ม.หอการค้าไทยประกาศวิสัยทัศน์ “เราจะเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำด้านธุรกิจและแหล่งความรู้ชั้นสูงในเอเชีย”

ศุกร์ ๐๔ เมษายน ๒๐๐๘ ๐๙:๕๕
กรุงเทพฯ--4 เม.ย.--พีอาร์พีเดีย
มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยครบรอบสถาปนามหาวิทยาลัย 45 ปี ประกาศวิสัยทัศน์มุ่งสู่การเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำด้านธุรกิจและแหล่งความรู้ชั้นสูงในเอเชีย วางรากฐานลงทุนระบบเทคโนโลยีสารสนเทศกว่า 480ล้านบาท เตรียมใช้ระบบอินเตอร์แอคทีฟ อี-คลาสรูม (Interactive E-Classroom) ประเดิมแจกโน้ตบุ๊คแก่นักศึกษาใหม่ระดับปริญญาตรี ภาคการศึกษาปี 2551 พร้อมใช้กับไว-ไฟ (Wi-fi) สมาร์ทการ์ด และโอพินเนียน ไฟนด์เดอร์ (Opinion Finder) อุปกรณ์ไฮเทคสร้างปฏิสัมพันธ์วัดผลการสอน และเปิดหลักสูตรเอ็มบีเอ ออนไลน์ พร้อมเดินหน้าแจกทุนศึกษาปริญญาเอกต่างประเทศต่อเนื่องปีละกว่า 10 ทุน พัฒนาอาจารย์หัวกะทิรุ่นใหม่ ส่งเสริมทำงานวิจัยเพื่อใช้ในการสอน และเชื่อมโยงข้อมูลทางวิชาการของมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วโลก มั่นใจติดอันดับ 500 มหาวิทยาลัยโลกใน 8 ปี
รศ.ดร.จีรเดช อู่สวัสดิ์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ในปี 2551 มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยครบรอบก่อตั้งมหาวิทยาลัย 45 ปี โดยตลอด 45 ปีที่ผ่านมามหาวิทยาลัยได้พัฒนาหลักสูตรและระบบการเรียนการสอนมาโดยตลอด จนปัจจุบันมหาวิทยาลัยไทยมีทั้งหมด 8 คณะ ได้แก่ คณะบริหารธุรกิจ คณะบัญชี คณะเศรษฐศาสตร์ คณะมนุษย์ศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ คณะนิเทศศาสตร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ และคณะนิติศาสตร์ ปริญญาโท 9 หลักสูตร และหลักสูตรใหม่ ปริญญาโท คณะเศรษฐศาสตร์ สาขาโลกาภิวัตน์ศึกษา (Globalization Studies) และปริญญาเอก 2 หลักสูตร คือ ปริญญาเอก สาขาเศรษฐศาสตร์ ภาคภาษาอังกฤษ และหลักสูตรใหม่ล่าสุด ปริญญาเอก สาขาวิชาโลจิสติกส์ และหลักสูตรนานาชาติ (International Program) โดยทุกหลักสูตรของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยมีจุดเด่นที่เน้นด้านธุรกิจ เช่น คณะนิติศาสตร์เน้นที่กฎหมายธุรกิจ คณะมนุษย์ศาสตร์มีสาขาวิชาภาษาอังกฤษ เพื่อการสื่อสารธุรกิจ เป็นต้น
ในปี 2551 มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยได้ตั้งวิสัยทัศน์ในการก้าวสู่การเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำด้านธุรกิจและแหล่งความรู้ชั้นสูงในเอเชีย โดยใช้กลยุทธ์การพัฒนา 3 ด้าน คือ นวัตกรรมทางการสอนที่ล้ำหน้า การนำความรู้จากงานวิจัยที่ทันสมัยมาใช้ในการสอน และการเชื่อมโยงข้อมูลทางวิชาการของมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วโลก
ในด้านนวัตกรรมทางการสอนที่ล้ำหน้า มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยได้เตรียมความพร้อมเพื่อใช้ระบบอินเตอร์แอคทีฟ อี-คลาสรูมมาแล้วกว่า 3 ปี โดยได้ลงทุนกว่า 200 ล้าน บาททั้งในด้านโครงสร้างและอุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศ ล่าสุดนักศึกษาระดับปริญญาตรีที่สมัครเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ในปีการศึกษา 2551 จะได้รับโน้ตบุ๊คคนละ 1 เครื่อง ซึ่งสามารถเชื่อมโยงกับระบบไว-ไฟที่มีสัญญาณครอบคลุมทั่วทั้งมหาวิทยาลัย
ส่วนอาจารย์ทุกคนจะได้รับอุปกรณ์ไอซีทีเพื่อใช้ประกอบการสอน ไม่ว่าจะเป็นโน้ตบุ๊ค พรีเซนเตอร์พอยท์เตอร์ อินพุต แพด (Input Pad) หรืออุปกรณ์เคลื่อนที่ที่สามารถเขียนแล้วข้อความปรากฏบนหน้าจอพรีเซนเทชั่น เป็นต้น เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในการสอนให้ดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยโดยอาจารย์และนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ยังได้พัฒนาอุปกรณ์ประกอบการสอนอัจฉริยะโอพินเนียน ไฟนด์เดอร์ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ใช้สร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนและผู้สอน และใช้ประเมินความเข้าใจในระหว่างเรียน ซึ่งขณะมีเครื่องพร้อมใช้งานแล้วจำนวน 50 เครื่อง และมหาวิทยาลัยจะผลิตจนครบจำนวนนักศึกษาภายใน 5 ปี
“เมื่อเริ่มใช้อินเตอร์แอคทีฟ อี-คลาสรูม ผู้สอนจะนำไฟล์บทเรียนทั้งหมดขึ้นเผยแพร่ในเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัย ซึ่งนักศึกษาจะได้รับมอบหมายให้เข้าไปศึกษาด้วยตนเองล่วงหน้า และนำมาเป็นหัวข้อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันภายในชั้นเรียน เมื่อเข้าชั้นเรียนนักศึกษาจะได้รับอุปกรณ์โอพินเนียน ไฟนด์เดอร์สำหรับเสียบบัตรสมาร์ทการ์ด หรือบัตรประจำตัวนักศึกษาอัจฉริยะ ในระหว่างการสอนเมื่ออาจารย์ถามคำถาม นักศึกษาทั้งชั้นเรียนจะเลือกคำตอบด้วยเครื่องโอพินเนียน ไฟนด์เดอร์ จากนั้นระบบจะทำการประมวลและรายงานผล ทำให้ผู้สอนทราบทันทีว่าหัวข้อนั้นๆ นักศึกษาเข้าใจหรือไม่ โดยข้อมูลทุกอย่างจะถูกเก็บไว้ในสมาร์ทการ์ด ทำให้ทราบพฤติกรรมและระดับการเรียนรู้ของนักศึกษาแต่ละคน ซึ่งเราเรียกกระบวนการเหล่านี้ว่าไฮบริด (Hybrid) ” รศ.ดร.จีรเดช กล่าว
“นอกจากอินเตอร์แอคทีฟ อี-คลาสรูม ล่าสุดมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยยังร่วมมือกับบริษัท สามารถเทลคอม จำกัด และกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเปิดเอ็มบีเอ ออนไลน์ หลักสูตรแรกในประเทศไทย โดยเริ่มจากสาขาการจัดการ ซึ่งเป็นสาขาที่มหาวิทยาลัยมีความเชี่ยวชาญ และเป็นสาขาที่ตลาดมีความต้องการสูง ซึ่งจะเริ่มเปิดรับสมัครในช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม เริ่มเรียนในเดือนมิถุนายน 2551 รับจำนวนจำกัดเพียง 50 คน โดยกลุ่มเป้าหมายคือผู้บริหารรุ่นใหม่ที่ต้องการพัฒนาความรู้และวิสัยทัศน์ แต่มีภาระหน้าที่รัดตัวและต้องเดินทางต่างประเทศอยู่เป็นประจำทำให้ไม่สามารถเข้าเรียนชั้นเรียนปรกติได้” รศ.ดร.จีรเดช กล่าวเพิ่มเติม
สำหรับแนวคิดเรื่องการนำความรู้ที่ทันสมัยมาใช้ในการสอน รศ.ดร.จีรเดช กล่าวว่า “โลกเปลี่ยนแปลงไปทุกวัน สถานการณ์ตลาด การแข่งขัน และกลยุทธ์การทำธุรกิจใหม่ๆ เกิดขึ้นตลอดเวลา ดังนั้นนักศึกษาควรได้รับความรู้ที่ทันสมัย มีการพัฒนาตลอดเวลา มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยจึงมีแนวคิดในการสร้างบุคลากรอาจารย์ที่เป็นคนรุ่นใหม่มีความคุ้นเคยกับเทคโนโลยี ผ่านการทำวิจัยกับสถาบันการศึกษาชั้นนำของโลก และสามารถนำความรู้จากการเรียนและงานวิจัยจากต่างประเทศมาประยุกต์สอนกับนักศึกษาไทยได้”
“เราเริ่มสร้างบุคคลากรโดยมอบทุนศึกษาต่อระดับปริญญาโทควบเอกและปริญญาเอกในสถาบันการศึกษาชั้นนำในต่างประเทศแก่บุคคลทั่วไป โดยกำหนดว่าผู้รับทุนจะต้องมาปฏิบัติหน้าที่เป็นอาจารย์ประจำที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 1 เดือน ก่อนจะเดินทางไปศึกษาต่อ และต้องผ่านการประเมินขั้นต้นจากคณะต้นสังกัด และผู้รับทุนจะต้องกลับมาปฏิบัติงานเป็นอาจารย์ประจำของมหาวิทยาลัยเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 2 เท่าของระยะเวลาที่ได้รับทุน ซึ่งปัจจุบันมีผู้สำเร็จการศึกษากลับมาเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แล้ว 35 คน และมีผู้กำลังศึกษาอยู่อีก 74 คน และระหว่างดำเนินการ อีก 31 คน ซึ่งถือว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่มีจำนวนทุนมากที่สุดในประเทศ” รศ.ดร.จีรเดช กล่าว
