“สุดารัตน์” มอบหมายปลัดกระทรวงเร่งหารือกระทรวงทรัพย์ฯจัดทำแผนแม่บทพัฒนาลุ่มน้ำให้แล้วเสร็จใน 3 เดือน

พฤหัส ๑๗ มีนาคม ๒๐๐๕ ๑๓:๔๒
กรุงเทพฯ--17 มี.ค.--กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
“สุดารัตน์” มอบหมายปลัดกระทรวงเร่งหารือกระทรวงทรัพย์ฯจัดทำแผนแม่บทพัฒนาลุ่มน้ำให้แล้วเสร็จใน 3 เดือน และกำชับให้จัดทำแผนประเมินผลผลิตสินค้าแต่ละชนิดล่วงหน้ารายปี พร้อมส่งเสริมการผลิตพืชน้ำมันและสมุนไพรไทย ลดการพึ่งพาพลังงานจากต่างประเทศและสร้างทางเลือกอาชีพให้เกษตรกร
นางสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า เพื่อสานต่อการแก้ปัญหาภัยแล้ง และพัฒนาภาคการเกษตรของรัฐบาล ในเบื้องต้นจึงได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงเกษตรฯ หารือกับ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดทำแผนพัฒนาลุ่มน้ำทั้งระบบในลักษณะบูรณาการ ตั้งแต่การเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บกักน้ำในพื้นที่ต้นน้ำ ความเป็นไปได้ในการผันน้ำจากประเทศเพื่อนบ้าน และการบริหารจัดการน้ำในช่วงเวลาต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนร่วมกันภายใน 3 เดือนouh
ส่วนแผนการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต นอกจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องประเมินสถานการณ์ล่วงหน้าสินค้าเกษตรแต่ละชนิดที่ออกสู่ตลาดในช่วงเวลาต่างๆ เพื่อจัดหาตลาดและมาตรการช่วยเหลือรองรับ โดยสินค้าแต่ละชนิดต้องมีเจ้าภาพทำหน้าที่ควบคุมและติดตามสถานการณ์ทั้งระบบแล้ว ยังจะเปิดโอกาสให้อาสาสมัครเกษตรกร และชุมชนต่าง ๆ ได้มีส่วนร่วมในโครงการ หรือแผนงานพัฒนาของกระทรวงมากขึ้น เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับกลุ่มเกษตรกรด้วย
นางสุดารัตน์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนการส่งเสริมการผลิตพืชน้ำมัน และการพัฒนาโรงงานสกัดน้ำมัน เพื่อลดการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศตามนโยบายของรัฐบาล รวมทั้งเร่งหารือร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ขยายฐานการผลิตพืชสมุนไพรไทยหลายชนิด เพื่อนำไปผลิตเป็นเครื่องสำอาง ซึ่งคาดว่าจะเป็นการเพิ่มทางเลือกด้านอาชีพให้กับเกษตรกรทางหนึ่ง
“ขณะนี้ผู้บริโภคทั่วโลก เริ่มให้ความสำคัญกับการใช้สมุนไพร หรือวิธีการธรรมชาติในการบำบัดสุขภาพมากขึ้น จึงเป็นโอกาสดีถ้าเราสนับสนุนให้เกษตรกรในบางพื้นที่ ซึ่งเดิมปลูกบางพืชที่ไม่สามารถแข่งขันกับประเทศผู้ผลิตรายอื่นได้ให้มีปลูกพืชสมุนไพรซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการของตลาด ก็จะทำให้เกษตรกรเหล่านั้นมีรายได้และความมั่นคงด้านอาชีพมากขึ้น เช่นเดียวกับการสนับสนุนให้พื้นที่ที่เหมาะสมเปลี่ยนไปปลูกพืชน้ำมันแทน ก็ช่วยลดปัญหาการพึ่งพาน้ำดิบจากต่างประเทศได้”--จบ--

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๓:๐๗ ทีทีบี ครองธนาคารไทยคะแนนสูงสุดด้าน ESG ต่อเนื่องปีที่ 6 ตอกย้ำความสำเร็จบนเส้นทางสู่ การธนาคารเพื่อความยั่งยืน
๑๓:๔๐ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดคาดเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวต่อเนื่องหนุน กนง. คงดอกเบี้ยนโยบาย
๑๓:๒๕ หมอนรองกระดูกเสื่อม สาเหตุปวดร้าวลงขา
๑๒:๕๖ กรุงศรี เอ็กซ์คลูซีฟ มองเศรษฐกิจโลก 2025 ฟื้นตัว แม้มีปัจจัยเสี่ยง ชี้ตราสารหนี้และหุ้นยังคุ้มค่าท่ามกลางความผันผวน
๑๒:๒๗ Thailand Privilege Card จับมือ ASAVA ปรับโฉมยูนิฟอร์มด้านบริการ ภายใต้คอนเซปต์ GRACE สะท้อนอัตลักษณ์ไทยร่วมสมัยสู่สากล
๑๑:๐๔ เครือสหพัฒน์ จัดสัมมนาเสริมบทบาทคณะกรรมการ ESG เดินหน้าขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืน
๑๑:๒๖ กสิกรไทยส่งบริการมัดใจตลาดเวียดนาม กวาด 2 รางวัลใหญ่ ระดับนานาชาติ สุดยอดบัตรเครดิตใหม่และสุดยอดธนาคารแห่งใหม่เพื่อเอสเอ็มอีออนไลน์
๑๑:๕๙ 'พฤกษา' ตอกย้ำผู้นำด้านอสังหาฯ ผนึกความเชี่ยวชาญด้านการอยู่อาศัย สู่การสร้างชุมชนสุขภาพดี มอบสิทธิพิเศษ และโครงการดูแลสุขภาพลูกบ้านตลอดปี
๑๑:๒๓ TFG ติดปีก! ปี 67 กำไรพุ่งแตะ 3,143.81 ลบ. เพิ่มขึ้น 486.93%
๑๑:๑๖ SO ตอบแทนผู้ถือหุ้นโดยจ่ายปันผล 85% ของกำไร หรือ 0.18 บาท/หุ้น กวาดกำไรปี 67 กว่า 153 ล้านบาท