กรุงเทพฯ--19 มี.ค.--พีอาร์ แอนด์ แอสโซซิเอสต์
ฮิตาชิตอกย้ำภาพพรีเมี่ยมแบรนด์ มุ่งผลิตสินค้านวัตกรรมใหม่ เป็นผู้นำตลาดตู้เย็น เครื่องซักผ้า และเครื่องดูดฝุ่น ทุ่มงบ 400 ล้าน เปิดตัวแคมเปญ Hello, Tomorrow ! ตอบทุกไลฟ์สไตล์แห่งอนาคต
นายชิเกฮารุ อันนากะ กรรมการผู้จัดการ บริษัทฮิตาชิเซลล์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ฮิตาชิให้ความสำคัญกับการพัฒนาสินค้าให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น (High Value Added Product) โดยมีการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ สำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านอย่างต่อเนื่อง และการทำวิจัยเกี่ยวพฤติกรรมผู้บริโภคเพื่อนำไปพัฒนาสินค้าให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ใช้ จึงครองความเป็นพรีเมี่ยมแบรนด์มาโดยตลอด
เมื่อปีที่แล้วฮิตาชิมียอดขายเพิ่มขึ้นประมาณ 7% และมีส่วนแบ่งมูลค่าการตลาดมาที่สุดเป็นอันดับ 1 ทั้งตู้เย็นและเครื่องดูดฝุ่น โดยเฉพาะเครื่องซักผ้ายังคงความแข็งแกร่งและครองความเป็นที่หนึ่งในบรรดาเครื่องซักผ้าแบรนด์ญี่ปุ่นด้วยกัน
ในปีนี้ฮิตาชิตั้งเป้าการเติบโตของยอดขายไว้ประมาณ 10% คิดเป็นมูลค่ากว่า 3,500 ล้านบาท หรือมีส่วนแบ่งตลาด 10 -12% จากมูลค่าตลาดรวม 30,000 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัทจะเน้นทำตลาดใน 4 ผลิตภัณฑ์หลักคือ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า เครื่องปรับอากาศและเครื่องดูดฝุ่น
ในปี 2008 ฮิตาชิจะเน้นกลยุทธ์การตลาดใน 3 ด้าน คือ การนำเสนอสินค้านวัตกรรมและเทคโนโลยีทันสมัย การพัฒนาช่องทางการจัดจำหน่าย และการสื่อสารการตลาด ด้วยงบประมาณการตลาด 400 ล้านบาท
เริ่มที่กลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์ ฮิตาชิเป็นผู้นำในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน คิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ และเทคโนโลยีทันสมัย จึงมีบทบาทสำคัญทำให้รูปแบบการตอบสนองของตลาดเปลี่ยนไป ( shift market demand) เช่น จากเดิมที่คนนิยมใช้ตู้เย็น 1 ประตู ฮิตาชิก็เปิดตัวตู้เย็น 2 ประตูเพื่อเพิ่มพื้นที่ในการใช้งานให้เข้ากับครอบครัวสมัยใหม่ หรือปรับระบบครื่องซักผ้าจาก 2 ถังให้เป็นแบบถังเดียวอัตโนมัติ เพื่อการใช้งานที่สะดวกสบายมากขึ้น
นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันที่ทันสมัยอีกมากมายที่ฮิตาชินำมาใช้เป็นรายแรกในประเทศไทยก่อนรายอื่นๆจะพัฒนาตามมา เช่น ตู้เย็นที่มีปุ่มกดน้ำเย็นทันใจหรือ Smart Drink และระบบกำจัดกลิ่นและแบคทีเรีย Nano Titanium ที่ไม่ต้องใช้พลังไฟฟ้าและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ระบบปั่นแห้งความเร็วสูงหรือ Air Jet DRY ในเครื่องซักผ้า, ระบบการดูดแบบไซโคลน (Cyclone System) ในเครื่องดูดฝุ่น เป็นต้น
เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ฮิตาชินำมาเสนอในปี 2008 นี้ เช่น ตู้เย็นฮิตาชิก็จะเปลี่ยนจากแบบ 2 ประตูขนาดเล็กให้มีขนาดใหญ่ขึ้นพร้อมเพิ่มฟังก์ชั่นใหม่ๆ เช่น Big, Super-Moisture Vegetable Compartment ที่มีการขยายพื้นที่ช่องเก็บผักใหญ่ขึ้น รวมถึงระบบควบคุมความชื้นเพื่อทำให้เก็บผักผลไม้ให้สด ได้ยาวนานขึ้น เพื่อตอบโจทย์คนยุคใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพ หรือเครื่องซักผ้าซีรีย์ Beat Wave Wash นวัตกรรมเพื่อความสะอาดใหม่ล่าสุด ที่ผสานการซัก 3 รูปแบบ ช่วยทำให้ผงซักฟอกขจัดคราบสกปรกให้ผ้าสะอาดหมดจดอย่างแท้จริง เครื่องปรับอากาศรุ่นอินเวอร์เตอร์ เทคโนโลยีความเย็นสบายที่ประหยัดคุ้มค่าด้วยคอมเพรสเซอร์แบบ Twin Rotary และเครื่องดูดฝุ่นพลังไซโคลน ดูดเต็มพลังด้วยกำลังมอเตอร์แรงสูงถึง 2,100 วัตต์
“นอกจากนี้ฮิตาชิยังใส่ใจและห่วงใยต่อสภาพแวดล้อมของโลกอย่างจริงจัง โดยผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกประเภทจากฮิตาชิได้ผ่านการรับรองมาตรฐาน RoHS ซึ่งเป็นระเบียบของกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป ที่ห้ามใช้สารต้องห้าม 6 ชนิด เช่น ตะกั่ว ปรอท แคดเมียม ในสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์”
สำหรับกลยุทธ์ด้านการจัดจำหน่าย ในปีนี้ฮิตาชิมีนโยบายที่จะชูร้านค้าตัวแทนจำหน่าย 100 แห่ง ให้เป็นร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่มีศักยภาพด้านการขายผลิตภัณฑ์ของฮิตาชิ พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกให้กับผู้บริโภค (High Value Added Channel) โดยจะมีการจัดดิสเพลย์สินค้าและเน้นการให้ความรู้ด้านคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ เพื่อช่วยให้ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายเข้าใจในนวัตกรรมของสินค้าและพร้อมที่จะอธิบายให้ลูกค้าทราบถึงประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับจากผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของฮิตาชิอย่างละเอียด
“สิ่งที่ฮิตาชิดำเนินการมาโดยตลอดคือ การเติบโตไปพร้อมๆ กับร้านค้าตัวแทนจำหน่ายเหล่านี้ ดังนั้นเมื่อผู้บริโภคนิยมสินค้าที่มีเทคโนโลยีสูง ฮิตาชิและร้านค้าตัวแทนจำหน่ายจึงต้องปรับตัวเพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนไปของลูกค้าได้ ด้วยการแนะนำและให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการเลือกสินค้าที่ตรงกับความต้องการ เพื่อให้ลูกค้ามีความพึงพอใจ ซึ่งในที่สุดแล้วจะทำให้ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายสามารถเติบโตได้ในระยะยาว”
สุดท้ายคือ กลยุทธ์ด้านการสื่อสาร โดยในโอกาสที่ฮิตาชิเซลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ก้าวเข้าสู่ปีที่ 40ในปีนี้ บริษัทฯ จะใช้แคมเปญ Hello, Tomorrow ! ตอบทุกไลฟ์สไตล์แห่งอนาคต ในการทำตลาดและสื่อสารไปยังกลุ่ม เป้าหมายระดับพรีเมี่ยม โดยนำเสนอ “ผู้หญิง 3 สไตล์” และสามบทบาท ได้แก่ 1.แม่บ้านทันสมัย 2.เวิร์กกิ้งวูแมน และ3. คู่รักสมัยใหม่ เป็นตัวแทนในการนำเสนอแคมเปญใหม่ที่ต้องการสื่อว่า ฮิตาชิตระหนักถึงความต้องการของชีวิตยุคใหม่ จึงมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าหลากหลายประเภทให้มีนวัตกรรมล้ำหน้า ครบครันด้วยฟังก์ชั่นที่อำนวยความสะดวกเพื่อให้คุณใช้ชีวิตที่สุขสบายยิ่งขึ้น สามารถตอบโจทย์ได้กับทุกไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าสมัยใหม่ โดยโฆษณาชุดนี้นอกจากใช้ในประเทศไทยแล้วจะนำไปใช้ในตลาดทั่วเอเชีย คือประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย ฮ่องกง เวียดนาม อินโดนีเซีย และตะวันออกกลาง
“แคมเปญนี้มีแนวคิดมาจาก การที่ฮิตาชิเชื่อมั่นว่าชีวิตที่ดี ต้องมีมากกว่าความสะดวกสบาย เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ต้องให้ได้มากกว่าฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบถ้วน ฮิตาชิตระหนักถึงความต้องการในไลฟ์สไตล์ที่ลงตัวของชีวิตยุคใหม่จึงมุ่งมั่นสร้างสรรค์และพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าหลากหลายประเภทด้วยที่สุดแห่งนวัตกรรมล้ำประสิทธิภาพ ที่ครบครันด้วยฟังก์ชั่นสมบูรณ์แบบซึ่งไม่เพียงแต่อำนวยความสะดวกให้ทุกก้าวของชีวิตที่สุขสบายยิ่งขึ้น แต่ยังมอบอิสระในการคิดค้นสิ่งใหม่ๆ ให้ได้โลดแล่นไปกับไอเดีย หลากหลายพร้อมแต่งแต้มและเติมเต็มทุกวัน ให้เต็มไปด้วยความสุข ความสดชื่น และสดใสเพื่อให้ได้ทักทายทุกเช้าวันใหม่ด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะอยู่เสมอ”
นายอันนากะ ระบุว่า จากภาวการณ์แข่งขันของตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีอยู่สูงและรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ สิ่งที่ฮิตาชิตั้งมั่นคือ การมองการณ์ไกลทั้งในระยะกลางถึงยาว ในการสรรสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ และเทคโนโลยีชั้นสูง ซึ่งสามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างแท้จริง ในขณะที่การทำกิจกรรมการตลาดในระยะสั้นก็จะเป็นกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ และแม้ว่าภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันยังผันผวน แต่ฮิตาชิก็ยังมั่นใจว่าผู้บริโภคยินดีที่จะซื้อสินค้าที่มีคุณภาพระดับพรีเมี่ยม เพื่อตอบสนองความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งจะทำให้ฮิตาชิสามารถทำยอดขายได้เพิ่มขึ้นตามเป้าหมาย
ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ
ปัณรษี ไทยวัชรามาศ
พีอาร์ แอนด์ แอสโซซิเอสต์
โทร. 02 652 8989, 222
[email protected]
- ธ.ค. ๒๕๖๗ โฉมใหม่ HP OMEN และ HP Pavilion Gaming โฉบเฉี่ยวดุดัน วิศวกรรมออกแบบสุดล้ำแห่งอนาคตเกม
- ธ.ค. ๒๕๖๗ เอชพี เปิดตัวโปรแกรมการค้าใหม่ เสริมศักยภาพพันธมิตรทั่วโลกอย่างทรงพลัง
- ธ.ค. ๒๕๖๗ ติงส์ ออน เน็ต รุกตลาดไอโอที โครงข่ายทั่วไทย จัด Open House ตอกย้ำทิศทางธุรกิจ ชี้ Big Data - IoT ตัวขับเคลื่อนสำคัญสู่ New Normal