กรุงเทพฯ--1 เม.ย.--อาร์เอส
ยังคงเดินหน้าประกอบภารกิจในฐานะ ทูต WWF ประเทศไทย อย่างต่อเนื่อง โดยในวันที่ 29 มีนาคม “บีม-กวี ตันจรารักษ์” ก็ได้มาร่วมงาน “ปิดไฟ 1 ชั่วโมงเพื่อลดโลกร้อน” (Earth Hour Campaign) ซึ่งทาง กรุงเทพมหานคร และ WWF ประเทศไทย รวมถึงองค์กรภาครัฐ และเอกชนต่างๆ ได้ร่วมกันจัดขึ้น ณ ลานหน้าห้างเซ็นทรัลเวิลด์ โดยมี นางบรรณโศภิษฐ์ เมฆวิชัย รองผู้ว่าฯ กทม. ให้เกียรติเป็นประธาน
ภายในงานมีการเชิญพันธมิตรที่ร่วมสนับสนุนแคมเปญดังกล่าวขึ้นเวทีเพื่อร่วมกันกดปุ่มไฟ และนับถอยหลังปิดไฟ 1 ชั่วโมง เพื่อลดโลกร้อน ตลอดจนนำเสนอภาพการปิดไฟในจุดต่างๆ ของกทม. (เยาวราช, สีลม, สุขุมวิท, ข้าวสาร, รัชดา และราชดำเนิน) รวมไปถึงภาพการปิดไฟจากต่างประเทศ ที่เข้าร่วมกิจกรรม
ในขณะเดียวกัน ก็ยังจัดให้มีการเสวนาในหัวข้อ “การมีส่วนร่วมอย่างไร ถึงจะแก้ไขโลกร้อนได้” โดย “บีม- กวี ตันจรารักษ์” ทูต WWF ประเทศไทย ร่วมเสนอมุมมองในประเด็น “คนรุ่นใหม่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม มากแค่ไหน” โดยกล่าวว่า
“ตั้งแต่แรกเริ่มได้รับตำแหน่ง ทูต WWF ประเทศไทย บีมก็ตระหนักดีว่าเป็นความรับผิดชอบที่สำคัญมาก โดยเฉพาะหน้าที่หลักในการปลุกจิตสำนึก และประชาสัมพันธ์ให้เยาวชน คนรุ่นใหม่หันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น ซึ่งถือว่าได้รับผลตอบรับที่ดี โดยเฉพาะจากบรรดาน้องๆแฟนคลับที่มาร่วมสมัครเป็นอาสาสมัครองค์กร WWF และจะรวมตัวกันเพื่อไปช่วยงานด้านอนุรักษ์ ซึ่งถือว่าเป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์อีกวิธีหนึ่ง
แต่สิ่งหนึ่งที่หลายคนอาจจะยังเข้าใจว่าการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะต้องเกี่ยวข้องกับต้นไม้ สัตว์ป่า อย่างเดียว เลยมองว่าเป็นเรื่องไกลตัว แต่จริงๆ แล้ว การอนุรักษ์ธรรมชาติ ยังรวมไปถึงเรื่องของพลังงานด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวเรามากๆ เพราะในชีวิตประจำวันของเรา ต้องใช้พลังงานอยู่ตลอดเวลา ซึ่งถ้าเราใช้อย่างไม่ถูกต้อง ก็จะเป็นการสิ้นเปลืองพลังงานโดยใช่เหตุ ที่สำคัญยังเป็นสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อนด้วยครับ ซึ่งตอนนี้ทั่วโลกกำลังตื่นตัว ในเรื่องนี้อย่างมาก โดยการรณรงค์ให้ทุกคนร่วมกันประหยัดพลังงาน เริ่มจากพลังงานที่ใกล้ตัวเรามากที่สุด ซึ่งทุกคนสามารถ ทำได้ง่ายมากเลยล่ะครับ
สำหรับวันนี้ ( 29 มี.ค.) ที่มีการกำหนดให้ทุกคนช่วยกัน ปิดไฟ 1 ชม. เพื่อลดโลกร้อนในเวลา 2 ทุ่มถึง 3 ทุ่มนั้น ก็ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีนะครับ ก็อยากให้ทุกคนร่วมกันคนละไม้คนละมือ และที่สำคัญไม่อยากให้มองว่าเป็นกิจกรรมที่ร่วมกันทำแค่วันนี้วันเดียว แต่อยากให้ทุกคนปลูกฝังความคิด และความเข้าใจที่ตรงกันว่า ความรับผิดชอบในเรื่องของการประหยัดพลังงานนั้น เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องร่วมมือกันปฏิบัติอย่างต่อเนื่องครับ
และถ้าน้องๆ คนไหน ที่อยากจะทำงานด้านอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง ก็สามารถ มาสมัครเป็นอาสาสมัคร WWF ร่วมกับพวกเราได้นะครับ”