มูลนิธิวิทยาศาสตร์ ดร.ปรีชา-ประไพ อมาตยกุล ร่วมกับ ภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ จัดการอบรมฟรี “การฝึกวิทยากรทางปฏิบัติการเคมีแบบย่อส่วน”

อังคาร ๑๕ มีนาคม ๒๐๐๕ ๑๑:๔๕
กรุงเทพฯ--15 มี.ค.--มูลนิธิวิทยาศาสตร์ฯ
ศาสตราจารย์ ดร.ไพรัช ธัชยพงษ์ ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวเปิดการฝึกอบรมว่าเมืองไทยในหนึ่งหมื่นคนมีนักวิจัยประมาณ 3 คน การลงทุนวิจัย คือ 0.26 % ของ GDP เมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ เราน้อยกว่าเขาประมาณ 5 เท่า ซึ่งผมได้เรียนให้ทางรัฐบาลทราบอยู่ตลอดเวลา
อย่างไรก็ดี กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ผมได้รับนโยบายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ให้ลงมาช่วยดูว่างานวิจัยพัฒนาของไทยเรา ทำไมมีหลายหน่วยงานมากถึง 5-6 แห่ง ผมได้เรียกประชุมแล้วและกำลังเสนอว่าไม่ได้เป็นการรวมหน่วยงานเข้าด้วยกัน แต่เป็นการนำหน่วยงานต่าง ๆ มาอยู่ภายใต้ภารกิจเดียวกัน แล้วก็วางแผนงานวิจัยและพัฒนาของประเทศให้ชัดเจน หลายคนก็เห็นด้วยและกำลังจะดำเนินการงานวิจัยเป็นแค่ส่วนย่อยของแผนใหญ่ของประเทศ ซึ่งขณะนี้ได้เสนอให้มีคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ มีท่านรองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และได้เรียนให้ท่านนายกฯ ท่านอยู่ตลอดเวลา แล้วเราก็เริ่มมีแผนกลยุทธ์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศที่มีแนวทางชัดเจน
ผมเคยทำงานเรื่องไอทีมาก็ทำแผนกลยุทธ์ด้านไอทีจนกระทั่งประสบผลสำเร็จ แต่วิทยาศาสตร์มีความยากกว่า วิทยาศาสตร์จับตัวตนไม่ค่อยจะอยู่ ไอทีจับอยู่เหมือนคอมพิวเตอร์มีหน้าตาอย่างนี้รัฐบาลก็เข้าใจเอกชนหนุนแรงก็มีภารกิจมากมายเกิดขึ้นได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย ขณะนี้แผนกลยุทธ์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทำเสร็จแล้ว วันที่ 23 มีนาคม เมื่อรัฐบาลประกาศนโยบายการบริหารประเทศ ผมเชื่อว่าจะมีรายละเอียดเหล่านี้อยู่ด้วย ที่สำคัญก็คือ จะต้องเอาวิทยาศาสตร์ช่วยเพิ่มมูลค่าให้ได้
กลยุทธ์แรกที่สำคัญคือ ต้องมีการสร้างเครือข่ายวิสาหกิจ (Cluster) ตัวอย่างเช่น Cluster อุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงกุ้งกุลาดำ มีการประสานเครือข่ายการทำวิจัยกุ้งกุลาดำที่จุฬาฯ และ ม.มหิดล ช่วยกันดูว่ากุ้งกุลาดำมีปัญหาโรคอะไรแล้วเราจะแก้ไขอย่างไร เป็นต้น อย่างนี้รัฐบาลจะหันมาสนใจ ทำให้ตรงกับนโยบายของรัฐบาล
กลยุทธ์ที่ 2 การพัฒนากำลังคนต้องขอบคุณท่านประธานมูลนิธิวิทยาศาสตร์ฯ และท่านคณบดีคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ ที่เห็นความสำคัญ เรื่องกำลังคนทางด้านวิทยาศาสตร์เป็นปัญหามาก ไม่ใช่การผลิตเฉพาะวิศวกร เราต้องผลิตนักวิทยาศาสตร์ด้วยเพราะถ้าไม่มีความรู้เฉพาะทางก็นำไปทำประโยชน์ไม่ได้ เราต้องทำความเข้าใจกับนาโนเทคโนโลยีและการนำไปสู่เศรษฐกิจยุคโมเลกุล เพื่อเป็นการเพิ่มมูลค่าเราพัฒนากำลังคนผลิตกำลังคนปีละเท่าไรและแบ่งตัวเลขอย่างไร ที่มหาวิทยาลัยจะผลิตได้อย่างเช่น ด้านเทคโนโลยีชีวภาพ ด้านนาโนเทคโนโลยี และถ้าทำได้สำเร็จก็ค่อยขยายไปสู่มหาวิทยาลัยแห่งอื่น ทำงบประมาณขอรัฐบาลให้ชัดเจน
กลยุทธ์ที่ 3 โครงสร้างพื้นฐานโรงเรียนวิทยาศาสตร์ รัฐบาลจะเริ่มดำเนินการทำจำนวน 6-12 โรงเรียนก่อน ซึ่งรัฐบาลให้ความสนใจมาก และจะขยายออกไปสู่ขอนแก่น เชียงใหม่ สงขลา เป็นต้น
กลยุทธ์ที่ 4 โครงสร้างพื้นฐานนักวิทยาศาสตร์ มุ่งเป้าโดยตรงที่ภาคเอกชน เป็นต้นน้ำซึ่งจะสร้างมูลค่าเพิ่มได้ ปัจจุบันกระทรวงการคลังเริ่มสนใจจะให้ภาคเอกชนตั้งกองทุนวิจัย สาเหตุคือ GDP มีค่า 6 ล้านล้านบาท มีอยู่ในภาคเอกชน 5 ล้านล้านบาท และมีอยู่ในภาครัฐ 1 ล้านล้านบาท เราปรับภาครัฐให้เต็มที่ก็ได้ 1 ใน 60 ดังนั้น เอกชนจะต้องลงมือทำอย่างจริงจัง
