กรุงเทพฯ--20 พ.ค.--กทม.
กทม. จับมือมูลนิธิเมาไม่ขับสนับสนุนกฎหมายไม่ใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ ภายใต้สโลแกน “โทรแล้วขับอันตราย เลี่ยงไม่ได้ ให้ใช้อุปกรณ์เสริม” ชี้อัตราเสี่ยงเทียบเท่าเมาแล้วขับ พร้อมแจกสมอลล์ทอล์คให้ผู้ขับขี่รถรับจ้าง ด้านตำรวจดีเดย์จับจริง 20 พ.ค. นี้
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธีเปิดการรณรงค์โครงการโทรไม่ถือ โดยมี นพ.แท้จริง ศิริพานิช ประธานโครงการโทรไม่ถือ และเลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ พร้อมด้วยภาคีเครือข่ายรณรงค์ลดอุบัติเหตุภาครัฐ และภาคเอกชนร่วมโครงการ
นายอภิรักษ์ กล่าวว่า กรุงเทพมหานครมีความห่วงใยพี่น้องประชาชนต่อปัญหาการใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ จึงร่วมกับมูลนิธิเมาไม่ขับ พร้อมด้วยภาคีเครือข่ายรณรงค์ลดอุบัติเหตุภาครัฐ ภาคเอกชนเพื่อขับเคลื่อนการรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงอันตรายจากการใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ สนับสนุนด้านความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนน เพื่อสอดรับกับพระราชบัญญัติจราจรทางบกฉบับที่ 8 ว่าด้วย การห้ามใช้โทรศัพท์ขณะขับรถยกเว้นใช้อุปกรณ์เสริม มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค. 51 ที่ผ่านมา ซึ่งผู้ฝ่าฝืนจะมีโทษปรับ 400-1,000 บาท ทั้งนี้จากสถิติข้อมูลในต่างประเทศพบว่า การใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับขี่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุเพิ่มขึ้นถึง 2-4 เท่า เนื่องจากผู้ขับขี่เสียสมาธิ เกิดความผิดพลาดในการมองเห็นป้ายสัญลักษณ์จราจร และไม่สามารถจดจำรายละเอียดได้ ทำให้เบรกช้าลง 0.5 วินาที เทียบเท่ากับผู้ขับขี่ที่มีระดับแอลกอฮอล์ในเลือด 80 มิลลิกรัม หรือเทียบเท่าเมาแล้วขับนั่นเอง ดังนั้นหากผู้ขับขี่ปฏิบัติตามกฎหมาย หลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ หรือหันมาใช้อุปกรณ์เสริมทดแทน อาทิ สมอลล์ทอล์ค หรือบลูทูธ จะเป็นการเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้านจิตสำนึกในการใช้รถใช้ถนน ตลอดจนความปลอดภัยของผู้ขับขี่ และผู้ที่ร่วมเดินทางไปด้วย
ด้าน พล.ต.ต.ภานุ เกิดลาภผล รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เพิ่มเติมว่า จากช่วง 8 วันที่ผ่านมา พบผู้กระทำผิดจำนวนทั้งสิ้น 1,444 ราย โดยอ้างสาเหตุมาจากการใช้อุปกรณ์เสริมของโทรศัพท์ไม่เป็น ไม่ทราบวิธีการใช้ หรือโทรศัพท์มีรุ่นเก่า ฯลฯ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้วิธีการว่ากล่าวตักเตือนผู้ขับขี่ไปก่อน ทำให้สถิติของผู้กระทำผิดมีจำนวนลดลงอย่างเห็นได้ชัด และในวันที่ 20 พ.ค. 51 นี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเริ่มกวดขันจับกุมอย่างจริงจัง
ทั้งนี้กรุงเทพมหานคร ร่วมกับมูลนิธิเมาไม่ขับ ได้จัดให้มีการแจกอุปกรณ์เสริมสมอลล์ทอล์ค จำนวน 3,000 ชุดให้กับผู้ขับขี่ รถแท็กซี่ และผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง ซึ่งถือเป็นหัวใจหลักในการบริการสาธารณะตลอด 24 ชั่วโมงแก่คนเมืองหลวง เพราะผู้ขับขี่จำเป็นต้องใช้สมาธิ และต้องคำนึงถึงสวัสดิภาพของผู้โดยสารเป็นหลัก หากใช้โทรศัพท์ขณะขับรถอาจเกิดอันตรายได้ และขอเชิญชวนประชาชนปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อให้ถนนในประเทศไทยปลอดจากอุบัติเหตุ และร่วมกันเฝ้าระวังผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมายห้ามใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ โดยส่งภาพถ่ายหรือภาพคลิปวิดีโอผู้ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ มาที่ www.trafficepolice.go.th และ www.ddd.co.th