ผู้จัดการกองทุนไม่กังวลหุ้นลง แนะทยอยสะสมหุ้นในช่วงตลาดปรับฐาน เชื่อส่งผลดี ASP-PREMIER ยิ่งมีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้มาก

อังคาร ๑๑ มีนาคม ๒๐๐๘ ๑๑:๐๘
กรุงเทพฯ--11 มี.ค.--แอสเซท พลัส
นางลดาวรรณ เจริญรัชต์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แอสเซท พลัส จำกัด กล่าวว่า สาเหตุที่ตลาดหลักทรัพย์ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวลดลง เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากปัจจัยภายนอกประเทศ ได้แก่ ความอ่อนแอทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จากปัญหาซับไพร์ม ความกังวลต่อปัญหาสถาบันการเงินสหรัฐฯ รวมถึงราคาน้ำมันที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง ซึ่งสำหรับการลงทุนในตลาดหุ้นไทย เรายังคงมีมุมมองเป็นบวก โดยเชื่อว่า จากปัจจัยภายในของประเทศและปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นจะส่งผลบวกต่อภาวะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ จึงยังแนะนำให้หาจังหวะในการลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี
“ในช่วงการปรับฐานของตลาด เรายังคงแนะนำหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ อสังหาริมทรัพย์ และบันเทิง ซึ่งได้รับผลดีจากการฟื้นตัวของการบริโภคและการลงทุนในประเทศ กลุ่มพลังงาน ซึ่งจะได้รับผลประโยชน์โดยตรงจากราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับสูง เป็นต้น” นางลดาวรรณ กล่าว
ในส่วนผลกระทบของการปรับตัวลงของตลาดที่จะมีต่อกองทุนของบริษัทนั้น นางลดาวรรณ เปิดเผยว่า “ในส่วนของกองทุนหุ้น เรายังเน้นที่ปัจจัยพื้นฐานและ valuation ของหุ้นเป็นหลัก แต่ในช่วงที่ผ่านมา เพื่อลดความผันผวนในภาวะที่ตลาดถูกกดดันจากปัจจัยภายนอกประเทศ กองทุนได้หาจังหวะในการทำกำไรหุ้นบางส่วนไปแล้วก่อนหน้านี้
สำหรับกองทุนที่อยู่ระหว่างเสนอขายครั้งแรกในช่วงระหว่างวันที่ 7-13 มีนาคมนี้ คือ กองทุนเปิด แอสเซทพลัสพรีเมียร์ (ASP-PREMIER) ที่เป็นกองทุนรวมผสม ที่ลงทุนในตราสารหนี้ แต่ให้ผลตอบแทนอิงกับการปรับตัวของตลาดหุ้นนั้น จากการคาดการณ์ว่าปีนี้ตลาดฯ น่าจะโตในระดับ 20-30% ดัชนีตลาดหลักทรัพย์คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 1,000 จุด แต่การปรับตัวลดลงของตลาดในช่วงนี้น่าจะเป็นผลดีต่อผลตอบแทนของกองทุน ซึ่งหากตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นจากจุดนี้เพียง 8% หรือประมาณ SET Index ที่ระดับ 870 จุด กองทุนก็จะได้ผลตอบแทนที่สูงกว่ากองทุนตราสารหนี้ทั่วไป ซึ่งมีโอกาสเป็นไปได้มากที่ผู้ลงทุนในกองทุนนี้จะได้รับผลตอบแทนส่วนเพิ่มจากแนวโน้มของตลาดที่จะปรับตัวสูงขึ้น โดยโอกาสผลตอบแทนสูงสุดที่ระดับ 8.96% ต่อปี
ทั้งนี้ การปรับตัวลดลงในช่วงระหว่าง 9 เดือน ก็ไม่มีผลต่อผลตอบแทนของกองทุน เนื่องจากกองทุนจะพิจารณาดัชนี SET50 Index เทียบกับวันสุดท้ายของอายุโครงการเท่านั้น กองทุนจะไม่ได้รับผลตอบแทนก็ต่อเมื่อ SET50 Index ณ วันสุดท้ายต่ำกว่าวันเริ่มต้น ซึ่งถือเป็นการจำกัดการขาดทุน (Protect Downside) กรณีที่ตลาดปรับตัวลดลง” นางลดาวรรณ กล่าว
นางลดาวรรณ กล่าวเพิ่มเติมว่า กองทุนเปิดแอสเซทพลัสพรีเมียร์ เหมาะสำหรับผู้ลงทุนกองทุนตราสารหนี้ต้องการหาโอกาสในการเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนและเชื่อว่าแนวโน้มตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งเกิดจากการฟื้นตัวของการบริโภคและการลงทุนในประเทศ
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการลูกค้า โทรศัพท์ 02-672-1111 กล่าว
สรุปข้อมูลกองทุนเปิดแอสเซทพลัสพรีเมียร์ (ASP-PREMIER)
วันเสนอขาย : เปิดเสนอขายครั้งเดียวประมาณวันที่ 7-13 มีนาคม 2551
นโยบายการลงทุน : กองทุนรวมตราสารหนี้ ที่มีนโยบายลงทุนในตราสารแห่งหนี้ ตราสารทางการเงิน และ/หรือเงินฝาก โดยอาจจะมีการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ประเภทออปชั่นส์ (Options) ที่มีตัวแปรอ้างอิงเป็นดัชนี SET50
อายุโครงการ : ประมาณ 9 เดือน
มูลค่าขั้นต่ำในการซื้อ : 5,000 บาท
ผลตอบแทนของกองทุน :
ขึ้นอยู่กับการปรับตัวเพิ่มขึ้นของ SET50 Index (ราคาปิดของ SET50 ณ วันที่ลงทุนเทียบกับราคาปิดของ SET50 ณ วันครบกำหนดอายุของตราสารอนุพันธ์) ดังนี้
กรณี ผลตอบแทน SET50 Index ผลตอบแทนกองทุน(เทียบเป็นร้อยละต่อปี)
1 ณ สิ้นเดือนที่ 9 * : มากกว่า 0 แต่ไม่ถึง 25% ระหว่าง 0 - 8.96%
2 ณ ราคาปิดวันใดวันหนึ่ง ** : มากกว่าหรือเท่ากับ 25% (Knock Out) 4.04%
3 ณ สิ้นเดือนที่ 9 * : เท่ากับ 0 หรือ ติดลบ ผลตอบแทนเท่ากับ O%โดยได้รับคืนเฉพาะเงินต้น
ติดต่อประชาสัมพันธ์ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ
นิตยา เลิศแสงเพชร โทร. 02-672-1000 ต่อ 3314 อีเมล์: [email protected]
มุกพิม จุลพงศธร โทร. 02-672-1000 ต่อ 3308 อีเมล์: [email protected]

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