นอกจากนี้มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยยังมีนโยบายที่จะให้การสนับสนุนคณาจารย์ของมหาวิทยาลัยได้มีโอกาสไปอบรมระยะสั้นในต่างประเทศให้มากที่สุดและทั่วถึง จึงได้ริเริ่มให้มีโครงการ Global Intensive Faculty Training Program (GIFT Program) ขึ้น ซึ่งเป็นทุนการศึกษาระยะสั้นในต่างประเทศ เพื่อให้โอกาสอาจารย์มีโอกาสเพิ่มพูนความรู้ และประสบการณ์ในสาขาของตน นอกจากนั้นยังเป็นการฝึกทักษะทางภาษา ตลอดจนการเรียนรู้วัฒนธรรมที่แตกต่าง มีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และทำความรู้จักกับคณาจารย์และผู้บริหารของสถาบันการศึกษาในต่างประเทศ อันจะนำไปสู่ความร่วมมือทางวิชาการในระดับคณะและระดับมหาวิทยาลัย ซึ่งตั้งแต่เปิดโครงการจนถึงปัจจุบันมีผู้ได้รับทุน GIFT ทั้งหมด 151 คน โดยอาจารย์ทั้งหมดได้ไปศึกษาในมหาวิทยาลัยที่อยู่ภายใต้สัญญาความร่วมมือทางวิชาการ เช่น DePaul University และ Washington State University ประเทศสหรัฐอเมริกา Swinburne University และ RMIT University ประเทศออสเตรเลีย Auckland University และ University of Waikato ประเทศนิวซีแลนด์ เป็นต้น
ในด้านการเชื่อมโยงข้อมูลทางวิชาการของมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วโลก มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยได้มีความร่วมมือทางวิชาการกับมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกในหลายโครงการ เช่น การร่วมมือกับมหาวิทยาลัยชิคาโก ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของโลกด้านเศรษฐศาสตร์มีนักวิชาการรางวัลโนเบลด้านเศรษฐศาสตร์สอนอยู่ถึง 7 คน ก่อตั้งศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัย ชิคาโก-มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ณ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เป็นต้น
นอกจากนี้มหาวิทยาลัยยังได้เชิญนักวิชาการระดับโลกมาบรรยายให้ความรู้ที่มหาวิทยาลัยอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปลายปี 2550 เช่น ศาสตราจารย์ฟินน์ เออลิง คิดแลนด์ เจ้าของรางวัลโนเบล สาขาเศรษฐศาสตร์ ปี 2004 ศาสตราจารย์ โรเบิร์ต อเล็กซานเดอร์ มันเดลล์ เจ้าของรางวัลโนเบล สาขาเศรษฐศาสตร์ ปี 1999 และล่าสุด มร.เจมส์ ดี วูลฟ์เฟนสัน อดีตประธานธนาคารโลก ปี 1995-2005 และจะยังคงจัดอย่างต่อเนื่องตลอดปี 2551 และต่อไปอีกทุกๆ ปี
“มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยได้ความเตรียมพร้อมในทุกๆ ด้านไม่ว่าจะเป็นด้านโครงสร้าง หลักสูตร คณะอาจารย์ และนักศึกษามาเป็นระยะเวลาหลายปี ด้วยความมุ่งมั่น ตั้งใจ เรามั่นใจว่าจะสามารถก้าวไปสู่เป้าหมายที่เราตั้งไว้ในการเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำด้านธุรกิจและแหล่งความรู้ชั้นสูงในเอเชียอย่างแน่นอน ซึ่งนอกจากนี้เรายังหวังว่าจะสามารถติดอันดับ 500 มหาวิทยาลัยโลกใน 8 ปีอีกด้วย” รศ.ดร.จีรเดชกล่าว
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
บริษัท พีอาร์พีเดีย จำกัด
ชัยวัฒน์ สิมะวัฒนา / จตุพล นาคนิ่ม / พชรวดี จุโลทัย
มือถือ: 089 811 7937 / 081 689 8245 / 085 055 1473
โทรศัพท์: 02 439 3837
อีเมล์:
กองประชาสัมพันธ์
มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
โทรศัพท์: 02 697 6783
โทรสาร:02 697 6786
อีเมล์:
www.utcc.ac.th

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version