กรุงเทพฯ--29 เม.ย.--ทอท.
นายวุฒิพันธุ์ วิชัยรัตน์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) ครั้งที่ 7/2551 ในวันจันทร์ที่ 28 เม.ย.51 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมคณะกรรมการ ทอท.ชั้น 7 ซึ่ง พลอากาศโท ชนะ อยู่สถาพร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.ได้แถลงข่าวผลการประชุมคณะกรรมการ ทอท.ดังนี้
1. ประธานกรรมการ ทอท.มอบนโยบายให้ผู้บริหาร ทอท.เรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัยและการจัดซื้อจัดจ้าง
2. การแก้ไขผลกระทบด้านเสียงของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.)
ทอท.ได้เร่งรัดการดำเนินการแก้ไขผลกระทบด้านเสียงของ ทสภ.และแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนกับประชาชนโดยรอบ ทสภ.อย่างเร่งด่วนมาโดยตลอด แต่ประชาชนอาจจะยังไม่มีความพอใจในเรื่องการจ่ายเงินชดเชยและการจัดซื้ออสังหาริมทรัพย์ของ ทอท. ทอท.จึงขอชี้แจงว่าในพื้นที่ผลกระทบรุนแรง (NEF มากกว่า 40) ทอท.ได้เร่งประเมินราคาอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับผลกระทบและเจรจาซื้อตั้งแต่ปลายปี 2549 เพื่อให้ผู้เดือดร้อนย้ายออกจากพื้นที่โดยเร็ว โดยใช้หลักเกณฑ์การประเมินราคาที่เป็นธรรม ซึ่งได้มีเจ้าของตกลงขายในราคาประเมินให้ ทอท.จำนวน 26 อาคาร คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 174.22 ล้านบาท
สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการย้ายออกไป แต่ขอรับการชดเชยเป็นเงินค่าปรับปรุงอาคาร มีจำนวนทั้งสิ้น 307 อาคาร ซึ่ง ทอท.ได้จ่ายเงินไปแล้วจำนวน 135 อาคาร เป็นเงิน 35.59 ล้านบาท สำหรับอีก 50 อาคาร เป็นเงิน 10.05 ล้านบาท อยู่ระหว่างการดำเนินการ
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการร่วม 3 ฝ่ายเพื่อพิจารณาแก้ไขปัญหาผลกระทบด้านเสียงจากการเปิดใช้ ทสภ.(ไตรภาคี) ซึ่งกระทรวงคมนาคมแต่งตั้งนั้น ทอท.ได้ให้ความร่วมมือในการประชุมร่วมกันหาทางแก้ไขปัญหามาโดยตลอด และข้อเรียกร้องของประชาชนทุกเรื่องที่สรุปจากการประชุมไตรภาคีได้ถูกเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาแล้ว ตั้งแต่การประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 2 มกราคม 2551 แต่เนื่องจากเป็นช่วง การเปลี่ยนแปลงรัฐบาล คณะรัฐมนตรีจึงยังมิได้พิจารณาข้อเรียกร้องจากการประชุมไตรภาคี แต่ให้เร่งรัดดำเนินการชดเชยให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว
คณะกรรมการ ทอท.และผู้บริหารจึงได้ปรับแผนการดำเนินการชดเชยให้ขั้นตอนรวดเร็วขึ้นและ ได้ปรับระบบการทำงาน โดยได้แต่งตั้งคณะกรรมการชดเชยผลกระทบด้านเสียงจากการดำเนินงาน ทสภ. เพื่อพิจารณาและตรวจสอบหลักเกณฑ์การชดเชยให้เหมาะสม เป็นธรรม ถูกต้องสอดคล้องกับหลักกฎหมาย รวมทั้งขั้นตอนการชดเชยต้องโปร่งใส
ทอท.กำลังเร่งรัดดำเนินการแก้ไขผลกระทบให้บรรลุโดยเร็วที่สุด สำหรับการก่อสร้างทางวิ่งที่ 3 และที่ 4 นั้น ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการศึกษารายละเอียด และต้องมีการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่ คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการพัฒนาโครงการ รวมทั้งการกำหนดมาตรการป้องกัน แก้ไข และลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม และมาตรการติดตามตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อม เพื่อเสนอขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติต่อไป
ข้อมูลประกอบข่าวการประชุมคณะกรมการ ทอท.ครั้งที่ 7/2551
วันจันทร์ที่ 28 เมษายน 2551 เวลา 13.30 น.
ณ ห้องประชุมคณะกรรมการ ทอท.ชั้น 7
2. การแก้ไขผลกระทบด้านเสียงของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.)
ทอท.ได้เร่งรัดการดำเนินการแก้ไขผลกระทบด้านเสียงของ ทสภ.และแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน กับประชาชนโดยรอบ ทสภ.อย่างเร่งด่วนมาโดยตลอด แต่ประชาชนอาจจะยังไม่มีความพอใจในเรื่อง การจ่ายเงินชดเชยและการจัดซื้ออสังหาริมทรัพย์ของ ทอท. ทอท.จึงขอชี้แจงว่าข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขผลกระทบด้านเสียงของ ทสภ.ซึ่ง ทอท.ต้องดำเนินการทุกอย่างตามกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับและที่สำคัญที่สุดคือความถูกต้องโปร่งใสและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ในเรื่องการแก้ไขผลกระทบด้านเสียง คณะกรรมการ ทอท.และผู้บริหารมีนโยบายชัดเจนที่ให้ดำเนินการชดเชยผลกระทบที่เกิดขึ้น โดยคำนึงถึงความเป็นธรรม และพยายามเร่งรัดให้การแก้ไขผลกระทบบรรลุผลโดยเร็วที่สุด
โดยในพื้นที่ผลกระทบรุนแรง (NEF มากกว่า 40) ทอท.ได้เร่งประเมินราคาอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับผลกระทบและเจรจาซื้อตั้งแต่ปลายปี 2549 เพื่อให้ผู้เดือดร้อนย้ายออกจากพื้นที่โดยเร็ว โดยใช้หลักเกณฑ์ การประเมินราคาที่เป็นธรรม ซึ่งได้มีเจ้าของตกลงขายในราคาประเมินให้ ทอท.จำนวน 26 อาคาร คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 174.22 ล้านบาท
มูลค่าการชดเชยที่ ทอท.ใช้เจรจาซื้อประกอบด้วย
- มูลค่าที่ดิน ใช้ราคาตลาดที่เปรียบเทียบกับราคาที่ดินที่มีสภาพคล้ายคลึงกัน
- มูลค่าอาคาร ใช้วิธีการสำรวจรายละเอียดปริมาณวัสดุแล้วคำนวณมูลค่าอาคารจากประเภทและปริมาณวัสดุก่อสร้าง โดยรวมค่าแรง และค่าออกแบบรวมทั้งค่าอำนวยการ (Factor-F)
- มูลค่าไม้ผล ไม้ยืนต้น คำณวนตามราคาของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
- ค่าเสียหายอื่นๆ ได้แก่ ค่าธรรมเนียมการขออนุญาตปลูกสร้าง ค่าขนย้ายทรัพย์สิน ค่าทดแทนความเสียหายจากการย้ายที่อยู่ ค่าเสียหายทางจิตใจ และค่าติดตั้งสาธารณูปโภค
ดังนั้นจะเห็นได้ว่ามูลค่าการชดเชยที่ ทอท.ใช้ดำเนินการเจรจาซื้อมีหลักเกณฑ์ที่ให้ความเป็นธรรม แก่ประชาชนแล้ว
นอกจากนี้มีผู้ที่ไม่ต้องการย้ายออกไป แต่ขอรับการชดเชยเป็นเงินค่าปรับปรุงอาคาร มีจำนวนทั้งสิ้น 307 อาคาร ซึ่ง ทอท.ได้จ่ายเงินไปแล้วจำนวน 135 อาคาร เป็นเงิน 35.59 ล้านบาท สำหรับอีก 50 อาคาร เป็นเงิน 10.05 ล้านบาท อยู่ระหว่างการดำเนินการ
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการร่วม 3 ฝ่ายเพื่อพิจารณาแก้ไขปัญหาผลกระทบดานเสียงจากการเปิดใช้ ทสภ.(ไตรภาคี) ซึ่งกระทรวงคมนาคมแต่งตั้งนั้น ทอท.ได้ให้ความร่วมมือในการประชุมร่วมกันหาทางแก้ไขปัญหามาโดยตลอด และข้อเรียกร้องของประชาชนทุกเรื่องที่สรุปจากการประชุมไตรภาคีได้ถูกเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาแล้ว ตั้งแต่การประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 2 มกราคม 2551 แต่เนื่องจากเป็นช่วง2
การเปลี่ยนแปลงรัฐบาล คณะรัฐมนตรีจึงยังมิได้พิจารณาข้อเรียกร้องจากการประชุมไตรภาคี แต่ให้เร่งรัดดำเนินการชดเชยให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว
คณะกรรมการ ทอท.และผู้บริหารจึงได้ปรับแผนการดำเนินการชดเชยให้ขั้นตอนรวดเร็วขึ้นและ ได้ปรับระบบการทำงาน โดยได้แต่งตั้งคณะกรรมการชดเชยผลกระทบด้านเสียงจากการดำเนินงาน ทสภ.เพื่อพิจารณาและตรวจสอบหลักเกณฑ์การชดเชยให้เหมาะสม เป็นธรรม ถูกต้องสอดคล้องกับหลักกฎหมาย รวมทั้งขั้นตอนการชดเชยต้องโปร่งใส
การที่มีประชาชนบางส่วนออกแถลงการณ์ว่า ทอท.ทำผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 และอยู่เหนือกฎหมายจึงเป็นการกล่าวหาที่ไม่ถูกต้อง
ทอท.กำหนดแผนดำเนินการชดเชยพื้นที่ NEF 30-40 โดยการสนับสนุนการปรับปรุง อาคาร พร้อมกับการชดเชยในพื้นที่ NEF มากกว่า 40 แต่ในช่วงที่ผ่านมาประชาชนในพื้นที่ NEF 30-40 บางส่วน ได้เรียกร้องให้ ทอท.รับซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่เจ้าของต้องการขายด้วยหลักเกณฑ์เดียวกับพื้นที่ NEF มากกว่า 40 ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องที่ไม่สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ทางวิชาการและความเป็นจริง เนื่องจากระดับ NEF 30-40 จะมีผลกระทบต่ำกว่าและ อยู่ห่างจากสนามบินมากกว่าพื้นที่ NEF 40
ทอท.กำลังเร่งรัดดำเนินการแก้ไขผลกระทบให้บรรลุโดยเร็วที่สุด สำหรับการก่อสร้างทางวิ่งที่ 3 และที่ 4 นั้น ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการศึกษารายละเอียด และต้องมีการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่ คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการพัฒนาโครงการ รวมทั้งการกำหนดมาตรการป้องกัน แก้ไข และลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม และมาตรการติดตามตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อม เพื่อเสนอขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติต่อไป