประเทศสกุลเงินยูโร จำนวนรวม 113,045 ยูโร( 1 EUR/48.0531 บาท )เทียบเป็นเงินบาทจำนวน 5.43 ล้านบาท โดยธนบัตรต่างประเทศดังกล่าวห่อไว้ในอลูนิเนียมฟอยด์ บรรจุอยู่ในกระเป๋าสัมภาระจำนวน 1 ใบ
การที่ผู้ต้องหานำเงินตราต่างประเทศที่เป็นธนบัตร อันมีมูลค่ารวมกันเกิน 20,000 USD (สองหมื่นดอลลาร์สหรัฐ) เข้ามาในประเทศ โดยมิได้แจ้งรายการเกี่ยวกับเงินตราต่างประเทศเหล่านั้น ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดตามกฎกระทรวงการคลังฉบับที่ 25 (พ.ศ. 2550) เรื่อง กำหนดจำนวนเงินตราต่างประเทศที่นำเข้ามาในหรือออกไปนอกประเทศ ประกาศกระทรวงการคลังฯ เรื่อง กำหนดจำนวนเงินตราต่างประเทศที่นำเข้ามาในหรือออกไปนอกประเทศ ต้องสำแดงรายการเงินตราต่างประเทศ และประกาศกรมศุลกากรที่ 18/2551 เรื่อง ข้อบังคับว่าด้วยการสำแดงเงินตราต่างประเทศที่นำออกไปหรือเข้ามาในประเทศ ลงวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2551 ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ศุลกากรในขณะผ่านด่านศุลกากร ด่านพรมแดน หรือช่องทางอื่นใด ซึ่งใช้เป็นทางออกไปนอกหรือเข้ามาในประเทศ จนถูกตรวจค้นจับกุม
การกระทำดังกล่าวข้างต้น ถือเป็นความผิดฐานนำของต้องกำกัดเข้ามาในราชอาณาจักร อันเป็นความผิดตามมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 ประกอบ
กับมาตรา 16 และ 17 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2482 ประกอบกับมาตรา 8 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน พ.ศ. 2485 (แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 3 แห่งพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติม พระราชบัญญัติควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินพุทธศักราช 2485 ) ฉบับที่ 2 ( พ.ศ. 2527) เจ้าหน้าที่จึงได้ยึดของกลางเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป