เอฟทีเออาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี เตรียมลงนามสิงหานี้

กรุงเทพฯ--22 เม.ย.--กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ
การประชุมคณะเจรจาการค้าเสรีอาเซียน-เกาหลี ครั้งที่ 22 ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะให้มีการลงนามพิธีสารเข้าร่วมความตกลงว่าด้วยการค้าสินค้าและการค้าบริการในการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน-เกาหลี ในเดือนสิงหาคม ศกนี้ ส่วนการเจรจาจัดทำความตกลงว่าด้วยการลงทุนยังไม่คืบหน้า
นายนพดล สระวาสี รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ หัวหน้าคณะผู้แทนไทยในการประชุมคณะเจรจาการค้าเสรีอาเซียน-เกาหลี ครั้งที่ 22 ณ เมืองปูซาน สาธารณรัฐเกาหลี เปิดเผยถึงผลการประชุมว่า อาเซียนและเกาหลีได้ข้อยุติในเรื่องการลงนามพิธีสารเข้าร่วมความตกลงว่าด้วยการค้าสินค้าและความตกลงว่าด้วยการค้าบริการอาเซียน-เกาหลีของไทย มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน-เกาหลีในเดือนสิงหาคม ที่จะถึงนี้ ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์ โดยรัฐมนตรีเศรษฐกิจของอาเซียนและเกาหลีจะร่วมลงนามในพิธีสารทั้งสองฉบับกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของไทย เลื่อนจากเดิมที่กำหนดลงนามในเดือนพฤษภาคม เนื่องจากมีการแก้ไขรายละเอียดในร่างพิธีสารทั้งสองให้มีความสมบูรณ์และชัดเจนมากขึ้น อีกทั้งอาเซียนบางประเทศจะต้องใช้เวลาดำเนินกระบวนการภายในเพื่อเข้าร่วมลงนามกับไทยอย่างน้อย 2 เดือน ทั้งนี้ความตกลงทั้ง 2 ฉบับ คาดว่าจะเริ่มบังคับใช้ ปลายปีนี้
ประเด็นสำคัญอื่นที่มีการหารือกัน ได้แก่ การจัดสรรงบประมาณเพื่อดำเนินโครงการความร่วมมือทางเศรษฐกิจภายใต้กรอบความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-เกาหลี เกาหลีจัดสรรงบประมาณปี 2551 จำนวน 530,000 เหรียญสหรัฐ แก่โครงการต่างๆ ที่จะเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนมิถุนายน ศกนี้ โดยโครงการความร่วมมือทางเศรษฐกิจภายใต้กรอบความตกลงนี้จะครอบคลุมสาขาต่างๆ ได้แก่ การส่งเสริมการค้าการลงทุน การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ อุตสาหกรรมสิ่งแวดล้อม และพลังงาน เป็นต้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเกาหลี
“อนึ่ง การเจรจาจัดทำความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างอาเซียนและเกาหลี มีความคืบหน้าไม่มากนัก เนื่องจากทั้งสองฝ่ายยังไม่สามารถผ่อนปรนท่าทีและหาจุดร่วมในการเจรจาได้ ประเด็นที่ยังต้องมีการหารือ คือ การขยายผลประโยชน์ที่อาเซียนให้แก่ประเทศคู่เจรจาอื่นในอนาคตให้แก่เกาหลีโดยอัตโนมัติ (Automatic MFN) และการให้ความคุ้มครองการลงทุนก่อนเข้ามาจัดตั้งสำนักงานในประเทศ ทั้งนี้ โดยทั้งสองฝ่ายจะได้หารือนอกรอบเพิ่มเติมเพื่อให้การเจรจาบรรลุผลภายในปีนี้”
นายนพดล กล่าว