กรุงเทพฯ--16 พ.ค.--ดีคอมพิวเตอร์
ดีคอมเผยปี 2550 โกยรายได้ 5,800 ล้านบาท พร้อมเปิดตัว ระบบ X- Theater คาดการณ์หลังรีแบรนด์เป็น “ดีคอมกรุ๊ป” จะเติบโตไม่น้อยกว่า 30 % ในปี 2551 นี้
นายวิกร วิวิธคุณาภรณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ดีคอมพิวเตอร์ จำกัด บริษัทค้าส่งสินค้าไอทีรายใหญ่ของประเทศ เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดตัว ระบบ Dcom X- Theater ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่การนำเอาเทคโนโลยีหลายรูปแบบมาผสมผสานและทดสอบจนแน่ใจในคุณภาพการเชื่อมต่อ โดยระบบจะเป็นทั้ง Home Entertainment ที่ให้คุณสมบัติทุกอย่างเหมือนชุด Home Entertainment
โดยพื้นฐาน เป็น Home Security เมื่อเชื่อมต่อกับกล้องวงจรปิด เป็น Home Network ทั้งแบบ Wireless และมีสาย เชื่อมต่ออุปกรณ์ไอทีได้ทุกรูปแบบ และยังเป็น Home Communication ใช้โทรศัพท์แบบ IP Phone หรืออินเตอร์เน็ตไปพร้อมกันได้ ทั้งหมดบริษัทได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากผู้ผลิต ไม่ว่าจะเป็น ASUS, Sanyo, SMC เป็นต้น
“ดีคอมเป็นเจ้าแรกที่แนะนำ Solution ที่สร้างความคุ้มค่าเช่นนี้ ผมเชื่อว่าแม้จะมีผู้ค้ารายอื่นสามารถนำเสนอ Solution ในลักษณะเดียวกันได้ แต่ดีคอมเน้นเรื่องการบริการ การติดตั้งจากผู้เชี่ยวชาญ และเราทดสอบทุก Solution ของเราอย่างมั่นใจก่อนนำสู่ตลาด” นายวิกร กล่าว
ทั้งนี้ ในปี 2550 ที่ผ่านมา ดีคอมพิวเตอร์มียอดขายประมาณ 5,800 ล้านบาท ซึ่งเป็นยอดที่กระเตื้องขึ้นกว่าปี 2549 เล็กน้อย ด้วยปัญหาทางเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาทางการเมืองตั้งแต่ปี 2549 เป็นต้นมา ทำให้การเบิกจ่ายเงินราชการ เรื่องการจัดซื้อ จัดจ้างต่าง ๆ ไม่เป็นไปตามกำหนดปกติ โดยที่ผู้บริโภคสินค้าไอทีส่วนสำคัญส่วนหนึ่งคือหน่วยงานภาครัฐ ทำให้การบริโภคไอทีในภาพรวมระหว่างปี 2549-2550 เติบโตค่อนข้างต่ำ
อย่างไรก็ตามในปี 2551 คาดว่าทิศทางจะดีขึ้นมาก เศรษฐกิจมีแนวโน้มขยายตัว จากตัวเลขต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนภาคเอกชน และภาครัฐ การที่มีรัฐบาลจากการเลือกตั้ง ทำให้งบประมาณต่างๆ เป็นไปตามปกติ และที่สำคัญราคาพืชผลทางการเกษตรที่สูงมากในช่วงนี้ เชื่อว่าจะทำให้กำลังซื้อไอทีสูงขึ้นทั้งประเทศ และดีคอมเองก็ตั้งเป้าที่จะเติบโตไม่น้อยกว่า 30% ในปี 2551 นี้
นายวิกร กล่าวต่อว่า ปัญหาหลักที่ต้องเอาใจใส่ก็คือ เรื่องการแข่งขันด้านราคาของสินค้าไอที ที่นับวันรุนแรงขึ้น รวมไปถึงเรื่องต้นทุนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นค่าจ้างพนักงาน ค่าขนส่ง ทำให้ดีคอมให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพการจัดการเป็นอันดับหนึ่ง
“ผมเชื่อว่าทิศทางของสินค้าไอทีในอนาคตยังจะเติบโตต่อเนื่อง โดยหากดูข้อมูลจากการสำรวจ มีการคาดการณ์ว่าตลาดไอทีของไทยจะโตประมาณ 9.3% จากปี 2551 โดยจะมีสัดส่วนฮาร์ดแวร์มากที่สุดถึง 73% นอกนั้นจะเป็นเรื่องบริการกับเรื่องซอฟท์แวร์ ในส่วนของดีคอมเอง เราตั้งเป้าโตขั้นต่ำว่า ต้องเติบโตกว่าค่าเฉลี่ยทั้งตลาดอย่างน้อย 2 เท่า”
ผู้บริหารดีคอม กล่าวต่อว่า ในปี 2550-2551 บริษัทเน้น 3 เรื่อง ได้แก่ ข้อหนึ่ง การ Reorganization แตกเป็น 3 บริษัท และเรียกรวมกันว่าดีคอมกรุ๊ป โดยใช้ระบบ BMHP เชื่อมโยงการทำงาน ข้อสอง คือการเพิ่มชนิดสินค้าจากที่ดีคอมเน้นสินค้าไอทีเป็นหลัก มาเป็นสินค้าที่เรียกกว่า IT Hybrid กลุ่มที่เป็น Life Style และ Home Entertainment และ ข้อสุดท้าย คือการลงทุนปรับปรุงระบบการจัดส่งสินค้า การซ่อมบำรุงอีกกว่า 300 ล้านบาท
“การรีแบรนด์ จากดีคอมพิวเตอร์ มาเป็นดีคอมกรุ๊ป เป็นการสะท้อนการลงทุนและพัฒนาองค์กรครั้งใหญ่ในครั้งนี้ โดยดีคอมต้องการสื่อสารออกไปในวงกว้างทั้งในและต่างประเทศว่า เราพร้อมแล้วที่จะแข่งขันกับคู่แข่งระดับโลกทุกราย และต้องการนำเสนอปรัชญาการทำธุรกิจอย่างยั่งยืนสู่สังคมไอที”
นอกจากนี้บริษัทคาดว่าการรีแบรนด์จะทำให้ผู้ค้าปลีกไอทีกว่า 4000 ราย ซึ่งเป็นลูกค้าหลักของดีคอมเข้าใจแนวคิดทางธุรกิจของดีคอมมากขึ้น โดยสิ่งสำคัญที่สุดที่บริษัทพยายามจะบอกลูกค้าคือ การทำธุรกิจไอทีอย่างยั่งยืนนั้น ต้องเน้นการบริการเป็นหลัก โดยต้องมีประสิทธิภาพที่จับต้องได้อย่างชัดเจน และสิ่งที่ดีคอมได้ลงทุนไปทั้งหมดก็เพื่อลูกค้าเหล่านี้ ที่จะสามารถสร้างบริการที่ดีต่อตลาดได้อีกด้วย