กรุงเทพฯ--16 พ.ค.--ธนาคารทหารไทย
- เน้นพัฒนาธุรกิจครบวงจรโดยเฉพาะรายย่อย
- เริ่มขายประกันชีวิตไอเอ็นจี ณ ทุกสาขาของธนาคารตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ธนาคารทหารไทยเปิดตัวการเป็นพันธมิตรร่วมกับไอเอ็นจีกรุ๊ปอย่างเป็นทางการ มั่นใจพร้อมที่จะผลักดันธนาคารให้เป็นธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ชั้นนำของประเทศ พร้อมเปิดขายผลิตภัณฑ์ของไอเอ็นจีประกันชีวิต ณ สาขาทั่วประเทศเป็นวันแรก
นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากที่ไอเอ็นจีกรุ๊ปได้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ธนาคารทหารไทย ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2550 นับเป็นการเปิดศักราชใหม่ของธนาคารที่จะพัฒนาธุรกิจบนฐานเครือข่ายการบริการทั่วประเทศ และประสบการณ์ในธุรกิจกว่า 50 ปี ตลอดจนความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า โดยมีแรงสนับสนุนจากพันธมิตรที่เข้มแข็งและมุ่งมั่นอย่างไอเอ็นจี ซึ่งจะช่วยเร่งให้ธนาคารทหารไทยก้าวขึ้นสู่ความเป็นธนาคารขนาดใหญ่ในชั้นนำของประเทศในไม่ช้า
นายสถิตย์กล่าวว่า “จากการทำงานร่วมกัน ไอเอ็นจีเป็นพันธมิตรที่มีความแข็งแกร่งทั้งสถานะการเงิน ความชำนาญและประสบการณ์ในธุรกิจการเงินการธนาคาร และได้แสดงความตั้งใจแน่วแน่ที่เป็นรูปธรรมที่จะเข้ามาช่วยพัฒนาธุรกิจของธนาคาร โดยที่ผ่านมา ธนาคารได้ส่งผู้บริหารจากไอเอ็นจี 2 ท่านให้มาดำรงตำแหน่งบริหารที่ธนาคาร คือ นายแรมกี้ สุบรามาเนียน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ลูกค้ารายย่อยและลูกค้าธุรกิจ และนายบาร์ต เฮลเลมานส์ ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านบริหารความเสี่ยง (ตลอดจนมีโครงการ TMB Powering Ahead with ING เพื่อพัฒนาธนาคาร และการออกผลิตภัณฑ์ร่วมกัน) ทำให้ธนาคารมั่นใจว่าจะสามารถมอบบริการและผลิตภัณฑ์ที่มีจุดเด่นและสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้าทุกกลุ่มได้อย่างต่อเนื่อง”
นายฟิลลิป ดามัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไอเอ็นจีรีเทลแบงก์ เอเชีย และกรรมการธนาคารทหารไทย กล่าวย้ำว่า “ไอเอ็นจีมีเจตนารมณ์ที่จะยกระดับผลการดำเนินงานของธนาคารทหารไทยให้สูงขึ้น เราเชื่อมั่นว่า ด้วยความร่วมมือนี้ เราจะสามารถให้บริการด้วยผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการทางเงินของลูกค้าและเสริมสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าของเรา”
นายสุภัค ศิวะรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย กล่าวถึงความร่วมมือของทั้งธนาคารทหารไทยและไอเอ็นจีว่า “การผนึกกำลังระหว่างกลุ่มธนาคารทหารไทย และกลุ่มไอเอ็นจีในครั้งนี้ เป็นการขยายฐานลูกค้า เครือข่ายการบริการ รวมทั้งทางเลือกของผลิตภัณฑ์ และเมื่อผสานผลิตภัณฑ์กองทุนรวมของ บลจ.ทหารไทย และ บลจ.ไอเอ็นจีแล้ว สามารถกล่าวได้ว่าเครือข่ายธนาคารทหารไทยจะมีทางเลือกสำหรับการลงทุนที่ โดดเด่นที่สุดสำหรับลูกค้าในประเทศไทย”
จะทำให้ธนาคารมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายเพิ่มขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยในวันนี้ เป็นวันแรกที่ธนาคารจะเริ่มเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของบริษัท ไอเอ็นจี (ประกันชีวิต) จำกัด โดยได้มีการพัฒนาระบบรองรับการจำหน่ายและฝึกอบรมให้ความรู้ด้านผลิตภัณฑ์แก่พนักงานที่ทำหน้าที่จำหน่ายเรียบร้อยแล้ว
ส่วนในวันที่ 12 มิถุนายน ธนาคารจะเริ่มเป็นตัวแทนสนับสนุนการขายกองทุนของบริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด นอกจากนี้ ธนาคารยังมีแผนในการขยายเครือข่ายบริการ โดยรวมทั้งด้านอินเตอร์เน็ตแบงกิ้ง คอลเซ็นเตอร์ และไดเร็กต์มาร์เก็ตติ้ง รวมทั้ง Smart Banking หรือ Cash Corner ซึ่งประกอบด้วยเครื่องเอทีเอ็ม เครื่องรับฝากเงินอัตโนมัติ และเครื่องปรับรายการสมุดคู่ฝากอัตโนมัติ โดยจะมีการติดตั้ง Cash Corner บนสถานีรถไฟฟ้า BTS 15 จุด ให้เสร็จสิ้นและเปิดใช้บริการได้ภายในเดือนกรกฎาคม ศกนี้ ทั้งนี้ นอกจากจะเป็นการขยายบริการให้ทั่วถึงแล้วยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่โดดเด่นให้แก่ธนาคารอีกด้วย
