กรุงเทพฯ--14 มี.ค.--สปส.
สำนักงานประกันสังคม(สปส.)ได้จัดคณะที่ปรึกษาทางการแพทย์ และพยาบาล ออกตรวจสอบและประเมินคุณภาพสถานพยาบาลทั้งกองทุนประกันสังคม และกองทุนเงินทดแทน โดยเน้นตรวจสอบคุณภาพการรักษา และมาตรฐานการบริการ ทางการแพทย์ เพื่อประโยชน์สูงสุดของลูกจ้างและผู้ประกันตน เริ่มออกตรวจประเมินสถานพยาบาลตั้งแต่เดือนมกราคมนี้ เป็นต้นไป
นายสุรินทร์ จิรวิศิษฎ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2539 เป็นต้นมา สำนักงานประกันสังคมได้จัดคณะที่ปรึกษาทางการแพทย์ และพยาบาล เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบและประเมินคุณภาพสถานพยาบาลทั้งในกองทุนประกันสังคม และกองทุนเงินทดแทนโดยสำนักงานประกันสังคมได้ดำเนินการสรรหาและคัดเลือกผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งมีประสบการณ์ในการเป็นผู้บริหารระดับสูงของสถานพยาบาลหรือผู้เชี่ยวชาญ ทางการแพทย์ในสาขาต่าง ๆ เพื่อเป็นที่ปรึกษาทางการแพทย์ การพยาบาล ของสำนักงานประกันสังคม ซึ่งสถานพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการทุกแห่งจะต้องได้รับการตรวจประเมินอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง โดยในปี 2551 สำนักงานประกันสังคมมีสถานพยาบาลที่ต้องตรวจประเมินทั้งสิ้น 312 แห่ง ซึ่งคณะที่ปรึกษาทางการแพทย์ฯจะเริ่มออกตรวจประเมินสถานพยาบาลตั้งแต่เดือนมกราคม 2551 เป็นต้นไป
นายสุรินทร์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับแนวทางการตรวจประเมินสถานพยาบาล ในกองทุนประกันสังคมในปีนี้จะเน้นไปที่การตรวจเวชระเบียน และการตรวจสอบคุณภาพ การรักษาโดยเน้นตัวชี้วัด เช่น อัตราการเกิดผลแทรกซ้อนจากการตรวจรักษา และอัตราความผิดพลาดจากการใช้ยา ทั้งนี้ เพื่อประเมินมาตรฐานการรักษาโรคให้แก่ผู้ประกันตน สำหรับการตรวจสอบสถานพยาบาลในความตกลงของกองทุนเงินทดแทนจะเน้นตรวจสอบมาตรฐาน การบริการทางการแพทย์ และการเรียกเก็บค่ารักษาพยาบาล เพื่อให้เป็นไปอย่างถูกต้อง เหมาะสม และเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ลูกจ้าง และผู้ประกันตน
หากผู้ประกันตนต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ สายด่วนประกันสังคม 1506 ติดต่อทางระบบโทรศัพท์ตอบรับอัตโนมัติ ให้บริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง หรือติดต่อเจ้าหน้าที่โดยตรงให้บริการทุกวัน ไม่เว้นวันหยุด ตั้งแต่เวลา 07.00—19.00 น.หรือดูรายละเอียดได้ที่ www.sso.go.th
- ธ.ค. ๒๕๖๗ สปส.แนะผู้ประกันตนที่มีบุตรแรกเกิดถึง 6 ปี และส่งเงินสมทบครบ 12 เดือนขึ้นไป สามารถยื่นรับสิทธิสงเคราะห์บุตรได้
- ธ.ค. ๒๕๖๗ สปส.แจงแนวปฏิบัติส่งลูกจ้างและผู้ประกันตนทุพพลภาพเข้าศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพฯ
- ธ.ค. ๒๕๖๗ สปส.เตือนหากมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูล ของนายจ้างและผู้ประกันตน นายจ้างต้องรีบแจ้ง ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป