กรุงเทพฯ--20 มี.ค.--ออนไลน์ แอสเซ็ท
'ปกรณ์ บริมาสพร'ประเมินธุรกิจของ L&E ปีนี้ขยายตัวทั้ง 3 ส่วน คือ ประเภทขายโครงการ,ขายส่ง และส่งออก ได้แรงหนุนมาจากการขยายตัวของเศรษฐกิจ อีกทั้งมีงานที่คั่งค้างจากปีก่อนเลื่อนมาเปิดโครงการในปีนี้ นอกจากนี้ได้รับความไว้วางใจจาก 'จีอี ไลท์ติ้ง' ให้เป็นผู้แทนจำหน่ายหลักสินค้าหลอดไฟฟ้าแสงสว่างในประเทศไทย ดังนั้นมั่นใจปี 2551รายได้จากการขายขยายตัวต่อเนื่อง 20-25% ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นคาดแกว่งตัวที่ระดับ 25-30%
นายปกรณ์ บริมาสพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (L&E) เปิดเผ ยถึงการดำเนินธุรกิจในปี 2551 ว่าจะเห็นการเติบโตจากทั้ง 3 ส่วนธุรกิจ โดยส่วนแรกคือ งานโครงการปีนี้คาดว่าจะมีการขยายตัวที่ดี เนื่องจากโครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ประเภทโรงแรมและศูนย์การค้าที่เคยชะลอการก่อสร้างในปีที่แล้วได้เลื่อนมาเปิดโครงการในปีนี้ ทำให้มั่นใจได้ว่าในปี 2551 การขายโครงการจะเพิ่มสูงขึ้น
ส่วนธุรกิจค้าส่งและค้าปลีกในปีที่ผ่านมาได้ปรับโครงสร้างการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยจัดให้มีทีมงานดูแลเฉพาะส่วน ซึ่งตั้งแต่ต้นปี 2551 ก็สามารถดำเนินธุรกิจได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ และที่สำคัญปีนี้ L&E ได้รับการแต่งตั้งจาก บริษัท จีอี ไลท์ติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด เจ้าของสินค้าหลอดไฟฟ้าแสงสว่างยี่ห้อ จีอี (GE) ให้เป็นผู้แทนจำหน่ายหลักในประเทศไทย ทำให้บริษัทฯ มีสินค้าที่เป็นคอนซูเมอร์โปรดักส์ให้ลูกค้าได้เลือกมากขึ้น ดังนั้นจึงเป็นโอกาสที่จะเพิ่มยอดจำหน่ายสินค้าประเภทค้าส่งและค้าปลีกได้มากขึ้น
ท้ายสุดคือการส่งออก ล่าสุด L&E เพิ่งได้งานจากประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งจะรับรู้รายได้ในไตรมาส 3/51 และค าดว่าจะมีงานอื่นๆ ตามมาอีก โดยปีนี้บริษัทฯ วางแผนบุกตลาดต่างประเทศเต็มตัว และในปีนี้ช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค.จะไปออกงานแสดงสินค้าที่ประเภทเยอรมนี ซึ่งเป็นการจัดแสดงสินค้าที่ใหญ่ที่สุดด้านแสงสว่าง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดตลาดของ L&E ให้กว่างยิ่งขึ้นและหาลูกค้าใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ซึ่ง L&E มีจุดเด่นคือมีสินค้ามาจากโรงงานของบริษัทฯเอง และเป็นสินค้าที่มีคุณภาพดีแต่ราคาไม่แพง ซึ่งถือว่าเป็นอีกทางเลือกที่น่าพิจารณา
' จากปัจจัยต่างๆ ทำให้มั่นใจว่าปีนี้ L&E จะมีการเติบโตแบบก้าวกระโดดได้อีกครั้ง โดยเบื้องต้นประเมินว่าจะมีรายได้จากการขายสูงกว่าปีก่อนประมาณ20-25% ส่วนอัตรากำไรขั้นต้น(margin) คาดว่าจะอยู่ในระดับประมาณ 25-30% ซึ่งเป็นระดับที่ L&Eรักษาเอาไว้ได้ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ส่วนภาพรวมของเศรษฐกิจภายในประเทศถือว่าไม่ห่วงมากนัก แม้ว่าเรื่องของการเมืองจะมีความผันผวนบ้าง แต่เชื่อว่าการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นและมีการตั้งคณะรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งและเป็นประชาธิปไตย จะทำให้นักลงทุนต่างชาติมีความเชื่อมั่นในการลงทุน ซึ่งคงจะผลักดันให้เศรษฐกิจของประเทศเดินหน้าต่อไปได้'
เขากล่าวต่อถึงความคืบหน้าของโรงงานแห่งใหม่ว่าหลังจากที่ได้ติดตั้งเครื่องจักรใหม่เมื่อปลายปี 2550 ขณะนี้ทุกอย่างลงตัวมากขึ้นทั้งในส่วนของการผลิตและคำสั่งซื้อจากลูกค้าจากทั้งในและต่างประเทศ โดยกำลังการผลิตจะเพิ่มขึ้นเป็น 3 ล้านชิ้น จากที่ผลิตได้จำนวน 1.5 ล้านชิ้น
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : ปภาดา สุวรรณกูฎ (ตุ้ย) โทร. 02-554-9394 , 085-133-0184