นายแรมกี้ สุบรามาเนียน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธุรกิจรายย่อยและลูกค้าธุรกิจ ของธนาคาร เปิดเผยด้วยว่า เพื่อเป็นการสมนาคุณลูกค้าเดิมเนื่องในโอกาสฉลองการเป็นพันธมิตรใหม่ระหว่างธนาคารทหารไทยกับไอเอ็นจี ธนาคารจะเปิดตัวโปรแกรม “TMB Orange Bonus” สำหรับลูกค้าเงินฝากเดิม โดยจะแจ้งรายละเอียดของโครงการให้ลูกค้าทราบตั้งแต่ 1 มิถุนายน เป็นต้นไป และหลังจากนั้น ธนาคารมีแผนที่จะออกผลิตภัณฑ์ “TMB Orange Savings” ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เงินฝากออมทรัพย์พิเศษสำหรับลูกค้าใหม่ต่อไปอีกด้วย
โอกาสที่มีการพัฒนาการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตผ่านธนาคารทหารไทย หรือ แบงก์แอสชัวร์รันส์ นาย รอน เวน โอวเยน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานประกันชีวิต ประจำภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิค กล่าวว่า ถือเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของกลยุทธ์ในการขยายขีดความสามารถของช่องทางการจัดจำหน่ายของ ไอเอ็นจี ในภูมิภาคเอเชีย
“ไอเอ็นจีร่วมงานกับธนาคารเป็นจำนวนมากในภูมิภาคและสามารถที่จะใช้ระบบและกลยุทธ์แบงค์แอสชัวร์รันส์ที่ใช้ในหลายๆภูมิภาคมาปรับใช้ในการเตรียมการเปิดตัวดำเนินการกับธนาคารทหารไทย” นายโอวเยนกล่าว
นายราเจช เสฐฐี กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอเอ็นจีประกันชีวิต จำกัด กล่าวว่า การร่วมเป็นพันธมิตรกับธนาคารทหารไทย นับเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญสำหรับช่องทางการจัดจำหน่ายใหม่ของ ไอเอ็นจีประกันชีวิต เนื่องจากการทำธุรกิจผ่านช่องทางแบงก์แอสชัวร์รันส์ในประเทศไทยนั้นเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่นับว่ามีอัตราการเติบโตสูงสุด และการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายใหม่ของไอเอ็นจี ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งช่องทางหลักที่สำคัญนอกเหนือจาก การขายผ่านช่องทางตัวแทนและช่องทางเทเลมาร์เก็ตติ้ง ที่มีผลงานในธุรกิจอยู่อันดับที่ 4 และ 1 ตามลำดับ
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้คัดเลือกแบบประกันพิเศษ 4 แบบ ที่เหมาะกับลูกค้าธนาคารธหารไทย ประกอบด้วย ทีเอ็มบี คุ้มค่า 15/8 ที่จับกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ปานกลางถึงสูง และทีเอ็มบี คุ้มอนาคต สำหรับลูกค้าที่เพิ่งมีรายได้หรือรายได้ปานกลาง ซึ่งทั้ง 2 แบบจะเหมาะกับผู้ที่กำลังสร้างครอบครัว และต้องการสะสมทรัพย์ระยะยาวเพื่อมีเงินไว้ใช้ในอนาคตโดยได้ผลตอบแทนที่แน่นอนโดยไม่มีความเสี่ยง ส่วนอีก 2 แบบคือ ทีเอ็มบี คุ้มครอง 99/8 เน้นลูกค้าที่มีครอบครัว และต้องการจะสร้างหลักประกันให้ครอบครัว และทีเอ็มบี คุ้มบ้าน ที่เจาะกลุ่มผู้ขอกู้สินเชื่อบ้าน เพื่อป้องกันภาระหนี้สินที่จะเกิดขึ้นกับคนข้างหลัง
“เราเชื่อมั่นว่า ด้วยฐานลูกค้าที่มีขนาดใหญ่ของธนาคารทหารไทย ประกอบกับสินค้า และกลยุทธ์การดำเนินงานของไอเอ็นจี จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งของพันธมิตรทางด้านแบงก์แอสชัวร์รันส์ให้ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วในอุตสาหกรรม เนื่องจากว่าสินค้าของเราได้ถูกออกแบบมาเพื่อลูกค้าของทางทหารไทยโดยเฉพาะ” นายเสฐฐี กล่าว
ด้านนายมาริษ ท่าราบ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนานวัตกรรมทางการลงทุนด้วยรูปแบบของกองทุนรวมประเภทต่าง ๆ ซึ่งจะสามารถสนับสนุนให้ลูกค้ามีทางเลือกเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ด้วยศักยภาพของกลุ่มไอเอ็นจี ที่มีโครงข่ายข้อมูลการลงทุนที่เชื่อมโยงทั่วโลก และเทคโนโลยีด้านการลงทุนใหม่ จะทำให้ลูกค้าได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจลงทุน และเมื่อลูกค้ามีความรู้มากขึ้น ก็จะส่งผลดีต่อการพัฒนาธุรกิจกองทุนรวมในระยะยาว
“ด้วยเครือข่ายสาขาของธนาคารทหารไทยที่มีอยู่ทั่วประเทศ ก็จะช่วยสนับสนุนให้แผนการพัฒนาและเสนอขายกองทุนต่างๆ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และบลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด จะทำการกระจายผลิตภัณฑ์กองทุนรวมของไอเอ็นจี ผ่านสาขาของธนาคารทหารไทยทั่วประเทศในวันที่ 12 มิถุนายน 2551 นี้เป็นต้นไป และในช่วงนั้นก็จะมีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าของธนาคารด้วย ขอให้ผู้ลงทุนคอยพบกับกองทุนรวมไอเอ็นจีได้ที่สาขาของธนาคารทหารไทยใกล้บ้านท่านทั่วประเทศ” นายมาริษกล่าว