กรุงเทพฯ--4 เม.ย.--โอกิลวี่ พับลิค รีเลชั่นส์ เวิลด์วายด์
บริษัทอินโฟเซฟ จำกัด ในธุรกิจกระดาษ เครือซิเมนต์ไทย (SCG Paper) เผยผลประกอบการปีแรกเป็นไปตามเป้า กวาดลูกค้ารายใหญ่กว่า 30 บริษัท ประกาศเดินหน้าขยายขอบเขตการบริการทำลายข้อมูลให้ครอบคลุมสื่ออื่นนอกเหนือจากกระดาษ อีกทั้งตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลแบบครบวงจร (Solution for Information Security) ด้วยการเพิ่มบริการจัดเก็บข้อมูลสำคัญเพิ่มเติม และรณรงค์สร้างความเข้าใจและตระหนักในการรักษาข้อมูลสำคัญขององค์กร เพื่อยกระดับมาตรฐานธุรกิจไทยสู่มาตรฐานโลก
นายมนตรี มหาพฤกษ์พงศ์ กรรมการผู้จัดการบริษัทอินโฟเซฟ จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2550 ซึ่งเป็นปีแรกที่บริษัทฯ เปิดดำเนินการและให้บริการย่อยทำลายข้อมูลสำคัญแบบครบวงจรสอดคล้องกับมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลกเป็นรายแรกของไทย นับว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี โดยหลังจากเริ่มเปิดดำเนินการในเดือนมิถุนายน 2550 ไปจนถึงสิ้นปีเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา บริษัทฯ มีลูกค้าแล้วกว่า 30 ราย ซึ่งประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์เป็นบริษัทข้ามชาติ ที่ให้ความสำคัญต่อการรักษาข้อมูลของลูกค้าและองค์กรมาก และอีก 30 เปอร์เซ็นต์ เป็นบริษัทไทย โดยเฉพาะกลุ่มสถาบันการเงิน ธุรกิจประกันภัย และธุรกิจบริการ
“แม้ว่าในปีแรกจะเป็นปีที่เราต้องทำงานหนักในการสร้างความเข้าใจ และกระตุ้นให้องค์กรต่างๆ ตระหนักถึงความสำคัญของการจัดเก็บและทำลายข้อมูลอย่างปลอดภัย แต่ปัจจัยหลักที่ทำให้เราประสบความสำเร็จมากก็คือ บริการที่สอดคล้องกับมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลก และการเป็นบริษัทในธุรกิจกระดาษ เครือซิเมนต์ไทย ที่มีความแข็งแกร่ง น่าเชื่อถือ เป็นที่ยอมรับทั่วไป ซึ่งให้ความมั่นใจกับลูกค้าได้อย่างเต็มที่”
นอกจากนี้ เพื่อสร้างการเติบโตต่อเนื่องในปี 2551 บริษัทฯ ได้ขยายขอบเขตการบริการทำลายข้อมูลสำคัญให้ครอบคลุมสื่ออื่นนอกเหนือจากกระดาษ อาทิ บัตรพลาสติก บัตรเครดิต แผ่นซีดีบรรจุข้อมูล
อีกทั้งยังเพิ่มบริการสแกนและจัดเก็บข้อมูลสำคัญอย่างเป็นระบบและปลอดภัย ช่วยให้ลูกค้ามั่นใจในบริการที่ครบวงจรซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการที่ข้อมูลจะรั่วไหลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“พร้อมกันนี้ บริษัทฯ จะเดินหน้าเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ ซึ่งจะยังคงเน้นบริษัทข้ามชาติเป็นส่วนใหญ่ (ประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์) และองค์กรชั้นนำของไทย (ประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์) อาทิ สถาบันการเงิน กลุ่มสื่อสารโทรคมนาคม กลุ่มธุรกิจบริการ และรัฐวิสาหกิจ โดยตั้งเป้าว่าในสิ้นปีนี้จะมีลูกค้าซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำของไทยกว่า 100 ราย และเรามั่นใจว่าในปีนี้ อินโฟเซฟจะก้าวขึ้นเป็นผู้นำในด้านการทำลายข้อมูลในกลุ่มลูกค้าที่เป็นองค์กรข้ามชาติ ” นายมนตรีกล่าว
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นการสร้างการรับรู้และการตระหนักด้านการให้ความสำคัญของข้อมูลลูกค้าและองค์กรให้กับกลุ่มเป้าหมายด้วยการจัดสัมมนา กิจกรรมต่างๆ และการเผยแพร่ข้อมูลผ่านทางสื่อต่างๆ โดยร่วมมือกับพันธมิตรในหลายธุรกิจ เนื่องจากในปัจจุบันหลายองค์กรอาจรู้เท่าไม่ถึงการณ์ว่า และไม่ได้ให้ความสำคัญในการทำลายข้อมูลลูกค้าอย่างถูกวิธีเมื่อหมดความสำคัญทางธุรกิจแล้ว ทำให้มิจจาชีพนำไปใช้ก่อให้เกิดความเสียหายได้ในภายหลัง
อีกกลยุทธ์หนึ่งที่บริษัทฯ จะทำควบคู่กันไป ประการแรก การรณรงค์เรื่องการลดการใช้ทรัพยากร โดยการนำข้อมูลสำคัญซึ่งอยู่ในรูปของกระดาษที่ถูกย่อยทำลายแล้วไปรีไซเคิล ผ่านกระบวนการผลิตเป็นกระดาษเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ ซึ่งช่วยลดปริมาณต้นไม้ที่นำมาทำเยื่อกระดาษ และลดการใช้เชื้อเพลิงและพลังงานในกระบวนการผลิต และเรื่องที่สองคือ การลดการเกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากกระบวนการผลิตเมื่อเปรียบเทียบกับการใช้เยื่อกระดาษใหม่อีกด้วย
“การสร้างการเติบโตทางธุรกิจด้วยการขยายฐานลูกค้าและเพิ่มเติมบริการใหม่ ประกอบกับการรณรงค์เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล และการรักษาสิ่งแวดล้อม จะเป็นส่วนผลักดันให้ธุรกิจที่ดูแลด้านความปลอดภัยของข้อมูลในประเทศไทยมีการเติบโต และองค์กรต่างๆ เกิดความตระหนักและหันมาพัฒนาการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของข้อมูลกันอย่างต่อเนื่อง และก้าวสู่มาตรฐานโลกได้อย่างแน่นอน” นายมนตรีกล่าว
รายละเอียดเพิ่มเติม : นิโลบล รอดบุญ
บริษัทอินโฟเซฟ จำกัด
โทร. 0 2586 6692 อีเมล์ [email protected]
อรุณี ชาติอุดมเดช ([email protected])/
วีร์ดา ปานรัตน์ ([email protected])
บริษัท โอกิลวี่ พับลิค รีเลชั่นส์ เวิลด์วายด์ จำกัด
โทร. 0 2205 6606, 0 2205 6630