กรุงเทพฯ--3 เม.ย.--ปตท.
ดร.จิตรพงษ์ กว้างสุขสถิตย์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นต้น และก๊าซธรรมชาติ และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้ระบบการส่งก๊าซธรรมชาติจากแหล่งเยตากุน ในฝั่งสหภาพพม่าขัดข้อง ทำให้การส่งก๊าซธรรมชาติทางฝั่งตะวันตก ซึ่งปกติมีความสามารถส่งก๊าซฯ รวมประมาณ 1,160 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน จาก 2 แหล่งฯ ในสหภาพพม่า คือแหล่งเยตากุน ประมาณ 460 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน กับแหล่งยานาดาประมาณ 700 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ต้องหยุดจ่ายก๊าซฯ ลงชั่วคราว เมื่อเช้าวันที่ 2 เมษายน 2551
ทั้งนี้ บริษัทน้ำมันแห่งชาติของประเทศมาเลเซีย (Petronas) ซึ่งเป็น operator ของแหล่งเยตากุน แจ้งว่าสาเหตุของการขัดข้องของระบบท่อส่งก๊าซฯ แหล่งเยตากุนเกิดจากการเกิดรอยแตก 2 แห่งบนท่อส่งก๊าซฯ บนบกในสหภาพพม่าใกล้พรมแดนไทย-สหภาพพม่า ซึ่ง Petronas กำลังดำเนินการหาสาเหตุและแก้ไข โดย ปตท. ได้เข้าไปประสานงานให้ความช่วยเหลือเพื่อให้ระบบท่อส่งก๊าซฯ เยตากุนกลับสู่สภาพปกติโดยเร็วที่สุด
นอกจากนั้นเพื่อมิให้ส่งผลกระทบต่อระบบผลิตกระแสไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ปตท. ได้ประสานงานกับ กฟผ. เพื่อจ่ายก๊าซฯ จากแหล่งยาดานา สำหรับใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าในปริมาณประมาณ 400 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน รวมทั้งได้ลดการใช้ก๊าซฯ ของโรงแยกก๊าซฯ ปตท. ในปริมาณ 80 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน เพื่อชดเชยปริมาณก๊าซฯ ฝั่งตะวันตกที่ลดลง โดยที่ กฟผ. จะใช้น้ำมันเตาและน้ำมันดีเซลเป็นเชื้อเพลิงทดแทนก๊าซธรรมชาติส่วนที่ขาดไป ซึ่ง ปตท. ได้เตรียมสำรองปริมาณน้ำมันทั้งสองชนิดให้เพียงพอต่อความต้องการ เพื่อมิให้ส่งผลกระทบต่อระบบการผลิตไฟฟ้าโดยรวมของประเทศในช่วงนี้ได้
ดร.จิตรพงษ์ กว้างสุขสถิตย์ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า จากการที่ระบบส่งก๊าซธรรมชาติจากแหล่งเยตากุนฝั่งสหภาพพม่าขัดข้องทำให้ ปตท. ต้องบริหารจัดการระบบการส่งก๊าซฯในฝั่งตะวันตก โดยการส่งก๊าซฯ จากแหล่งยานาดา ซึ่งมีค่าความร้อนต่ำลงเล็กน้อย ดังนั้นจึงอาจส่งผลกระทบต่อลูกค้าที่ใช้ก๊าซธรรมชาติในขบวนการผลิต รวมถึงในภาคยานยนต์ที่ใช้ NGV เป็นเชื้อเพลิงในระยะสั้น จนกว่าระบบส่งก๊าซฯ เยตากุนจะซ่อมแซมแล้วเสร็จ
ฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน)
โทรศัพท์ 0-2537-3217 โทรสาร 0-2537-3211