ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ชุดใหม่ “ธ. เกียรตินาคิน” ที่ระดับ “A-” แนวโน้ม “Stable”

พุธ ๑๒ มีนาคม ๒๐๐๘ ๐๘:๐๕
กรุงเทพฯ--12 มี.ค.--ทริสเรทติ้ง
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศยืนยันอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันชุดเดิมของ ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) คงเดิมที่ระดับ “A-” พร้อมทั้งจัดอันดับเครดิตให้แก่หุ้นกู้ไม่มีประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 4,000 ล้านบาทของธนาคารที่ระดับ “A-” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงการเป็นธนาคารเพื่อรายย่อยที่ได้รับการยอมรับ คณะผู้บริหารที่มีประสบการณ์ และความสามารถในการทำกำไร ธนาคารมีความสามารถในการขยายฐานธุรกิจเพื่อทดแทนธุรกิจบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่ลดขนาดลงเรื่อยๆ โดยเห็นได้จากอัตราการเติบโตของสินทรัพย์ที่ต่อเนื่อง ธนาคารมีเงินทุนสำรองในระดับที่แข็งแกร่งพอที่จะรองรับความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงปัจจัยแวดล้อมในธุรกิจธนาคารพาณิชย์และการถดถอยของคุณภาพสินทรัพย์ อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตมีข้อจำกัดจากปัญหาคุณภาพสินเชื่อสำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มมากขึ้นในระดับสูงและจากการที่ธนาคารมีขนาดเล็กซึ่งมีเครือข่ายสาขาที่น้อยกว่าธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่อันอาจมีผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของธนาคารในระยะยาว ภายใต้การแข่งขันที่รุนแรงในอุตสาหกรรมธนาคารเพื่อรายย่อย ประกอบกับการมีฐานลูกค้าในภาคอสังหาริมทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงอาจส่งผลให้ธนาคารมีความอ่อนไหวต่อการขยายธุรกิจและการทำกำไรในอนาคต
แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนการคาดการณ์ว่าธนาคารจะสามารถรักษาระดับการทำกำไรภายใต้ภาวะแวดล้อมที่ผันผวนของธุรกิจการเงินซึ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบในระยะปานกลางและจะสามารถปรับปรุงคุณภาพสินทรัพย์ให้ดีขึ้นจากการมีนโยบายจะขยายธุรกิจสู่ฐานลูกค้าที่มีความเสี่ยงด้านสินทรัพย์น้อยกว่า แนวโน้มอันดับเครดิตยังสะท้อนถึงความสามารถของธนาคารในการดำรงเงินกองทุนที่เพียงพอจะรองรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการลดมูลค่าสินทรัพย์จากผลของภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวนด้วย อย่างไรก็ตาม หากคุณภาพสินทรัพย์ของธนาคารถดถอยลงอย่างมีนัยสำคัญก็อาจส่งผลกระทบในทางลบต่อแนวโน้มหรืออันดับเครดิตของธนาคารได้
ทริสเรทติ้งรายงานว่า เนื่องจากธุรกิจบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพและสินทรัพย์รอการขายของธนาคารเกียรตินาคินจะทยอยลดขนาดลงจนหมดภายใน 3-8 ปีข้างหน้า ผู้บริหารของธนาคารจึงหันมาเน้นการเพิ่มสินทรัพย์โดยดำเนินธุรกิจให้กู้ยืมที่ให้ผลตอบแทนสูง อาทิ สินเชื่อเช่าซื้อและสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ โดย ณ เดือนธันวาคม 2550 ธนาคารมีสัดส่วนของสินเชื่อเช่าซื้อในระดับ 64% ของสินเชื่อทั้งหมด หรือ 47% ของสินทรัพย์รวม ธนาคารมีสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ต่อสินทรัพย์ทั้งหมดลดลงจาก 18% ณ สิ้นปี 2549 เหลือ 16% ณ สิ้นปี 2550 ธุรกิจหลักทั้ง 3 ประเภทของธนาคาร (การลงทุนและการบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ สินเชื่อเช่าซื้อ และสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์) ช่วยสร้างรายได้และคงอัตราผลตอบแทนในระดับสูง ธนาคารมีอัตราส่วนสินเชื่อจัดชั้นที่ค้างชำระเกิน 3 เดือน (ชั้นปกติ ชั้นสงสัย และชั้นสงสัยจะสูญ) ต่อสินเชื่อรวมลดลงเล็กน้อยจากระดับ 14.5% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2549 เป็น 12.4% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2550 อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนดังกล่าวนับว่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยในระดับ 8.2% ของธนาคารพาณิชย์ไทยทั้ง 14 แห่ง
ทริสเรทติ้งกล่าวว่า คุณภาพสินทรัพย์ของธนาคารเกียรตินาคินได้รับผลกระทบจากสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์เป็นอย่างมาก โดยธนาคารมีสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ในสัดส่วนที่สูงมากถึง 63% ของฐานสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ทั้งหมด (5.4 พันล้านบาทจากทั้งหมด 8.5 พันล้านบาทเมื่อสิ้นเดือนธันวาคม 2550) จากผลของการเปลี่ยนวิธีการบันทึกบัญชีสำหรับเงินลงทุนในบริษัทย่อยจากวิธีส่วนได้เสียเป็นวิธีราคาทุนซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2550 ทำให้ธนาคารมีสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (สินเชื่อจัดชั้นที่ค้างชำระเกิน 3 เดือน ยอดคงค้างสินเชื่อที่ปรับโครงสร้างหนี้ และสินทรัพย์รอการขาย) คิดเป็น 1 เท่าของเงินกองทุนและค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญของธนาคารซึ่งสูงกว่าระดับ 0.8 เท่า ณ สิ้นปี 2549 นอกจากนี้ การเปลี่ยนวิธีการบันทึกบัญชีดังกล่าวยังส่งผลให้ธนาคารมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงลดลงจาก 22.2% ในปี 2549 เป็น 16.4% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2550 การที่ธนาคารมีนโยบายปล่อยสินเชื่อแก่กลุ่มลูกค้าที่มีความเสี่ยงสูงเพื่อผลตอบแทนที่สูง โดยเฉพาะสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์นั้น ธนาคารมีความจำเป็นที่จะต้องดำรงเงินกองทุนที่แข็งแกร่งและตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญให้สูงเพียงพอที่จะบรรเทาความเสี่ยงที่อาจจะเผชิญในอนาคต ทริสเรทติ้งกล่าว
ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) (KK)
อันดับเครดิตองค์กร: คงเดิมที่ระดับ A-
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
KK085A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,400 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2551 คงเดิมที่ระดับ A-
KK087A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2551 คงเดิมที่ระดับ A-
KK08NA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,580 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2551 คงเดิมที่ระดับ A-
KK095A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 600 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2552 คงเดิมที่ระดับ A-
KK09NA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 920 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2552 คงเดิมที่ระดับ A-
KK09NB: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 2,034 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2552 คงเดิมที่ระดับ A-
KK10NA: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 966 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2553 คงเดิมที่ระดับ A-
หุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 4,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2554 A-
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