กลยุทธ์ที่ 5 คือการสร้างความตระหนักทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เราเริ่มปรับโครงสร้างการบริหารวิทยาศาสตร์
ผมเชื่อว่าแผนกลยุทธ์ในการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีประเทศของเราเริ่มหันไปถูกทางแล้วเพียงแต่ว่าจะทำอย่างไร ให้เรือทรงตัวอยู่ได้ เป็นดัชนีชี้วัด ดังนั้น เราจึงควรนำวิทยาศาสตร์มาเป็นตัวกำหนดเศรษฐกิจเพื่อปรับอันดับเศรษฐกิจให้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการพัฒนากำลังคน เรามีความจำเป็นที่จะต้องเสริมสร้างกำลังคน และการฝึกอบรมการปฏิบัติการเคมีแบบย่อส่วน น่าจะลองคิดภาพรวมว่าหากจะฝึกอบรมบุคลากรครูอาจารย์ทั่วประเทศ จะใช้งบประมาณเท่าไรเราจะฝึกอบรมเพิ่มขึ้นปีละเท่าไร
เป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก เพราะค่าใช้จ่ายน้อย สิ่งแวดล้อมดี ขณะนี้เป็นระบบเศรษฐกิจมีการผลิตขายชุดทดสอบเคมีแบบย่อส่วนขายแล้วยิ่งน่าสนใจมากขึ้นอีก ลองทำแผนการฝึกอบรมขึ้นมาแล้วลองหาผู้สนับสนุนจากเอกชนมาช่วยเสริม ดูว่าทำได้ปีละกี่เปอร์เซนต์ แล้วถ้าทำอย่างนี้ประเทศจะได้อะไร จะต้องมีความชัดเจนว่าจะทำอะไร แล้วประเทศไทยได้อะไร แล้วจะให้ผมทำอะไร ก็คาดว่าโครงการฝึกอบรมวิทยากรเคมีแบบย่อส่วนแก่ครู-อาจารย์นี้เป็นแนวทางบูรณาการที่น่าจะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลในที่สุด
ดร.คุณหญิงสุมณฑา พรหมบุญ ประธานมูลนิธิวิทยาศาสตร์ ดร.ปรีชา-ประไพ อมาตยกุล กล่าวว่าภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับมูลนิธิวิทยาศาสตร์ ดร.ปรีชา-ประไพ อมาตยกุล จัดการอบรม “การฝึกวิทยากรทางปฏิบัติการเคมีแบบย่อส่วน” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อผลิตวิทยากรประจำเครือข่ายของศูนย์ปฏิบัติการเคมีแบบย่อส่วน ภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ และเตรียมความพร้อมในการเผยแพร่ความรู้และเทคนิคปฏิบัติการเคมีแบบย่อส่วนไปสู่โรงเรียนมัธยมศึกษาทั่วประเทศไทย ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 14-15 มีนาคม 2548 เวลา 08.00-16.00 น. ณ ห้องประชุม M 01 อาคารมหามกุฎ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งมีผู้เข้าอบรมเป็นอาจารย์เคมี จากมหาวิทยาลัยต่างๆ ทั่วประเทศไทย จำนวน 130 คน
ภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ ได้เห็นความสำคัญของการทำลายการทดลองเคมีที่ใช้สารปริมาณน้อย จึงได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเคมีแบบย่อส่วน ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2543 และได้เผยแพร่เทคนิคปฏิบัติการเคมีแบบย่อส่วนมาเป็นระยะ เพื่อให้การเผยแพร่ความรู้และเทคนิคปฏิบัติการเคมีแบบย่อส่วนไปสู่โรงเรียนระดับมัธยมศึกษาทั่วประเทศไทยอย่างรวดเร็ว จึงได้เสนอโครงการการสร้างองค์ความรู้ทางปฏิบัติการเคมีแบบย่อส่วนระดับ โรงเรียนมัธยมศึกษาทั่วประเทศไทยต่อกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยผ่านมูลนิธิวิทยาศาสตร์ ดร.ปรีชา-ประไพ อมาตยกุล เพื่อขอรับการสนับสนุนเงินทุนภายใต้โครงการสำหรับขอรับทุนอุดหนุน สมาคมวิทยาศาสตร์ฯ บัดนี้ ได้รับแจ้งจากมูลนิธิฯ ว่าโครงการดังกล่าว ได้รับการอนุมัติแล้ว จึงเห็นสมควรจัดการฝึกอบรมให้แก่อาจารย์เคมีจากมหาวิทยาลัยต่างๆ ทั่วประเทศไทย เพื่อเป็นวิทยากรอบรมประจำเครือข่ายของศูนย์ปฏิบัติการเคมีแบบย่อส่วนในการถ่ายทอดความรู้และเทคนิคปฏิบัติการเคมีแบบย่อส่วนให้แก่ครูในโรงเรียนมัธยมศึกษาต่อไป--จบ--

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